สาระเชิงโฆษณา
Mitsubishi ประกาศแผน “Challenge 2025”

ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mitsubishi Motors Corporation และเออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันกล่าวว่า Mitsubishi XRT Concept เป็นรถต้นแบบของรถกระบะ Triton โมเดลใหม่ ที่มาพร้อมดีไซจ์นดุดันสะดุดตา ตั้งแต่หัวจรดท้าย เสริมอารมณ์แกร่งด้วยเส้นนำสายตาจากกระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถัง ในสไตล์แนวราบ พร้อมการตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า/หลัง และติดตั้งยางลุยโคลน (Mud-Terrain) ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนในเส้นทางแข่งขันแรลลีที่ทุรกันดาร ตัวถังหุ้มลายพราง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ลาวา” หินภูเขาไฟที่อัดแน่นด้วยพลังงานอันทรงพลัง พร้อมกราฟิคเส้นขนานแนวเฉียง 10 เส้น ในแบบฉบับของโลโก Ralliart ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการขับเคลื่อนไปข้างหน้าของ Mitsubishi Motors ได้อย่างโดดเด่น
ในปีนี้ ทีม Mitsubishi Ralliart ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจาก Mitsubishi Motors ได้วางแผนลงแข่งขันในรายการ Asia Cross Country Rally 2023 ด้วยรถพโรโทไทพ์ครอสส์คันทรี ซึ่งเป็น Triton รุ่นใหม่ (Group T1) โดยมีเป้าหมายมุ่งคว้าแชมพ์ 2 สมัยติดต่อกัน โดย Mitsubishi Triton
อย่างไรก็ตาม Mitsubishi มีแผนที่แนะนำ Triton ใหม่อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา Mitsubishi ได้ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง รอบ 3 ปี (ปีงบประมาณ 2566-2568) เดินหน้าเต็มสูบผลักดันธุรกิจให้เติบโต
แผนหลักของ “Challenge 2025” ในการดำเนินธุรกิจในอนาคต ประกอบด้วย
- มุ่งสู่เป้าหมายยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ 1.1 ล้านคัน และผลกำไรจากการปฏิบัติงาน 2.2 แสนล้านเยน หรือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท (อัตราส่วนกำไรจากการปฏิบัติงาน ร้อยละ 7)
- ให้ความสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรเพื่อการดำเนินงานในภูมิภาคอาเซียน/โอเชียเนีย ควบคู่ไปกับการเพิ่มยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด และรายได้
- เปิดตัวรถยนต์ 16 รุ่น ภายใน 5 ปีข้างหน้า รวมถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (xEV) 9 รุ่น
- ขยายการลงทุนเพิ่มประมาณร้อยละ 30 ภายใน 6 ปีข้างหน้า จนถึงปี 2571 ด้านการวิจัย และพัฒนา และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (คาดว่าการจัดสรรการลงทุนด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ไอที และธุรกิจใหม่จะมีอัตราส่วนประมาณร้อยละ 70 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2569 เป็นต้นไป)
- ลดปริมาณแกสเรือนกระจก เพื่อช่วยขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
- ลงทุนมูลค่า 2.1 แสนล้านเยน หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573 เพื่อจัดหาแบทเตอรี-รวมทั้งหมด 15 กิกะวัตต์ชั่วโมง
- กระชับความสัมพันธ์กับบริษัทพันธมิตร (การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมกัน ฯลฯ)
- สร้างความท้าทายในธุรกิจใหม่ ด้วยการใช้สินทรัพย์ที่มีความพิเศษเฉพาะสำหรับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ (การจัดการพลังงาน การนำแบทเตอรีกลับมาใช้ใหม่ การจำหน่ายข้อมูล ฯลฯ)
ตามแผนพัฒนาของ Mitsubishi ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา พิคอัพ BEV เพราะมองเห็นถึงความเป็นกลางทางคาร์บอน มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนารถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกมาสู่ตลาด ซึ่งประเทศไทยมีความสำคัญ และจะมีการพัฒนารถรุ่นนี้ออกมาสู่ตลาด ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม BEV จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม รถ Mitsubishi Triton รุ่นปัจจุบันก็สามารถที่จะขับขี่ได้อย่างสนุก ทรงพลัง และบวกกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็จะส่งผลดีมีประโยชน์มากขึ้น
สำหรับในประเทศไทย Mitsubishi มีเป้าหมายที่จะทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่าย พัฒนา และมองทิศทางของผลิตภัณฑ์ในอนาคตไปด้วยกัน รวมถึงการพัฒนาบริการหลังการขายให้ดีขึ้น มีผลดีต่อรถ ขายต่อได้ในราคาสูงขึ้น ยกระดับคุณภาพ พร้อมป้อนผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด โดย Mitsubishi Triton ใหม่ เรามั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดในประเทศ รวมถึงส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศอีกด้วย รวมถึงยังจะมีรถยนต์รุ่นอื่นๆ แนะนำตามมา ตามที่ Mitsubishi ประกาศแผนธุรกิจที่จะมีรถยนต์รุ่นใหม่ตอบโจทย์ในตลาดอาเซียนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงจะมีเทคโนโลยี EV ที่จะนำมาเปิดตัวอีกด้วย
แต่เรามองว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พร้อมสำหรับรถ EV โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวภายใน 5 ปี เพราะยังต้องดูที่โครงสร้างพื้นฐานของไทยให้มีความพร้อมมากกว่านี้ก่อน
สำหรับเรื่องของมาตรฐานยูโร 5 ที่จะต้องพร้อมใช้ในปี 2067 นั้น Mitsubishi มีการเตรียมความพร้อม แต่จากนี้ต่อไปเราจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ รถที่ได้รับการตอบรับจากตลาด เราก็จะมีการพัฒนาให้ตอบรับตามกำหนดอย่างแน่นอน


