ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด กล่าวว่า BYD Dolphin เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการความคล่องตัวการเดินทาง ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ และนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่ง BYD Dolphin ตอบโจทย์ในทั้ง 2 ด้าน ด้วยขนาดที่กะทัดรัดให้ความคล่องตัว และความสนุกในการขับขี่ รวมถึงนวัตกรรมการันตีระดับโลกอย่าง E-Platform 3.0 และ Blade Battery ที่ให้ความมั่นใจแก่ผู้ขับขี่ในด้านของคุณภาพ ความปลอดภัย และความอัจฉริยะ อีกทั้งยังสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้ หรือระยะทางไกล เรเว่ ออโตโมทีฟฯ มีความยินดีที่ได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ของตระกูล BYD ให้แก่คนไทย เรามั่นใจว่า BYD Dolphin จะสร้างกระแสความสําเร็จต่อจากการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกอย่าง BYD Atto 3 และเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ NEV Nation"
นอกเหนือจากคุณลักษณะทางเทคโนโลยี BYD Dolphin ยังมีการออกแบบภายในที่กว้างขวางแม้จะมีรูปแบบ และขนาดภายนอกที่กะทัดรัด แต่ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,700 มม. ทำให้ขนาดห้องโดยสารมีขนาดที่กว้างขวาง พร้อมมอบความสะดวกสบายในการใช้งาน และประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองต่อความต้องการในชีวิตประจำวันด้วยห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง และเบาะนั่งสปอร์ทพร้อมพนักพิงตามหลักสรีรศาสตร์ โดยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระท้ายรถสามารถจัดเก็บกระเป๋าเดินทางขนาด 30 นิ้ว ได้ 1 ใบ และขนาด 20 นิ้ว ได้ 2 ใบ พร้อมเบาะโดยสารด้านหลังที่สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ให้ความยืดหยุ่นในการบรรจุสัมภาระจำนวนมาก ซึ่งการออก แบบของพื้นที่ให้ทั้งประโยชน์ในการใช้สอย และความสวยงามที่เต็มไปด้วยสีสันแบบพร้อมๆ กัน เสริมด้วยระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop & Go ทำให้การขับขี่ระยะทางไกลที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นอีกฟังค์ชันที่เหมาะสำหรับสภาวะอากาศในเมืองไทย คือ ระบบกรองอากาศ PM2.5 พร้อม CN95 Filter ให้ผู้ใช้รถได้มีอากาศบริสุทธิ์ในทุกการขับขี่
BYD Dolphin ขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ระบบความปลอดภัยที่มาอย่างครบครัน ออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และลดความเสี่ยง ประกอบด้วย ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS), จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ Isofix, ระบบเสริมแรงเบรคอัจฉริยะ, ระบบเบรคป้องกันล้อลอค (ABS), ระบบเบรคมือไฟฟ้า (EPB), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC), ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCS), ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรค (EBD), ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW), ระบบควบคุมการไหลของรถยนต์อัตโนมัติ (Auto Hold), ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า และหลัง (PCW, RCW), ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา(BSD), ระบบช่วยเตือน และเบรคเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB), ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP), ระบบช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA), ระบบช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW) อีกทั้งยังมีกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมฟังค์ชันอัจฉริยะ เช่น แดชบอร์ดประเมินผลข้อมูลระดับพลังงาน และความเร็วแบบเรียลไทม์ขนาด 5 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับหมุนได้เพื่อจัด การระบบสาระบันเทิงและระบบนําทาง, พอร์ท USB สำหรับการชาร์จอุปกรณ์สื่อสารอย่างรวดเร็ว, ระบบชาร์จแบบไร้สาย, ระบบ Follow Me Home เพิ่มความปลอดภัยหลังจอดรถและระบบเสียงดนตรีที่มีการออกแบบสัญ ญาณเสียงที่จำลองมาจากทะเล นอกจากนี้ ยังมีกลไกการลอคมากถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ การลอค และปลดลอคด้วยกุญแจรีโมท, บัตร NFC, BYD Application, กุญแจไข และแบบไม่มีกุญแจ (Keyless Entry)
ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด กล่าวว่า ความมุ่งมั่นของ BYD ในการขับขี่อย่างยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นแนวคิดริเริ่มที่สอดคล้องกับโปรแกรมสิทธิพิ เศษ Rever Care และโครงการ Reverlution ของ เรเว่ ออโตโมทีฟฯ ผู้ขับขี่ BYD Dolphin จะได้รับสิทธิพิเศษ Rever Care ซึ่งเป็นบริการหลังการขายที่เรามอบให้แก่ลูกค้าของเรา เรเว่ ออโตโมทีฟฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นมาก กว่าผู้ส่งมอบยานพาหนะ เราต้องการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น และสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมใหม่ที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยผ่านนวัตกรรมสีเขียว เราได้ก่อตั้งโครงการคาร์บอนเครดิท
“Reverlution Initiative” เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการดำเนินการตามแผน NDC ของประเทศไทยเพื่อลดการปล่อยแกสเรือนกระจก โดยผู้ขับขี่ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนโลกของเราสู่สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน สะท้อนกลับไปเป็นสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ใช้รถ BYD ทุกคันอีกด้วย”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ Sharge สร้าง EV Charging Ecosystem ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเปลี่ยนสถานีชาร์จ (Sharge) ทั้งหมด เป็น Rever charger ให้กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ในทุกภาคของประเทศไทย และกำหนดเป้าหมายการติดตั้งหัวชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ได้ครบ 1,100 หัว ภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อให้บริการเชิงรุก และตอบสนองความต้องการของลูก ค้าในทุกมิติ เรเว่ ออโตโมทีฟฯ และ Sharge จะดำเนินการติดตั้งหัวชาร์จในพื้นที่อยู่อาศัย เช่น คอนโด หมู่บ้าน โรงแรม สถานที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน สถานที่ใช้สอยผสมผสาน และโชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้า BYD เป็นหลัก
รถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ทุกคัน มาพร้อมกับสิทธิพิเศษ Rêver Care สามารถออกรถเริ่มต้นเพียง 35,000 บาท หรือดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.88 %, ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี, การรับประกันตัวรถ และแบทเตอรีระยะเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ระยะเวลา 8 ปี, สายต่อพ่วง Volt และสายชาร์จฉุกเฉิน, ค่าจดทะเบียนรถ, พรมเข้ารูป+กรอบป้ายทะเบียน+ฟีล์มหน้าจอ และผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ยังได้รับสิทธิ์ในการซื้อโฮมชาร์เจอร์พร้อมการติดตั้งเพียง 25,000 บาท (จากราคา 35,000 บาท) เท่านั้น
BYD Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท (ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
มีตัวเลือกภายนอก 4 สี ได้แก่
• สีครีม (Coastal Cream)
• สีม่วง (Flora Purple)
• สีเทา (Alaskan Grey)
• สีชมพู (Coral Pink)
ควบคู่กับการตกแต่งภายในที่มีตัวเลือกทูโทน ได้แก่
• สีดำ และน้ำตาล (Black + Brown)
• สีดำ และสีเทา (Black + Grey)
• สีชมพู และสีเทา (Pink + Grey)
BYD Dolphin Extended Range ราคา 859,999 บาท (ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
มีตัวเลือกภายนอกทูโทน 4 สี ได้แก่
• สีชมพู/สีเทา (Coral Pink + Atlantis Grey)
• สีฟ้า/สีเทา (Atoll Blue + Atlantis Grey)
• สีเทา/สีดำ (Atlantis Grey + Pebble Black)
• สีขาว/สีเทา (Surge White + Atlantis Grey)
ควบคู่กับการตกแต่งภายในที่มีตัวเลือกทูโทน ได้แก่
• สีชมพู/สีเทา (Pink + Grey)
• สีฟ้า/สีเทา (Blue + Grey)
• สีดำ/สีเทา (Black + Grey)