โรลันด์ โฟล์เกร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า Mercedes-Benz ประกาศเดินหน้าการทําตลาดโดยมีแผนการประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยได้สัมผัสกับที่สุดของความเป็นยนตรกรรมระดับ Ultra Luxury ที่มอบความหรูหราจาก Mercedes-Maybach ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งความพิเศษก็คือ ไทยจะเป็น 1 ใน 2 ประเทศแรกในโลก ร่วมกับประ เทศจีน ที่จะเริ่มทําตลาดรถยนต์ Mercedes-Maybach รุ่นพลัก-อิน ไฮบริดภายในประเทศ ก่อนหน้านี้
Mercedes-Maybach ได้เปิดตัวเอสยูวีระดับ Ultra Luxury รุ่น“Mercedes-Maybach GLS 600 4Matic Premium” ที่ถือเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมจาก Mercedes-Benz รวมถึงการแนะนํา “Mercedes-Maybach S 580 4Matic Premium” รุ่นประกอบนอก โดยที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม วันนี้ เรายังจะเพิ่ม Mercedes-Maybach S 680 4Matic Premium เป็นอีกตัวเลือกใหม่ของยนตรกรรมสุดหรูหราในตระกูลนี้ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สต์คลาสส์ และความสะดวกสบายเหนือระดับให้แก่ลูกค้าอีก 1 รุ่น ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียด และจับจองได้ที่ผู้จําหน่ายอย่างเป็นทางการแบบเอกซ์คลูซีฟ ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป, ไพรม์มัส ออโตเฮาส์, สตาร์แฟลก และ TTC Motor ท้ังหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า นอกจาก Mercedes-Maybach จะเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมที่ทั้งหรูหรา สะดวกสบาย และพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ระดับ Ultra Luxury ในประเทศไทยนั้นเติบโตไปในทิศทางที่ดี และด้วยความพรั่งพร้อมในทุกๆ ส่วน ทั้งในด้านการผลิต การจัดเตรียมอะไหล่ตลอดจนการบริการหลังการขายจากทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างเข้มข้นภายใต้มาตรฐานระดับสากล นี่จึงเป็นที่มาให้เรามีแผนในการประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย
บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า Mercedes-Benz มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้กำหนดทเรนด์ใหม่ๆ ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นจึงเป็นที่มาของการริเริ่มทําสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนําเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของเราภายในการจัดงานแสดงรถยนต์ตลอดระยะเวล าที่ผ่านมา รวมทั้งในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ที่กําลังจะมาถึงในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้ "ดิจิทอลไกด์" เพื่อให้คําแนะนํา และนําเสนอข้อมูลรถยนต์ด้วยความเชี่ยวชาญในรูปแบบดิจิทอล โดยไม่จํากัดว่าจะต้องเป็นเพศใด การนําเสนอบูธ Mercedes-Benz ภายใต้คอนเซพท์ “Vision of The Beyond” ในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ลูกค้าสามารถเข้ามาโต้ตอบกับ AI Artist โดยจะแสดงข้อความต้อนรับเข้าสู่บูธแบบเอกซ์คลูซีฟ ดื่มด่ำกับประสบการณ์ใหม่ของการเลือกชมรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างสอดคล้องกับตัวตน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ผ่านพแลทฟอร์ม Mid Journey
นอกจากนี้ เรายังมีไฮไลท์ของรถยนต์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายมาให้ลูกค้าได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า 100 % ที่ประกอบในประเทศอย่าง “EQS 500 4Matic AMG Premium” รวมถึง “Mercedes-AMG SL 43 ” ยานยนต์สปอร์ทพลังแรงตามแบบฉบับรถยนต์ AMG ที่แฟน Mercedes-Benz ตัวจริงรอคอย และ “Mercedes-Benz C 350 E AMG Dynamic” ยานยนต์พลัก-อิน ไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C- Class ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม
สําหรับไฮไลท์ของรถยนต์รุ่นใหม่จาก Mercedes-Benz ที่ลูกค้าจะได้พบภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ได้แก่
“EQS 500 4Matic AMG Premium” ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่ Mercedes-Benz พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยพแลทฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมเรื่อยไปจนถึงดีไซจน์ภายนอก และภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สําหรับโลกอนาคตจาก Mercedes-Benz โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100 % จากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวพร้อมความจุของแบทเตอรีขนาด 108.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กําลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 84.4 กก.-ม. หรือ 828 นิวตัน-เมตร
ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทําความเร็วสูงสุดได้ 210 กม./ชม. ซึ่งด้วยความจุของแบทเตอรีขนาดใหญ่ทําให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กม. (WLTP)/การชาร์จแบทเตอรีจนเต็ม 1 ครั้ง
EQS 500 4Matic AMG Premium จําหน่ายในราคา 7,900,000 บาท
“Mercedes-AMG SL 43” รถยนต์สปอร์ทขุมพลังแรงเวอร์ชันใหม่ของรุ่นที่เป็นตํานานจากแบรนด์ Mercedes-Benz ที่แฟน Mercedes-Benz ตัวจริงรอคอย กับความเป็นที่สุดในทุกด้าน ทั้งความสะดวกสบายในทุกสัมผัส อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ทถึงขีดสุดจากภายนอกถึงภายใน และขุมพลังความแรงที่ไม่อาจต้านทานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จ มอบพละกําลังในการขับขี่ตามแบบฉบับของรถยนต์ AMG ด้วยกําลังสูงสุด 381 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 49.0 กก.-ม. หรือ 480 นิวตัน-เมตร ดีไซจ์นภายนอก คือ การบรรจบกันระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ทพลังแรง และความเป็นรถยนต์ซีดานที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา ส่วนห้องโดยสารภายในให้รายละเอียดที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถยนต์มอเตอร์สปอร์ท 2 ประตู พร้อมเบาะที่นั่งแบบ 2+2 ที่มอบความสะดวกสบายสูงสุดสําหรับการขับขี่ในทุกๆ วัน โดยเฉพาะการมาพร้อมระบบ MBUX เจเนอเรชันล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สต์คลาสส์ให้แฟนรถยนต์รุ่น SL ตัวจริงในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร
Mercedes-AMG SL 43 จําหน่ายเริ่มต้นในราคา 11,700,000 บาท
“Mercedes-Benz C 350 E AMG Dynamic” คือ รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดรุ่นใหม่ในตระกูล C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อา ศัยพลังงานจากแบทเตอรีขนาด 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น
เจเนอเรชันที่ 4 ให้กําลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 56.1 กก.-ม. หรือ 550 นิวตัน-เมตร โดยรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กม. และทําความเร็วสูงสุดจากการขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าได้ถึง 140 กม./ชม. รถยนต์คันนี้ยังมาพร้อมรายละเอียดของการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซจ์นใหม่ในคอนเซพท์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ท และความหรู หรา ดีไซจ์นภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ท และขนาดตัวรถที่กว้างขึ้นในทุกมิติ ส่วนดีไซจ์นภายในก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ท้ังยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย และมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น
Mercedes-Benz C 350 E AMG Dynamic จําหน่ายในราคา 3,350,000 บาท