Platform ของ STLA Medium ผลิตในรูปแบบโมดูล ที่ปรับเปลี่ยนได้ทั้งขนาด, ระบบรองรับ และอื่นๆ มีความยาวฐานล้อ ตั้งแต่ 2.69-2.89 ม. สามารถเลือกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวในด้านหน้า, ด้านหลัง หรือมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งให้กำลังระหว่าง 214-382 แรงม้า
Platform ของ STLA Medium มีแบทเตอรี 2 ขนาด ขนาดใหญ่มีความจุใช้จริง 98 กิโลวัตต์ เดินทางได้ 700 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) หรือ 595 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน EPA) ส่วนแบทเตอรีขนาดมาตรฐาน มีความจุน้อยกว่า เดินทางได้ 498 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) หรือ 424 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน EPA)
Platform ของ STLA Medium มีแรงดันกระแสไฟ 800 โวลท์ ชาร์จจาก 20-80 % ภายในเวลา 27 นาที ด้วยระบบชาร์จกระแสตรง
Carlos Tavares ซีอีโอ ของ Stellantis ยืนยันว่า Platform นี้จะทำให้ราคารถไฟฟ้าในอนาคตอยู่ในระดับที่จับต้องได้ ทั้งยังรองรับการชาร์จระดับ 800 โวลท์ ในอนาคตจะได้รับความนิยมมากขึ้น
Platform ของ STLA Medium ออกแบบให้รองรับการเปลี่ยนจากกระแสไฟ 400 โวลท์ ในอนาคตเปลี่ยนเป็น 800 โวลท์ ทั้งยังรองรับการเปลี่ยนไปใช้แบทเตอรีใหม่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น โซลิด-สเตท, แบบไร้นิคเคิล และโคบอลท์ นอกจากนั้นในการผลิตแบทเตอรีทั้ง 2 ความจุ จะมีแพคเกจด้านนอก และระบบหล่อเย็นเหมือนกัน จึงไม่มีปัญหาด้านการผลิต รวมถึงช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย
Stellantis วางแผนจะผลิตรถไฟฟ้าที่ใช้ Platform ของ STLA Medium ถึง 2 ล้านคัน/ปี โดยผลิตสำหรับตลาดยุโรปก่อน แล้วจึงขยายสู่ตลาดอื่น สำหรับตลาดสหรัฐฯ ต้องรอถึง 2-3 ปี คาดว่ารถไฟฟ้าจาก Chrysler จะออกตามหลัง Brand ของยุโรปในไม่ช้า โดยเฉพาะ Jeep ที่เปิดตัวรถไฟฟ้า Recon ตัวแทน Wrangler เมื่อปลายปีที่แล้ว คาดว่าจะได้เห็นรถไฟฟ้าจอมลุยที่ใช้ Platform ใหม่ ในเร็วๆ นี้ 
