ธุรกิจ
Great Wall Motor ทุบสถิติยอดขายรถ เดือนสิงหาคมกวาดยอดขายสูงสุด 30,741 คันทั่วโลก และยอดขายในประเทศไทย 1,071 คัน
Great Wall Motor รายงานยอดขายรถยนต์ทั่วโลกภายในเดือนสิงหาคมด้วยยอดสูงถึง 114,096 คัน โดยเฉพาะยอดขายในตลาดต่างประเทศ (ตลาดนอกประเทศจีน) ที่สามารถทุบสถิติใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 30,741 คัน หรือเทียบเท่ากับ 27 % ของยอดขายทั้งหมด และมีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2565 ถึง 99.5 % โดยภายในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) ของ Great Wall Motor ยังมียอดขายสูงถึง 26,301 คัน สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งจากปีที่ผ่านมาถึง 119.83 % สำหรับตลาดประเทศไทย Great Wall Motor ยังคงสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,071 คัน เติบโต 32 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) พร้อมเดินหน้าเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
สำหรับผลประกอบการที่โดดเด่นของตลาดต่างประเทศในเดือนสิงหาคม 2566 เป็นผลมาจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกกับพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย อย่าง Inchcape Group และโครงการต่างๆ ในประเทศอุซเบกิสถาน รวมถึงจากการที่บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการขยายตัวสู่ตลาดในประเทศเมกซิโก และการตอบรับอย่างท่วมท้นของ GWM TANK 500 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งล้วนเป็นส่วนที่ทำให้ยอดขายทั่วโลกสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ยิ่งไปกว่านั้น Great Wall Motor ยังได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจไว้ในตลาดแอฟริกาใต้ ด้วยการครองตำแหน่งบริษัทรถยนต์จากประเทศจีนที่มียอดขายสูงที่สุดในเดือนสิงหาคม และรักษาตำแหน่ง 10 อันดับแรกของแบรนด์รถยนต์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไว้ได้อย่างมั่นคง รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายผ่านการเข้าร่วมงานสำคัญอย่างมหกรรม NAMPO Harvest Day หนึ่งในงานมหกรรมด้านเกษตรกรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศ และเป็นผู้ให้บริการยานพาหนะอย่างเป็นทางการ (Official Vehicle Provider) ภายในงานประชุมสุดยอด BRICS ประจำปี 2566 อีกครั้ง หลังจากเป็นผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2561 แสดงให้เห็นถึงบทบาท และความสำคัญของบริษัทฯ ที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศแอฟริกาใต้อย่างแท้จริง
สำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) Great Wall Motor สร้างความสำเร็จได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะในตลาดยุโรป อเมริกาใต้ และอาเซียน สามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 26,031 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 119.39 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการสร้างการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถยนต์พลังงานใหม่ โดยยอดขายในส่วนนี้ถือเป็นผู้นำในตลาดเฉพาะทาง และเป็นส่วนสำคัญสำหรับการสร้างการเติบโตของยอดขายในภาพรวม
ในตลาดยุโรป Great Wall Motor ได้ขยายการดำเนินการธุรกิจผ่านการเปิดตัวแทนจำหน่ายแห่งใหม่ในประเทศสวีเดน เช่นเดียวกับรักษาผลประกอบการไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ของรถยนต์ภายใต้แบรนด์ ORA กว่า 2,211 คัน ในประเทศเยอรมนี ซึ่งแบรนด์ ORA มีผลประกอบการที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง และได้รับคำชื่นชมจากสื่อท้องถิ่น โดยเฉพาะรุ่น ORA 03 ที่ได้รับคะแนนการทดสอบความปลอดภัยมาตรฐาน Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) ระดับ 5 ดาว ในประเภท “รถยนต์ครอบครัวขนาดเล็ก”
สำหรับตลาดอเมริกาใต้ Great Wall Motor ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์ยานยนต์จากประเทศจีนที่มียอดขายสูงสุดติดต่อกันใน 7 เดือนแรกของปี 2566 ในประเทศชิลี และสามารถขยายเครือข่ายดีเลอร์ได้ถึง 50 แห่งในครึ่งปีแรกในประเทศบราซิล และมีแผนจะเปิดตัวโรงงานผลิตรถยนต์ NEV ภายในครึ่งปีแรกของปี 2567 รวมถึงยังเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่หลากหลายรุ่น อาทิ Haval H6 PHEV/HEV และ Haval H6 GT PHEV ที่มอบประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ให้แก่ผู้บริโภคในประเทศบราซิล โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา Haval H6 ยังสามารถครองตำแหน่งผู้นำของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่า 10 % อีกด้วย
ด้านตลาดอาเซียน Great Wall Motor เดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการขยายตลาด และประสบความสำเร็จในการเปิดตัวแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ในอีก 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 9 ประเทศหลักในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ไทย เมียนมาร์ สปป. ลาว มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ในส่วนของความสำเร็จของ Great Wall Motor ประเทศไทย มียอดขายประจำเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ 1,071 คัน นำโดย ORA Good Cat เจ้าเหมียวไฟฟ้าที่ครองใจแฟนๆ ชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายกว่า 629 คัน ตามมาด้วย New Haval H6 SUV และ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ที่มียอดขายรวมกันถึง 284 คัน และเจ้าสิงโตอารมณ์ดี New Haval Jolion Hybrid SUV กับยอดขาย 158 คัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เดินหน้าเติมเต็มไลน์อัพผลิตภัณฑ์ตาม Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 9 รุ่นภายใน 3 ปี ซึ่งปัจจุบัน Great Wall Motor ได้เปิดตัวรถยนต์ไปแล้วทั้งสิ้น 6 รุ่น และเตรียมเปิดตัวอีก 3 รุ่น ได้แก่ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV รถเอสยูวีออฟโรดพรีเมียม All New GWM TANK 300 Hybrid SUV รถเอสยูวีออฟโรด สำหรับไลฟ์สไตล์อันโดดเด่น และ ORA 07 (ORA Grand Cat) รถไฟฟ้าสปอร์ทคูเป สมรรถนะสูงภายในปีนี้ พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศไทยสามารถเข้าถึงยานยนต์คุณภาพ โดยตั้งเป้าหมายขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 80 แห่งภายในปี 2566 เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่เปิดให้บริการไปแล้ว 61 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งเดินหน้าเติมเต็มระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Fast Charge) ครอบคลุม 22 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายให้ครบทั้งสิ้น 55 แห่ง ภายในปี 2566 สำหรับการบริการหลังการขาย Great Wall Motor ยังเดินหน้ายกระดับประสบการณ์หลังการขายด้วย GWM Smart Service ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อพแลทฟอร์มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์การเข้ารับบริการที่สะดวก ฉับไว โปร่งใส และเป็นธรรม
ด้วยความพยายามที่ไม่เคยหยุดยั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ Great Wall Motor ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายที่โดดเด่นไปทั่วโลก ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการให้ความสำคัญในการมุ่งหน้าพัฒนายานยนต์พลังงานใหม่ ผลิตภัณฑ์ และบริการ รวมไปถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบยานยนต์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพเทคโนโลยีล้ำสมัย บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการตามวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งมอบยานยนต์คุณภาพสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/465895