ฟรานเชสโก สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Automobili Lamborghini เปิดเผยว่า จากจุดเริ่มต้นของความสนใจในด้านนวัตกรรม ทำให้ Automobili Lamborghini ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1963 พร้อมสร้างตำนานแห่งยนตรกรรมให้เกิดขึ้นในปี 1966 ด้วย Lamborghini Miura ซูเพอร์คาร์คันแรกของประวัติศาสตร์โลกยานยนต์ ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง และดีไซจ์นอันโฉบเฉี่ยวจนไม่อาจละสายตา ซึ่งในปี 2023 นี้คือ อีกปีที่ยิ่งใหญ่ของ Automobili Lamborghini เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นปีแห่งการครบรอบ 60 ปี แต่ยังเป็นปีแห่งการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ผ่านการเปิดตัว Lamborghini Revuelto ที่จะมาปฏิวัติวงการรถยนต์ซูเพอร์สปอร์ทจากการผสานพลังแห่งความแรงของเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อมอบสุดยอดความเร็วเหนือขีดจำกัดไว้เป็นหนึ่งเดียว
“Automobili Lamborghini กำลังดำเนินงานภายใต้แผนงาน "Direzione Cor Tauri" เพื่อมุ่งหน้าสู่การสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยภายหลังจากการเปิดตัว Lamborghini Revuelto เราได้เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนรถยนต์ทุกรุ่นของแบรนด์ให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในสิ้นปี 2024
ทั้งนี้ คำว่า Cor Tauri เป็นภาษาละตินที่มีความหมายว่า หัวใจของกระทิง รวมทั้งยังสามารถหมายถึงดวงดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวราศีพฤษภ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราที่พร้อมจะเดินหน้าสู่อนาคตที่สด ใส แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณ และหัวใจของแบรนด์ไว้เป็นอย่างดี"
Lamborghini Revuelto ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้แก่รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด รวมถึงการกำหนดศัพท์ใหม่ อย่าง HPEV ที่ย่อมาจาก High Performance Electrified Vehicle เพื่อสื่อถึงการเป็นรถยนต์ซู เพอร์สปอร์ทพลัก-อิน ไฮบริดสมรรถนะสูง แทนคำว่า PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของ Lamborghini คือ การมอบความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง พร้อมเพิ่มเติมองค์ประกอบของการช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้สอดคล้องกับทเรนด์ด้านการสร้างความยั่งยืน
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าชื่อรุ่นรถยนต์ของ Lamborgini ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อตามวัวกระทิงนักสู้ ซึ่งรวมถึง "Reveulto" ด้วยเช่นกัน โดยชื่อนี้มีที่มาจากสุดยอดวัวกระทิงในปี 1880 ที่มีความพยศ ดุดัน จนหนีออกนอกสนามแข่งขันไปถึง 8 ครั้ง เปรียบเสมือนรถยนต์รุ่นนี้ที่พร้อมพุ่งทะยานอวดโฉมเผยความร้อนแรงบนท้องถนน และสะกดทุกสายตาให้หันมาจ้องมอง และคำว่า "Reveulto" ยังมีอีกความหมายที่สำคัญนั่นก็คือ การผสมผสาน หรือการหลอมรวม (Mixed up) ระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันอีกด้วย
Lamborghini Revuelto คือ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงด้วยพละกำลังมากถึง 1,015 แรงม้า ที่มาพร้อมกับหลากหลายสุดยอดนวัตกรรม ทั้งโครงสร้างใหม่ล่าสุด “Monofuselage” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวถัง Mono coque ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังเป็นรถยนต์ซูเพอร์สปอร์ทรุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างส่วนหน้าเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100 % ทำให้มีน้ำหนักโครงแชสซีส์เบาลง 10 % โครงส่วนหน้าเบาลง 20 % และความแข็งแรง และทนต่อแรงบิดเพิ่มขึ้นไปที่ 4,078.9 กก.-ม. หรือ 40,000 นิวตันเมตร ซึ่งสูงขึ้น 25 % เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador การันตีสมรรถนะความเป็นเลิศด้านพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในคลาสส์
