เผยโฉม All-New Toyota Prius 2023 ครั้งแรกในไทย 21 มีนาคม นี้

Toyota ประเทศไทย พร้อมเผยโฉม All-New Toyota Prius 2023 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ทำให้แฟนๆ Toyota Prius ทั้งประเทศ มีความหวังที่จะได้เห็นรถรุ่นนี้กลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้ง หลังรุ่นนี้ทำตลาดไปแล้วในญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา โดยมีกำลังทั้งแบบ Prius hybrid และ Prius Prime PHEV ที่สามารถวิ่งได้ไกล 87 กม. All-New Toyota Prius รุ่นนี้ นับเป็นเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว ที่ใช้พแลทฟอร์มของ TNGA-C รุ่นที่ 2 และมีมิติต่างจากรุ่นเดิมเล็กน้อย โดยตัวรถของรุ่นใหม่ความยาวลดลง 50.8 มม. กว้างขึ้น 25.4 มม. และมีความสูงลดลง 25.4 มม. สำหรับแบทเตอรีถูกวางไว้ใต้เบาะนั่งด้านหลัง เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ และไม่เบียดบังพื้นที่เก็บสัมภาระ Prius ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน มีพลังเพิ่มขึ้นถึง 15 % ส่งพลังขับเคลื่อนไปยังล้อหน้าด้วยกำลังสุทธิ 194 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลงเฉลี่ยในรุ่นเริ่มต้น (ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า) อยู่ที่ 24.2 กม./ลิตร ในขณะที่ Prius รุ่นปี 2565 ทำได้ 22.1 กม./ลิตร Toyota ได้นำเสนอ Prius ใหม่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อคู่หลัง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไฮบริด ให้กำลังสุทธิ 196 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ในเวลา 7.0 วินาที Prius Prime พร้อมระบบพลัก-อิน ไฮบริด นับว่าเป็นรุ่นที่ร้อนแรงที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ความจุ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี ให้กำลังสุทธิ 220 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 6.6 วินาที สำหรับการทำระยะเดินทางด้วยไฟฟ้าล้วน รุ่นเดิมทำได้ 40 กม. ส่วนรุ่นใหม่ทำได้มากกว่าถึง 50 % ทำระยะเดินทางด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ได้ 60 กม. ทั้งยังสามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพิ่มได้อีกด้วย Toyota Prius ในสหรัฐฯ จะมีทั้ง Prius และ Prius Prime โดยมีให้เลือก 3 ระดับ โดยรุ่นไฮบริด จะแบ่งเป็น LE, XLE และ Limited ส่วนรุ่นพลัก-อิน ไฮบริด จะมี SE, XSE และ XSE Premium ในรุ่นสูงสุดติดตั้งจอมัลทิมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (พร้อมการอัพเดท OTA) ระบบเครื่องเสียงติดตั้งลำโพง JBL ระดับพรีเมียม 8 ตำแหน่ง เบาะหน้ามีระบบเพิ่มอุณหภูมิ และระบบถ่ายเทอากาศด้วย ในระดับกลางของทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งล้อขนาด 19 นิ้ว มีที่วางแก้วอีก 2 ตำแหน่ง กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ส่วนรุ่นเริ่มต้นติดตั้งล้อขนาด 17 นิ้ว จออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8.0 นิ้ว พร้อมระบบ Toyota Safety Sense ที่เป็นมาตรฐานให้แก่ทุกรุ่น สำหรับรุ่นที่จะนำมาโชว์ในประเทศไทย จะเป็นรุ่นไหน 21 มีนาคม นี้รู้กันทั่วประเทศ