การเข้าร่วมแข่ง Pikes peak International Hill Climb ในครั้งนี้ Alpine ร่วมมือกันกับทีมแข่ง Signatech ในการพัฒนารถ A110 คันนี้ ต้องผ่านการทดสอบอย่างหนักที่สนาม Lurcy-Lévis แล้วส่งไปทดสอบอีก 2 ครั้งทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันใน โคโลราโด ที่มีระยะทางถึง 19.93 กม. กับ 156 โค้ง และเส้นชัยที่ความสูง 4,302 ม. เหนือระดับน้ำทะเล
นอกจากปีกหลังขนาดใหญ่ A110 Pikes Peak แล้ว ด้านหน้ายังติดตั้งสลิเธอร์ และแผ่นดักลมด้านข้าง, ครีบขนาดใหญ่กลางหลังคาเหนือช่องดักลมป้อนเครื่องยนต์ ด้านท้ายรถมีดิฟฟิวเซอร์ พร้อมแอโรคิท ซึ่งประกอบไปด้วยแผ่นดักลมด้านข้าง สปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ทข้างออกแบบใหม่
เครื่องยนต์ถูกปรับแต่งให้มีกำลังเกือบ 500 แรงม้า (373 กิโลวัตต์) จากเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ เดิมมีกำลังสูงสุด 296 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 34.7 กก.-ม. ขับเคลื่อนล้อหลัง
Alpine A110 เวอร์ชัน Pikes Peak ถูกรีดน้ำหนักลงมาเหลือ 950 กก. ทำให้มีน้ำหนักโดยรวมเบากว่า Mazda MX-5 990S รุ่นพิเศษที่เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อปลายปี 2564 แต่มีพละกำลังมากกว่าเกือบ 3 เท่า
ในปีนี้ การเข้าร่วมการแข่งของ Alpine A110 ที่สนาม Pikes Peak เพื่อเตรียมการวางตลาดของ Alpine ในสหรัฐอเมริกา ในอนาคต 
