ธุรกิจ
Roddonjai แนะ "4 ต้อง 7 ห้าม" เพื่อความปลอดภัย ขับขี่รถคู่ใจในหน้าฝน
ในช่วงฤดูฝน ยามฝนตกอาจช่วยบรรเทาความร้อน และลดปัญหาฝุ่นควัน แต่สิ่งที่มักมาคู่กัน และพบเจอบ่อยครั้งสำหรับผู้ขับขี่รถบนท้องถนนก็คือ อุบัติเหตุจากฝนตกถนนลื่น ปัญหาน้ำท่วมขัง หรือปัญหาเกี่ยวกับความพร้อมของรถ และทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่มีโอกาสเสี่ยงกับอันตราย
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดปัจจัยต้นเหตุของสิ่งที่ไม่คาดฝันทั้งที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง และเพื่อนร่วมทาง จึงควรเริ่มต้นป้องกันปัญหา ด้วยการตรวจเชคสภาพยานพาหนะที่เราใช้งานอยู่ ให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และพร้อมที่จะลุยไปกับเราด้วยความปลอดภัย ขับขี่ราบรื่นจนถึงปลายทางโดยสวัสดิภาพ
roddonjai.com พแลทฟอร์มซื้อ-ขายรถมือสองที่ได้มาตรฐานทั้งด้านราคา และคุณภาพ มีคำแนะนำดีๆ มาฝากสำหรับคนใช้รถยนต์ที่อาจจะกำลังมีความกังวลใจกับการใช้รถโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ นี่คือ 4 เรื่องที่แนะ นำให้คุณ "ต้องทำ" และ 7 สิ่งที่ "ห้ามทำ" เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัย
สิ่งที่ "ต้อง" ทำ คือ การตรวจเชคสภาพรถยนต์ ในช่วงหน้าฝน เพื่อป้องกันอันตรายในการขับขี่
1. ใบปัดน้ำฝน ยางปัดยังคงมีสภาพใช้งานได้ ใบยางกรีดน้ำฝนออกจากกระจกได้เกลี้ยง ไม่ทิ้งคราบรอยเส้นบนกระจกหลังปัด และควรผสมน้ำยาล้างกระจก หรือน้ำยาล้างจานลงในหม้อน้ำฉีดกระจกเล็กน้อย เพื่อช่วยให้น้ำไม่เกาะติดกระจกบดบังทัศนวิสัยขณะขับเวลาฝนตก
2. ระบบไฟ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟฉุกเฉิน รวมถึงแบทเตอรี ที่ยังคงสภาพการใช้งานได้ดี หากตรวจพบหลอดไฟขาด ให้เปลี่ยนทันที หรือแบทเตอรีที่ใช้งานมานานกว่าปีครึ่ง-2 ปี จะมีกำลังไฟต่ำถึงต่ำมาก ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ควรเปลี่ยนแบทเตอรีลูกใหม่ เพิ่มความอุ่นใจว่ารถจะไม่ไปตายกลางทางที่เราไม่คุ้นเคย
3. ระบบเบรค ทำงานทันทีจากการเหยียบเบรคเพียงครั้งเดียวที่ระยะไม่ลึกเกินไป และไม่ตื้นเกินไป แต่ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ คือ ห้ามขับเร็ว และรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพราะในสภาพที่ถนนเปียกแฉะ น้ำที่เกาะผ้าเบรคอาจจะทำให้ระยะเบรคทำงานคลาดเคลื่อนไปได้
4. ยางล้อทั้ง 4 เส้น ควรอยู่ในสภาพดี เพื่อให้ช่วยทรงตัวหากต้องมีการเบรคกระทันหันขณะฝนตก และช่วงหน้าฝน ควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติ ความแข็งของยางจะช่วยรีดน้ำจากหน้ายาง ทำให้ล้อยางเกาะถนนได้ดีขึ้น
สิ่งที่ "ห้าม" ทำ เมื่อต้องขับรถฝ่าฝน
1. ห้ามขับรถเร็ว ผิวถนนที่มีฝุ่นหรือคราบน้ำมัน เมื่อเปียกน้ำจะมีความลื่นมากกว่าปกติ หากขับขี่มาด้วยความเร็ว รถอาจจะเสียหลัก ผู้ขับขี่อาจจะตกใจจนควบคุมรถไม่ได้ และพลาดเกิดอุบัติเหตุ
