เรื่องน่ารู้
Continental TechShow 2023 งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคต
ชื่อ Continental ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย คือ ผู้ผลิตยางชั้นนำของโลก แต่แท้จริงแล้ว คือ ผู้ผลิตเทคโนโลยีที่สำคัญหลายอย่าง ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรถยนต์ระดับหัวแถวหลายยี่ห้อทั่วโลก และในงานนี้เขาแสดงเทคโนโลยีให้เราเห็นว่า 150 ปี ในประวัติศาสตร์ของเขานั้น ไม่ใช่แค่ความเชี่ยวชาญเพียงแค่เรื่องของยาง
ในงาน Continental TechShow 2023 ที่ฟรังค์ฟวร์ท ประเทศเยอรมนี เป็นงานที่เชิญสื่อมวลชนจากทั่วโลก มาสัมผัส และเรียนรู้เทคโนโลยีในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกยานยนต์
เมื่อ 12 ปีก่อน ผมมีโอกาสไปร่วมงานแบบเดียวกันนี้ของ Continental ซึ่งยอมรับว่า เทคโนโลยีล้ำยุคที่ผมเคยเห็นในวันนั้น ถูกจับมาใส่อยู่ในรถยนต์วันนี้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Keyless entry เข้ารถแบบไม่ต้องกดเปิดกุญแจ Tire pressure monitoring ระบบเตือนเมื่อแรงดันลมยางไม่เท่ากัน Head up Display การแสดงผลความเร็วบนกระจกหน้ารถ Automatic Parking Assist ระบบช่วยถอยเข้าช่องจอดเองอัตโนมัติ ฯลฯ ดังนั้นสิ่งที่เห็นในวันนี้ ผมก็เชื่อว่าอีกไม่นานเราคงจะได้เห็นกัน
และต่อจากนี้ คือ เทคโนโลยีที่กำลังจะมาเปลี่ยนโลกยานยนต์ของเราเร็วๆ นี้ครับ
[AVP (Automated Valet Parking) Type 2]
ระบบบังคับควบคุมรถยนต์ระยะไกล
Continental พัฒนาระบบบังคับควบคุมยานยนต์ระยะไกล ร่วมกับ Kopernikus ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ในเรื่องระบบจอดรถอัตโนมัติ หมดปัญหา วนหาที่จอดรถด้วยระบบ AVP Type 2
AVP (Automated Valet Parking) Type 2 เป็นระบบควบคุมรถยนต์ในที่จอดรถอัตโนมัติ โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่ติดตั้งอยู่ในลานจอดรถ เช่น กล้องวงจรปิด เซนเซอร์ต่างๆ และส่งข้อมูลภาพไปประมวลผลผ่านระบบ AI และสั่งการควบคุมยานยนต์ระยะไกล ให้เข้าจอดในช่องจอดเองอัตโนมัติ เช่น ในที่จอดรถสนามบิน สถานีรถไฟ โรงแรม เพียงแค่ในรถยนต์มีระบบเหล่านี้รองรับ เช่น ระบบเกียร์อัตโนมัติ ระบบเบรคไฟฟ้า ระบบควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า และระบบสื่อสารควบคุมระยะไกล
ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นมีระบบเหล่านี้ติดตั้งมาให้จากโรงงานแล้วเกือบทั้งหมด ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นระบบ Valet Parking แบบที่ไม่ต้องมีคนขับ แต่รถจะวิ่งไปหาที่จอดได้เอง ประหยัดเวลาขับรถวนหาที่จอด ในวันที่ห้างคนแน่นแทบแตก
แนวคิดนี้ถูกนำไปติดตั้ง และทดลองในรถยนต์รุ่นใหม่ ในโรงงานผลิตรถยนต์ และจุดพักเตรียมขนส่งขึ้นเรือสินค้า (Infrastructure Orchestrated Maneuvering: IOM) ในอนาคตหากมีการติดตั้งระบบนี้ในโรงงานผลิตรถยนต์ มันจะช่วยอำนวยความสะดวก ลดต้นทุน และลดเวลารอ โดยเฉพาะกิจกรรมการเคลื่อนย้ายรถยนต์แบบ One-way trip เช่น การขับรถเข้าซ่อม ในจุดต่างๆ หรือแม้แต่การขับรถเข้าช่องชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องเสียเวลารอ
SDV (Software-Defined Vehicle)
จากพื้นถนนสู่ข้อมูลบนอากาศ
ในโลกอนาคต ยานยนต์ ดิจิทอล และการเชื่อมต่อ จะแยกออกจากกันไม่ได้ ดังนั้น ระบบ SDV (Software-Defined Vehicle) จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนายานยนต์ในอนาคต ซอฟท์แวร์จะเป็นตัวสั่งการ ควบคุมระบบต่างๆ ในรถยนต์เกือบทั้งหมด และเพื่อให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ดีตลอดอายุการใช้งาน รถยนต์จะสามารถอัพเดทซอฟท์แวร์ได้ เรียกได้ว่า ราวกับเป็นโทรศัพท์มือถือติดล้อ ด้วยระบบนี้เองจะทำให้รถยนต์ และระบบยานยนต์ไร้คนขับ มีความสมบูรณ์ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้ สามารถเพิ่มฟังค์ชันใหม่ๆ ได้ในอนาคต
ซอฟท์แวร์ Holistic Motion Control (HMC) จะเป็นตัวสั่งการระบบต่างๆ ภายในรถ เช่น ระบบถ่ายทอดกำลัง ระบบเบรค ระบบควบคุมบังคับ ระบบรองรับต่างๆ ประมวลผลร่วมกับข้อมูลการเคลื่อนที่ และทิศทางของตัวรถ และปรับการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสมดุล
ยิ่งกว่านั้น เซนเซอร์ที่ติดตั้งในจุดต่างๆ จะเป็นฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการคำนวณ การสึกหรอของยาง และระยะเวลาเปลี่ยนแบทเตอรี ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถยนต์มากขึ้น ในอนาคต
ระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ กลายเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากในอนาคตอันใกล้ ยานยนต์ ดิจิทอล และการเชื่อมต่อกับภายนอก เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น Continental จึงร่วมพัฒนากับ Argus ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cyber Security จากประเทศอิสราเอล เพื่อให้มั่นใจว่าระบบ SDVs มีความปลอดภัยขั้นสูง
[Smart Cockpit]
แผงควบคุมในรถอัจฉริยะ
คือ ระบบหน้าจอแผงควบคุมในรถยนต์ ที่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ระดับไฮเพอร์ฟอร์มานศ์ HPC (High-performance computing) มีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานเบื้องต้นไว้ล่วงหน้า เพียงแค่ต่อเข้ากับหน้าจอ Dashboard ในรถยนต์ เชื่อมต่อกับระบบปฎิบัติการแอนดรอย เพื่อควบคุมระบบต่างๆ เช่น ระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ อินโฟเทนเมนท์ หน้าจอแสดงผล วิทยุ โทรศัพท์มือถือ ADAS (Advance Driver System)
จุดเด่นของการพัฒนาระบบแบบนี้คือ ย่นระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ จนเข้าสายการผลิต ด้วยระยะเวลาเพียง 18 เดือน เท่านั้น นอกจากลดเวลา ยังลดต้นทุนการผลิตได้มากอีกด้วย
HPC (High-performance computers)
[ระบบคอมพิวเตอร์ที่รองรับระบบ PLUG&PLAY]
ในอนาคตรถยนต์จะมีระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง HPC (High Performance computing) ที่มีความสามารถในการอัพเกรดได้ เมื่อผ่านการใช้งานไประยะหนึ่ง และเนื่องจากเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง จึงมีความจำเป็นต้องมีระบบระบายความร้อน เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมตลอดเวลา ซึ่ง Continental ก็พัฒนาระบบระบายความร้อนนี้ให้เหมาะกับการใช้งานในรถยนต์อีกด้วย
ระบบที่ว่านี้เป็นระบบ Cooling pads ที่มีความยืดหยุ่น สามารถแทรกเข้าไปอยู่ระหว่างช่องว่างของ HPC เพื่อระบายความร้อน สามารถถอดออก เปลี่ยนทดแทนได้ง่าย เมื่อถึงเวลาที่ต้องบำรุงรักษา
[Near-field projection ]
ระบบฉายภาพรอบตัวรถลงบนพื้นถนน
Near-field projection ระบบนี้จะฉายภาพลงบนพื้นถนน รอบๆ ตัวรถเพื่อเพิ่มความปลอดภัย จุดเด่น คือ มีขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย
โมดูล แอลอีดี ขนาดเล็กนี้ มีความละเอียด 16,000 พิกเซล และมีความสว่างสูงถึง 10,000 ลูเมน สามารถฉายภาพสัญลักษณ์เตือนขณะรถกำลังถอย หรือเปลี่ยนทิศทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน
[UltraContact NXT]
ยางรักษ์โลกรุ่นใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในโลก
ในงาน Continental TechShow 2023 ครั้งนี้ ถือโอกาสเดียวกันนี้ เปิดตัวยางรุ่นใหม่ UltraContact NXT ครั้งแรกในโลก ยางรุ่นใหม่นี้ใช้วัสดุส่วนใหญ่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ทั้งนุ่มเงียบ เหมาะสำหรับรถไฟฟ้า และรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เทคโนโลยีนี้ทำจากวัสดุรีไซเคิลได้ 65 % ซึ่งบางส่วนมาจากวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น เถ้าถ่านของเปลือกข้าว กระดาษ เศษไม้ วัสดุซิลิคาที่ได้ เพิ่มความเกาะถนนให้แก่ยาง ในขณะเดียวกัน ลดแรงต้านทานการหมุน และยืดอายุการใช้งาน วัสดุประมาณ 5 % ทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ยางที่หมดอายุการใช้งาน เหล็กรีไซเคิล หรือแม้กระทั่งสามารถใช้ขวดน้ำพลาสติค (PET) 9-15 ขวดในการเป็นส่วนผสมของยางทุกเส้น
ยาง 19 นิ้ว ที่แนะนำในตลาด มีแทบทุกขนาด และยังได้รับมาตรฐานระดับ A ในเรื่องของการลดแรงต้านทานการหมุน ระยะหยุดในสภาพถนนเปียก และเสียงรบกวนอยู่ในระดับต่ำ ผู้ผลิตยางพรีเมียม ตั้งเป้าปี 2030 จะใช้วัสดุรีไซเคิล และวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ในการผลิตยางไม่น้อยกว่า 40 % และจะเพิ่มเป็น 100 % ในปี 2050
Continental เป็นผู้บุกเบิกในการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ในยานยนต์มากว่า 150 ปี เน้นหนักในเรื่องการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ในเรื่อง ยานยนต์ เครื่องจักร การจราจร และการขนส่ง โดยเน้นความปลอดภัย การประหยัดพลังงาน และระบบควบคุมอัจฉริยะ ในปี 2022 มีพนักงานกว่า 200,000 คน ใน 57 ประเทศ และมียอดขายรวมกว่า 3.94 หมื่นล้านยูโร
เรื่องโดย : ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์
คอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/456801