ธุรกิจ
สอท. เผยยอดผลิตรถยนต์ มิย. 66
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประ เทศ ในเดือนมิถุนายน 2566 ดังต่อไปนี้
รถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2566 มีทั้งสิ้น 145,557 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.78 เพราะผลิตขายในประเทศลดลง ร้อยละ 2.01 แต่ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 3.30
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 921,512 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.91
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 50,300 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 14.83
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีจำนวน 321,061 คัน เท่ากับร้อยละ 34.84 ของยอดการผลิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 24.96
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตันขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 16 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 700 รวมเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตได้ 78 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 3,800
รถยนต์บรรทุก เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 95,241 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 4 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 600,373 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.09
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 91,737 คันลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 3.94 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 583,867 คัน เท่ากับร้อยละ 63.36 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.61 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 105,451 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 32.83
• รถกระบะ Double Cab 385,570 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.05
• รถกระบะ PPV 92,846 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 33.86
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 3,504 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.63 รวมเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตได้ 16,506 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 16.50
ผลิตเพื่อส่งออก เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 84,909 คัน เท่ากับร้อยละ 58.33 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 4.66 ส่วนเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 530,655 คันเท่ากับร้อยละ 57.59 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 12.09
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 23,069 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 12.03 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 147,073 คัน เท่ากับร้อยละ 45.81 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน2565 ร้อยละ 29.42
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 61,840 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.15 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 383,582 คัน เท่ากับร้อยละ 65.70 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 6.62 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 39,883 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 13.65
• รถกระบะ Double Cab 294,283 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 7.40
• รถกระบะ PPV 49,416 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 24.90
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 60,648 คัน เท่ากับร้อยละ 41.67 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.01 และเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตได้ 390,857 คัน เท่ากับ ร้อยละ 42.41 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.48
รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 27,231 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 17.30 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 173,988 คัน เท่ากับร้อยละ 54.19 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.42
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 29,897 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 14.48 และตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 200,285 คัน เท่ากับร้อยละ 34.30 ของยอดการผลิตรถกระบะ แต่ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 14.28 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 65,568 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 40.83
• รถกระบะ Double Cab 91,287 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.89
• รถกระบะ PPV 43,430 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 45.75
เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 232,431 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 10.29 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 207,166 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 32.34 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 25,265 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 53.39
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,306,697 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.93 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,127,604 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 20.67 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 179,093 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 42.39
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,440 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 1.04 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 5.16 เพราะการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 90.6 ของ GDP ประเทศ
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 179,365 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 2.57 และลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.92
ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 รถยนต์มียอดขาย 406,131 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.95 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 993,981 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 9.64
ทั้งนี้ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมิถุนายน 2566 ส่งออกได้ 88,826 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 2.86 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 20.22 เพราะผลิตรถยนต์นั่งและรถ PPV เพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.57 และ 96.51 ตามลำดับ จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ มูลค่าการส่งออก 55,925.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 30.72
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,332.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 6.81
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 14,525.06 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.61
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 1,851.60 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 32.08
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมิถุนายน 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 75,635.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 18.15
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 528,816 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 17.61 มีมูลค่าการส่งออก 329,181.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 23.45 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 16,441.51 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 22.73
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 86,318.49 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 17.59
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 11,408.83 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 12.87
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 เครื่องยนต์ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 443,350.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 9.26
รถจักรยานยนต์เดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวนส่งออก 65,365 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 13.29 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 17.54 โดยมีมูลค่า 5,602.49 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 9
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 270.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 17.83
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 168.32 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 17.88
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมิถุนายน 2566 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,041.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 8.37
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก427,634 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 14.72 มีมูลค่า 35,862.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 5.52
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,518.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 41.85
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,054.18 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 13.43
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 38,434.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.96
เดือนมิถุนายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 81,676.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 17.37
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 481,784.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 8.99
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พศ. 2566 (ใหม่) ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2566 จาก 1,950,000 เป็น 1,900,000 คัน ลดลง 50,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศลดลงจาก 900,000 เป็น 850,000 คัน
ปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง
• สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 90.6 ของ GDP
• ส่งออกสินค้าอื่นๆ ของประเทศลดลงติดต่อกันหลายเดือน ทำให้หลายอุตสาหกรรมลดกะการทำงาน และลดการทำงานล่วงเวลา คนทำงานขาดรายได้ อำนาจซื้อลดลง
• ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นรวมทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้มีหนี้ และประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น จึงระวังการใช้จ่าย ทำให้อำนาจซื้อลดลง ธุรกิจหลายสาขาชะลอตัวลง เช่น วัสดุก่อสร้าง ร้านสะดวกสบาย Supermarket ฯลฯ
• รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากกว่าร้อยละ 5 โดยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์นำเข้า ไม่ได้ผลิตในประเทศ จึงลดเป้าการผลิตเพื่อขายในประเทศลงประมาณร้อยละ 5 ของเป้าเดิม
ด้านยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมิถุนายน 2566 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,680 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 496.43 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,627 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 774.66
o รถยนต์นั่ง จำนวน 7,603 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 22 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 2 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 13 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 160
• รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 42 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 281.82
