Hopium Machina ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส 2022 ทำระยะเดินทางได้ 1,000 กม. และเติมเชื้อเพลิงเสร็จภายในเวลา 3 นาที ตั้งราคาที่ 120,000 ยูโร (ประมาณ 4.49 ล้านบาท)ข่าวจากอังกฤษ ระบุว่า Hopium Machina ผลงานรถไฟฟ้าคันแรกจากบริษัทสตาร์ทอัพ สัญชาติฝรั่งเศส ที่หวังรับส่วนแบ่งของกลุ่มรถไฟฟ้าหรู พลังไฮโดรเจน นับเป็นความได้เปรียบเหนือคู่แข่งระดับเดียวกันทั้ง BMW i7 หรือ Mercedes-Benz EQS ซึ่งต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทหวังว่าต้องมีการจัดการสถานีบริการไฮโดรเจนได้อย่างเพียงพอเช่นกัน พลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดที่ 493 แรงม้า ถ่ายทอดพลังลงสู่ถนนด้วยยาง Bridgestone ที่พัฒนาให้ลดความต้านทานการหมุนของยาง ให้มีระยะเดินทางไกลกว่า นอกจากมีระยะเดินทางมากขึ้นแล้ว Machina ยังสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 5 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 230 กม./ชม. แม้จะทำความเร็วสูงสุดไม่เท่ากับรถไฟฟ้าหรู ระดับเดียวกัน ทั้ง Lucid Air Dream Edition ที่ทำความเร็วสูงสุด 270 กม./ชม. และ Tesla S Plaid ที่มีความเร็วปลายระดับ 320 กม./ชม. แต่ความหรูหราภายในห้องโดยสารก็ไม่น้อยหน้าใคร สามารถรับผู้โดยสารได้ 4 ที่นั่ง พร้อมระบบสาระบันเทิง แบบจอสัมผัสที่ติดตั้งบนแผงหน้าปัด วัสดุที่ใช้ในการผลิตล้วนมีแหล่งอยู่ภายในยุโรป เพื่อลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งไปยังฐานการผลิตของ Hopium ใน Normandy โรงงานมีแผนจะเริ่มผลิตรถได้ในปี 2568 พร้อมกับจ้างงานมากถึง 1,500 ตำแหน่ง โดยมีเป้าหมายจะผลิตรถประมาณ 20,000 คัน/ปี ฐานการผลิตใน Normandy ซึ่งเป็นโรงงานหลักมีแผนจะขยายการผลิตเพิ่มอีก ตั้งเป้าทำยอดขายถึง 120 ล้านยูโร (ประมาณ 4,497 ล้านบาท) ในปี 2568 และเพิ่มยอดขายไปถึง 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 37,476 ล้านบาท) ภายในปี 2573 Hopium Machina ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถหรูระดับพรีเมียม โดยมีราคาที่ยอมรับได้ และสามารถต่อสู้กับคู่แข่ง อย่าง Mercedes-Benz EQS กับ Porsche Taycan และมีแผนจะผลิตเพิ่มอีกรุ่นในปี 2570 ใช้เวลา 2 ปี หลังการเปิดตัวรถรุ่นแรกของค่าย