Platform ใหม่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก มีมอเตอร์ไฟฟ้ากับชุดเพลาขับล้อหน้า ส่วนกลาง จะเป็นตัวกำหนดความยาวของตัวรถ และแบทเตอรี และส่วนท้ายมี 2 เวอร์ชัน โดยแบบแรกมีมอเตอร์ (รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) และแบบไม่มีมอเตอร์
ลักชัวรีแวน (Platform ของ VAN.EA-P) จะอยู่ในกลุ่มรถขนาดกลาง ที่มีระยะเดินทางมากกว่า 500 กม. พร้อมเทคโนโลยีไร้คนขับมาตรฐาน SAE ระดับ 2 ในช่วงเปิดตัว แต่จะเปลี่ยนเป็นระดับ 3 ในปี 2573 Platform นี้ สามารถใช้ผลิตได้ทั้งรถโดยสาร และรถขนส่ง ซึ่งจะมีความแตกต่างกันที่สไตล์ของตัวรถ
Platform สำหรับรถขนส่ง (VAN.EA-C) ออกแบบรถให้เหมาะกับการใช้งานได้ ทั้งระยะทางวิ่ง, เนื้อที่บรรทุกสินค้า และน้ำหนักบรรทุก สามารถปรับขนาดได้ เพื่อใช้งานตั้งแต่รถพยาบาล จนถึงรถ RV Platform นี้ใช้เทคโนโลยีไร้คนขับมาตรฐาน SAE ระดับ 2 และจะพัฒนาไปจนถึงระดับ 4 ในอนาคต
Mercedes-Benz ออกแบบ และพัฒนา Platform ของ VAN.EA เพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้าแบทเตอรี เน้นลดความซับซ้อน และไม่ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการปรับเปลี่ยนขนาดตัวรถ ซึ่งเน้นตลาดสหรัฐฯ โดยจับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการรถแวน หรูหรา สำหรับใช้งานส่วนตัว ซึ่งเป็นรถแวนขนาดกลาง และขยายเป็นรถ RV ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าแบบแคมเพอร์แวนได้
Mercedes-Benz จะผลิตรถแวนที่ใช้ Platform ของ VAN.EA ควบคู่กับ Sprinter รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในผลิตต่อไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด ส่วนรุ่น e-Sprinter ใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวในตลาดสหรัฐฯ ช่วงปลายปีนี้ จากนั้นจึงจะผลิตรุ่นใหม่ที่ใช้ Platform ของ VAN.EA ภายในปี 2569 ซึ่งยังไม่มีกำหนดเปิดตัวแน่นอน 