ทั้งนี้ ด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริดรุ่นใหม่ที่ช่วยเสริมกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ Lamborghini Revuelto สามารถมอบประสบการณ์การเดินทางผ่านโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันได้ถึง 13 รูปแบบ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทำงานได้แม้ใช้ไฟฟ้า 100 % เพื่อการปล่อยไอเสียเป็น 0 (Zero-Emission 4WD)
ในฐานะรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดเครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูงรุ่นแรกของแบรนด์ Lamborghini Revuelto มีความแตกต่างจากรถยนต์รุ่นอื่นๆ ด้วยการวางเลย์เอาท์ตำแหน่งเครื่องยนต์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศขนาด 6.5 ลิตร บริเวณกลางตัวรถ และมีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแรกจะอยู่ที่เพลาขับคู่หน้า และอีกตัวจะติดตั้งอยู่กับชุดเกียร์ดับเบิลคลัทช์ 8 จังหวะรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชุดเกียร์ถูกติดตั้งอยู่หลังเครื่องยนต์ โดยเป็นการติดตั้งแนวขวางอยู่ด้านหลังเครื่องยนต์สันดาป V12 เป็นครั้งแรก
Lamborghini Revuelto ยังได้มีการติดตั้งชุดแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนกำลังสูง (4,500 วัตต์/กก.) ไว้บริเวณท่อแกนกลาง โดยตัวแบทเตอรีบรรจุเซลล์พลังงานรวมความจุ 3.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง เมื่อประจุลดลงเหลือศูนย์สามารถชาร์จใหม่ได้ผ่านการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับและแบบชาร์จในบ้านที่มีกระแสสูงสุด 7 กิโลวัตต์ โดยชาร์จเต็มในเวลาเพียง 30 นาที นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟจากการเบรคของล้อหน้าที่ช่วยประจุไฟได้ หรือชาร์จโดยตรงจากเครื่องยนต์ V12 ในเวลาเพียง 6 นาที
อีกสิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับระบบไฮบริด คือ 3 โหมดการขับขี่รูปแบบใหม่ ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance เพื่อใช้ร่วมกับโหมดเดิมอย่าง Citta (City), Strada, Sport และ Corsa โดยโหมด Citta ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ประจำวันในย่านกลางเมืองด้วยอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ ซึ่งหากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนที่จำเป็นต้องได้รับการชาร์จไฟ แต่พื้นที่แถบนั้นไม่มีสถานีชาร์จเครื่องยนต์ V12 จะเข้ามาทำงานเพื่อชาร์จไฟจนเต็ม (เข้าสู่โหมด Recharge) ในเวลาไม่กี่นาที ในขณะที่โหมด Strada เหมาะสำหรับการขับขี่ประจำวันที่เน้นสัมผัสแบบไดนามิค และการวิ่งทางไกล พร้อมให้สัมผัสแนวสปอร์ทด้วยกำลังเครื่องสูงสุดที่ 886 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ V12 จะทำงานตลอดเวลาเพื่อทำการชาร์จไฟแบทเตอรีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยเสริมการขับขี่ในโหมด Recharge ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หรือโหมด Corsa ที่มอบพลังอันเต็มเปี่ยมทั้งในแง่ประสิทธิ ภาพการขับขี่ และพลังเสียง ด้วยกำลังเครื่องสูงสุด 1,015 แรงม้า โดยการควบคุมระบบไฮบริดจะทำการรีดศักยภาพของเพลาไฟฟ้า (E-Axle) ออกมาทั้งหมดเพื่อสร้างประสบการณ์ขับขี่ระดับ Ultra-Sport ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 47.49 ล้านบาท
ฟรานเชสโก สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Automobili Lamborghini
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด
ราฟฟาเอล การ์ริบบา Area Manager South East Asia-Lamborghini