ระเบียงรถใหม่
Lexus GX ยนตรกรรมเอสยูวีสุดหรู พร้อมลุยทุกเส้นทาง
Lexus GX ทำตลาดในอเมริกาเหนือ และเอเชีย โดยมีพื้นฐานมาจาก Toyota Land Cruiser Prado ซึ่งมีความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด Lexus เปิดตัวรุ่นแรกที่รู้จักกันในชื่อ GX 470 ในปี 2545
วันนี้ Lexus ได้ฤกษ์เปิดตัว GX เจเนอเรชันที่ 3 มาทดแทนรุ่นปัจจุบันที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2553 โดยมีตำแหน่งทางการตลาดอยู่ระหว่าง RX และ LX โดยรุ่นใหม่นี้ ยังคงถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานงานวิศวกรรม Body-on-Frame TNG-F ร่วมกับ Land Cruiser 300-Series และ Lexus LX 600 และรถกระบะ Toyota Tundra, รถเอสยูวี Sequoia และรถกระบะ Tacoma รุ่นล่าสุด
Lexus GX มีมิติตัวรถยาว 4,950 มม. กว้าง 1,980 มม. สูง 1,865 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. โดยรวมมีความยาวขึ้นอีก 2.8 นิ้ว โดย 2.4 นิ้วของความยาวนั้นไปอยู่ที่ฐานล้อ กว้างขึ้น 3.7 นิ้ว โดยรุ่น Overtrail เพิ่มความกว้างโดยรวมเป็น 4.5 นิ้ว Lexus ลดระยะยื่นด้านหน้าลง 0.8 นิ้ว เพื่อมุมเข้าหาที่มากขึ้นเป็น 26 องศา
New Lexus GX ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีความบึกบึนจากเส้นสายเหลี่ยมสันด้านหน้าที่สง่างาม กระจังหน้าแบบ Spindle Grill สีดำ พร้อมตราโลโก Lexus LED Daylight รูปทรงตัว L แบบ 3 มิติ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ฝากระโปรงหน้านูนขึ้นดูดุดัน ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟ LED แนวยาวถึงตราตัวอักษร Lexus หลังคาซันรูฟที่เลือกได้ทั้งแบบธรรมดา และพาโนรามิคบานใหญ่
กระจกบังลมหน้า มีการออกแบบให้ตั้งชัน เพื่อให้มีทัศนวิสัยที่ดีเวลาขับรถในเส้นทางทุรกันดาร ด้านท้ายบานกระจกบังลมหลัง สามารถเปิดแยกจากฝาท้ายได้ การตกแต่งของ GX ใหม่ มี 6 รูปแบบ คือ Premium, Premium+, Luxury, Luxury+, Overtrail, Overtrail+ โดยรุ่น Premium จะเน้นการใช้งานทั่วไป รุ่น Overtrail จะเป็นตัวลุยแนว Off-Road ส่วนรุ่น Luxury เน้นความหรูหราแต่ก็พร้อมลุย
สีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 11 สี การตกแต่งของรุ่น Overtrail เน้นการตกแต่งสีดำเงา บริเวณภายนอกตัวรถ บริเวณซุ้มล้อรอบคัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง AT ขนาด 33 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยในการลุยฝ่าอุปสรรค ได้แก่ ระบบช่วยปีนป่ายอัจฉริยะ Crawl Control ระบบช่วยลงทางลาดชัน Downhill Assist Control และระบบช่วยตรวจสอบพื้นผิวแบบ 3 มิติ 3D Multi-Terrain Monitor พร้อมด้วยช่วงล่างแบบ Electronic-Kinetic Dynamic Suspension System ที่ทำให้สามารถขับขี่บนเส้นทางทุรกันดารได้อย่างยอดเยี่ยม
ตำแหน่งการนั่งขับ ยังคงออกแบบภายใต้แนวคิดแบบ Tazuna Cockpit ความหมายของ Tazuna คือ การควบคุมบังเหียนม้า เป็นการวางตำแหน่งให้ผู้ควบคุมนั่งอยู่บริเวณกึ่งกลางของทุกสิ่ง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับสามารถเอื้อมใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ พวงมาลัยมาพร้อมกับสวิทช์ที่เชื่อมต่อหน้าจอ Head-up Display ทำให้ผู้ขับมีสมาธิ สามารถควบคุมการนำทาง และเสียง ไปจนถึงฟังค์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
การจัดรูปแบบเบาะนั่งมีทั้งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง, 3 แถว 6 ที่นั่ง และ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยรุ่น Overtrail จะมีให้เลือกเพียง 2 แถว 5 ที่นั่ง โดยเป็นที่นั่งหรูหรา สามารถปรับ และพับได้ตามความต้องการ เบาะตอนที่ 2 พับได้แบบ 40:60 และตอนที่ 3 พับได้แบบ 50:50 ด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มด้วยหนังแท้ Chateau NuLuxe และ NuLuxe สีเทาเข้ม/ดำ ดำล้วน และน้ำตาล/ดำ คอนโซลหน้าดีไซจ์นเหลี่ยมคลาสสิค ชวนให้นึกถึง Toyota Land Cruiser 70 พร้อมช่องแอร์ทรงตัววีซ้าย/ขวา
มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ข้างบนมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Head Up Display มีจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว รองรับความบันเทิงไร้สาย Apple Carplay และ Android Auto พร้อมช่องแอร์ใต้จอสัมผัส ลำโพงคุณภาพจากค่ายขาประจำอย่าง Mark Levinson 21 จุดรอบคัน มีที่เสียบชาร์จ USB-C และที่ชาร์จมือถือไร้สาย โดยช่องเสียบ USB ทั้งหมด 6 จุด ที่วางแก้ว 13 จุด หัวเกียร์พร้อมสวิทช์เปลี่ยนโหมดการขับขี่ ม่านบังแดดบริเวณประตูหลัง และปลั๊กไฟแบบ 120 โวลท์
ขุมพลังในรุ่น GX 550 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร Twin Turbo กำลังสูงสุด 415 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Direct Shift แบบ 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น GX 500h ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid กำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Direct Shift
ทั้งคู่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-time พร้อม Torsen Limited-slip ที่สามารถกระจายแรงบิดได้อย่างเหมาะสม ในทุกสภาวะเส้นทาง และชุดเกียร์ทรานเฟอร์แบบไฟฟ้า ที่สามารถปรับโหมดระหว่าง 4WD-High และ 4WD-Low ได้อย่างรวดเร็ว และในรุ่น Overtrail ยังมาพร้อม Differential ด้านหลัง ทำให้การบุกลุยผ่านอุปสรรคได้ง่ายยิ่งขึ้น
ส่วนช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double wishbone และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-link ในรุ่น Overtrail ยกระดับเกมออฟโรดของ GX ด้วยเฟืองท้ายแบบลอค และระบบกันสะเทือนแบบ Electronic-Kinetic Dynamic Suspension System (E-KDSS) ควบคุมการทำงานของช่วงล่างแบบไฟฟ้า สามารถปรับช่วงล่างให้เหมาะกับทุกสภาพเส้นทางบนล้อขนาด 18 นิ้ว ที่หุ้มด้วยยางขนาด 33 นิ้ว สำหรับทุกพื้นผิว และมีแผ่นกันกระแทกอลูมิเนียมเพื่อการปกป้องเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ยังมีระบบ Multi-Terrain Select ประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และระบบ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางทุรกันดาร พร้อมความปลอดภัย Lexus Safety System+ 3.0 ทั้งระบบควบคุมระยะห่าง และความเร็วแปรผันตามทุกช่วงความเร็ว DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed
เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรคอัตโนมัติแบบตรวจจับคนข้ามถนนได้ Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane-Departure System ช่วยติดตามเลน Lane Centering ช่วยเบี่ยงรถจากอุปสรรค ไฟสูง/ต่ำอัจฉริยะ และช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Auto High Beam ช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) และช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Proactive Driving Assist (PDA) Emergency Steering Assist เซนเซอร์รอบคันพร้อมเบรคอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์ทุกความเร็ว
Lexus GX ประกอบที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing ที่ Tahara ประเทศญี่ปุ่น พร้อมขายทั้งญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นปีหน้า ส่วนฝาแฝดอย่าง Toyota Land Cruiser Prado เจเนอเรชันที่ 5 จ่อเปิดตัวเร็วๆ นี้ ส่วน Land Cruiser Prado (J150) รุ่นปัจจุบันไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักตั้งแต่ปี 2009 แม้ว่าจะได้รับการปรับโฉมมาแล้ว 2 ครั้ง
ในอดีต Toyota Land Cruiser Prado และ Lexus GX มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ไม่เพียงแต่ในแง่ของรากฐานที่ใช้ร่วมกัน แต่ยังรวมถึงการออกแบบภายนอก และภายในด้วย มีเพียงความแตกต่างหลักๆ คือ ส่วนหน้า และตราสัญลักษณ์ของแบรนด์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การที่รถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น จะวางจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกา สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเราอาจเห็นการออกแบบที่แตกต่างกันมากขึ้น บนพื้นฐานเดียวกัน และเทคโนโลยีเดียวกัน
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/454321