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 42 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,635 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 125.52
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,635 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 256 คัน ซึ่งเดือนมิถุนายน 2565 ยังมีการจดทะเบียน
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 107 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 970
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 43,045 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 487.65 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 31,648 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 943.80
o รถยนต์นั่ง จำนวน 31,517 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 124 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 2 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 5 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 55 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 511.11
• รถยนต์ 3 ล้อ มีทั้งสิ้น 165 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน2565 ร้อยละ 44.74
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 156 คัน
o รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล จำนวน 9 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 9,897 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 141.04
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 9,865 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 32 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 1,092 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 2,128.57
• รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 188 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1,153.33
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมิถุนายน 2566 จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 7,493 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 33.21 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,429 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 33.11
o รถยนต์นั่ง จำนวน 7,424 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 1 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 4 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 64 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 96.43
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 64 คัน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 46,140 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 41.02 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 45,803 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 40.82
o รถยนต์นั่ง จำนวน 45,761 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 13 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 5 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 24 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 337 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 76.44
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 337 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมิถุนายน 2566 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,075 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 0.92 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,075 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 0.92
o รถยนต์นั่ง จำนวน 1,073 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 2 คัน
เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 6,272 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 5.46 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 6,272 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.46
o รถยนต์นั่ง จำนวน 6,268 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 9 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 74,994 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 302.24 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 45,359 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 536.71
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 44,985 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 543.19
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 281 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 124.80
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 12 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 140
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 13 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 68 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 112 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 128.57
• รถยนต์ 3 ล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 656 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 73.54
o รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 70 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 48.94
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ มีจำนวน 586 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 77.04
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 26,348 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 143.89
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 26,247 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 144.84
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 101 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 42.25
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,034 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 708.42
o รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 215 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,164.71
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 306,653 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 33.97 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 297,510 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 35.16
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 296,816 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 35.23
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 479 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 9.11
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 34 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี2565 ร้อยละ 41.67
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 105 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 40
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 50
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 73 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,140 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 4.11
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 9,140 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 4.11
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 100
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,812 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31.66 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 48,810 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31.66
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 48,752 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 31.72
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 37 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 7.50
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 16 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 23.81
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 200
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 2 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ไม่มีการจดทะเบียน
สถิติการผลิต จำหน่าย และการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า เดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 67,641 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.07 ขาย 72,158 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 86.58 ส่งออก 9,515 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100
จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2566 มีทั้งสิ้น 11,138 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 22.68
• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 11 คัน ซึ่งปีที่แล้วยังไม่มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,188 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 23.69
• รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 939 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 11.52
จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 67,641 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 65.07
• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 143 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100
• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 61,951 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 61.57
• รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 5,547 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 110.59
จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ขายได้ในเดือนมิถุนายน 2566 มีทั้งสิ้น 8,260 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 54.74
• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 1,888 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 1,102.55
• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 6,176 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 26.74
• รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 196 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 36.36
จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,160 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 62.11
• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 8,279 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 434.13
• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 39,560 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 41.64
• รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,321 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 56.15
จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่ส่งออกได้ในเดือนมิถุนายน 2566 มีทั้งสิ้น 809 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 15.57
• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 809 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 15.57
จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งออกได้ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,554 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.83
• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 4,554 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 5.83
อัตราส่วนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากับยอดจดทะเบียน เดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม รถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• รถยนต์ไฟฟ้าผลิตในประเทศจำนวน 11 คัน เมื่อเทียบกับยอดจดทะเบียนมีอัตราส่วนร้อยละ 0.14
• รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมผลิตในประเทศจำนวน 10,188 คัน เมื่อเทียบกับยอดจดทะเบียนมีอัตราส่วนร้อยละ 137.23
• รถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กผลิตในประเทศจำนวน 939 คัน เมื่อเทียบกับยอดจดทะเบียนมีอัตราส่วนร้อยละ 87.51