2. ห้ามสตาร์ทเครื่องใหม่ทันที หากขับรถลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ เพราะเครื่องยนต์อาจเสียหายได้ หากหลีกเลี่ยงได้ ไม่ควรขับบนพื้นผิวที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อป้องกันรถเหินน้ำ แต่เมื่อจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำให้จับพวงมาลัยให้แน่น หากระดับน้ำสูงแตะท้องรถ ให้ปิดเครื่องปรับอากาศ หรือระบบไฟฟ้าอื่นๆ ไปก่อน และไม่ควรผ่อนคันเร่ง เพราะคลื่นน้ำจากรถคันอื่นที่ร่วมเส้นทางอาจจะกระแทกเข้าเครื่องยนต์ ทำให้รถดับได้ สำหรับผู้ขับขี่รถขนาดเล็ก ควรประเมินระดับน้ำให้ดีก่อนนำรถลุยน้ำ
3. ห้ามขับรถตีคู่กับรถคันใหญ่ เพราะคลื่นน้ำจากล้อรถคันใหญ่อาจจะสาดเข้ามาที่กระจกหน้ารถ ทำให้ทัศนวิสัยเสียไป และผู้ขับขี่อาจจะตกใจจนเผลอปล่อยมือจากพวงมาลัย จนรถเสียหลักเซถลาออกนอกเลนได้
4. ห้ามขับจี้คันหน้า แต่ให้เว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติ เพื่อเผื่อระยะการเบรคบนพื้นถนนที่มีความลื่น เพราะระยะการเบรคจะมาก กว่าบนพื้นถนนแห้ง หรือบนพื้นถนนที่มีน้ำท่วมขังระบบเบรคอาจจะไม่ตอบสนองเหมือนยามขับขี่บนพื้นถนนปกติ การเว้นระยะห่างให้มากขึ้นจะช่วยลดอันตรายจากอุบัติเหตุได้
5. ห้ามเหยียบเบรคกระทันหัน เพราะรถอาจจะเสียการทรงตัวจากถนนลื่น แต่ควรแตะเบรคทีละนิด เพื่อช่วยไล่น้ำออกจากผ้าเบรค ทำให้ระบบเบรคทำงานได้เป็นปกติ
6. ห้ามเปิดไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่าหมาก หากต้องขับรถท่ามกลางฝนตกหนัก เพราะจะสร้างความสับสนให้รถคันอื่น รวมถึงไม่ควรเปิดไฟสูง หรือไฟตัดหมอก เพราะแสงไฟอาจจะส่องแยงตาผู้ขับขี่รถคันอื่นจนเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ให้เปิดไฟหน้า เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็น และเพื่อให้รถที่ตามมามองเห็นรถเราได้ง่ายขึ้น
7. ห้ามฝืนขับต่อไป หากฝนตกหนักมากจนระดับการมองเห็นต่ำกว่า 10 ม. แต่ควรจอดรถพักข้างทาง หรือหาจุดปลอดภัยหยุดพักก่อน รอจนฝนเบาลงแล้วจึงค่อยเดินทางต่อ
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับ และคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยในหน้าฝนด้วยความห่วงใยจาก roddonjai.com เวบไซท์ที่จะช่วยคุณตัดสินใจซื้อรถมือสองคุณภาพดีที่วางใจได้ ช่วยหารถตามความต้องการ และตอบโจทย์การใช้งานได้ไม่ยากด้วยจำนวนรถที่มีให้เลือกมากกว่า 6,000 คันจากทั่วประเทศ และจะมากขึ้นเรื่อยๆ อุ่นใจได้กับรถทุกคันในระบบการขาย เพราะผ่านการตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดสูงสุดถึง 274 ราย การ จากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล การันตี ไม่มีชนหนัก และน้ำท่วม เพื่อให้การขับขี่บนท้องถนนของคุณมีความราบรื่น และอุ่นใจทุกครั้งเมื่อนำรถคู่ใจคันเก่งออกสู่ท้องถนน
นอกจากนี้ ยังมีราคากลางที่จะช่วยประเมินประกอบการตัดสินใจซื้อรถมือสองเทียบกับราคารถป้ายแดง บนมาตรฐานเดียวกันกับเวบไซท์ ttb bluebook ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001: 2015 ภายใต้ Scope “Used Car Price Determination” ที่ผ่านการตรวจสอบจาก Auditor “SGS Thailand Co., Ltd และได้รับการรับรอง Certificate จาก UKAS ประเทศอังกฤษ จึงนับเป็นแหล่งอ้างอิงราคากลางที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือสูง และช่วยผู้ซื้อประหยัดเวลาในการหาข้อมูลได้เป็นอย่างดี
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/462102