ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Morgan Plus รถสปอร์ทสไตล์คลาสสิคที่ได้รับความนิยมตลอดมา โดยเฉพาะรุ่น Plus Four ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2493 สำหรับ Morgan Plus Four และ Plus Six รุ่นปี 2566 ได้รับการปรับปรุงภายในห้องโดยสารให้ทันสมัย และตอบสนองการใช้งานได้ดีมากขึ้น
ทั้ง 2 รุ่นใช้โครงสร้างหลัก Platform อลูมิเนียมเชื่อม CX-Generation ทั้ง 2 รุ่นต่างกันเล็กน้อย โดยรุ่น Plus Four มีตัวถังทรงแคบ ส่วนรุ่น Plus Six มีตัวถังกว้าง และมีความดุดันมากกว่า
ระบบส่งกำลังของ Plus Four มาจากเครื่องยนต์ BMW แบบ 4 สูบ เทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 255 แรงม้า ที่ 4,400 รตน. แรงบิดสูงสุด 40.8 กก.-ม. แบบ Flat Torque ตั้งแต่ 1,000-4,300 รตน. ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
สำหรับ Morgan Plus Six ใช้เครื่องยนต์ BMW แบบ 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 335 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
Morgan ใหม่ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Control) ซึ่งสามารถปรับระดับได้หลายระดับ, มีการเปลี่ยนชอคอับ และบุชระบบรองรับใหม่ ทำให้ตอบสนองการขับขี่ดีขึ้น และเพิ่มสมรรถนะขณะใช้ความเร็วสูงดีขึ้น
ห้องโดยสารของ Plus Four และ Plus Six ถูกปรับปรุงใหม่แบบยกชุด แดชบอร์ดใช้อลูมิเนียมขึ้นรูปแบบ Superform ที่เลือกได้ทั้ง สีเงิน, สีดำด้าน หรือสีเดียวกับตัวรถ ติดตั้งระบบถุงลมนิรภัย, มีช่องเก็บสัมภาระด้านหน้ารถ และมีออพชันติดตั้งที่วางแก้วได้
ด้านหน้าคนขับ ติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลแบบแอลซีดีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความละเอียดมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ และคงความหรูหราคลาสสิคด้วยเกจวัดแบบแอนาลอกขอบโครเมียมขัดมัน
ทั้ง Plus Four และ Plus Six ได้รับการปรับปรุงระบบเครื่องเสียงใหม่ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันกับบริษัท Sennheiser โดยติดตั้งลำโพง Stereo 8 ตัว โดยติดตั้งที่หลังแผงแดชบอร์ด 4 ตัว