รถล่าสุด
MG Maxus 9 รถ MPV 7 ที่นั่ง ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในไทย

MG Maxus 9 หรือ New Maxus Mifa 9 MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ลักชัวรี
MG Maxus 9 เด่นทั้งงานดีไซน์ที่โดดเด่น หรูหรา มีเอกลักษณ์ กระจังหน้าแบบ Grille Less Design ประตูข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 5,270/2,000/1,840 มม. และระยะฐานล้อยาว 3,200 มม.
การตกแต่งภายใน พรีเมียม หรูหรา หลังคาแบบ Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด อีกทั้งยังมี Ambient light ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี ที่ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และเบาะแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat แบบที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน โดยมีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ พร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้
จอกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ให้พลังเสียงแบบรอบด้านด้วยลำโพงมากถึง 12 จุด และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อด้วยช่อง USB มากถึง 9 ตำแหน่ง เสริมความพรีเมียมด้วยกระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror กับมุมมองที่หาไม่ได้จากรถทั่วไป
นอกจากนี้ ในด้านของสมรรถนะและประสิทธิภาพ MG Maxus 9 มีขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 35.7 กก.-ม. หรือ 350 นิวตันเมตร แบทเตอรีแบบลิเธียมไอออน (Lithium-ion Battery) จัดวางแบบ Cell-To-Pack ขนาดความจุ 90 kWh ให้ระยะวิ่งสูงสุดที่ 540 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดที่ 120 kWh โดยชาร์จไฟจาก 30% - 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที และการชาร์จแบบธรรมดา รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh โดยชาร์จไฟจาก 5% - 100% ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง
พร้อมมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูงอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADAS รวม มากถึง 25 ระบบ โดย MG Maxus 9 ได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ทั้ง EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP
New MG Maxus 9 พร้อมทำตลาดและจัดจำหน่ายในไทย 2 รุ่นย่อย ได้แก่

รุ่น X – LUXURY ที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท
รุ่น V – SUPER LUXURY ที่มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ เพิ่ม อีก 30,000 บาท
ซึ่งมาพร้อมแคมเปญมูลค่า กว่า 120,000 บาท ประกอบด้วย
ฟรี MG Home Charger จำนวน 1 ชุด มูลค่า 42,057 บาท และฟรี ค่าติดตั้ง มูลค่า 18,692 บาท
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบทเตอรี 8 ปี หรือ 200,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการรถ Limousine Service กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 

