ธีรพงษ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนพูมิภาค บริษัทเวิร์นส์ ออโตโมทีฟประเทศไทย กล่าวว่า Eletre ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นสุดยอดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า100% รุ่นแรกและรุ่นสำคัญที่สุดของ Lotus ซึ่งเกิดจากการหลอมรวมมรดกความเชี่ยวชาญอันเป็นอกลักษณ์ของแบรนด์ นำจิตวิญญาณของสปอร์ทคาร์รุ่นล่าสุดอย่าง Emira มาผสานกับเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์นล้ำสมัยของไฮเพอร์คาร์รไฟฟ้า 100% ในรุ่น Evija เพื่อสร้างสรรค์เป็นไฮเพอร์เอสยูวีรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด "เกิดในอังกฤษ ผงาดสู่ระดับโลก"
โดย Eletre เป็นความร่วมมือระดับนานาชาติผ่านการวิจัยและพัฒนโดยทีมวิศวกรทั้งในสหราชอาณาจักร เยอรมนี และจีน ซึ่งจะวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Eletre S และ Eletre R เปิดปรากฎการณ์ไฮเปอร์เอสยูวีระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ผ่านการนำประสบการณ์การขับขี่มาตีความใหม่เพื่อมอบความเป็นเลิดทั้งระบบกันสะเทือนและเทคโนโลยีโครงแชสซีสมรรถนะการขับขี่ การควบคุม และประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์อันยอดเยี่ยม
ฟีเจอร์มาตรฐานของ Lotus Eletre จะประกอบด้วยระบบถุงลมกันสะเทือนแบบแอ็กทีฟ, ระบบดวบคุมการหน่วงต่อเนื่อง, ระบบแรงบิดเวกเตอร์, ระบบ Lotus Intelligent Dynamic Chassis Control, ล้อขึ้นรูปขนาด 23 นิ้วแบบ 5 ก้านพร้อมเคลือบผิวแบบ Diamond-turned (รุ่นมาตรฐานในตลาดเมืองไทยจะใช้ล้อขนาด 22 นิ้วแบบ 5 ก้าน), ไฟหน้า Matix LED, ระบบ Adaptive Cruise Control, ระบบ Visual Park Assist, ระบบปรับอากาศ 4 โซน. เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง, เทคโนโลยีแสดงผลบนกระจกหน้ารถแบบ Head-up Display, ระบบ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมถึงระบบเสียง KEF Premium Audio 1,380W 15 ลำโพง เพื่อตอบโจทย์ความบันเทิงในทุก ๆ การเดินทาง
Eletre S: ตอบโจทย์ความหรูหราเพื่อไลฟต์สไตล์ที่แตกต่าง
นอกจากระบบมาตรฐาน ยังครบครันด้วยพืเจอร์อื่น ๆ อาทิ การปิดประตูแบบนุ่มนวล, กระจกเคลือบดำเพิ่มความเป็นส่วนตัว, สปอยเลอร์หลังแบบแอ็กทีฟ, ระบบไฟตกแต่งในห้องโดยสารที่ตั้งค่ได้, กาบประดูเรืองแสง, ระบบควบคุมคุณภาพอากาศ, ระบบเสียง KEF Reference 2,160 วัตต์ 23 ลำโพง และล้อขึ้นรูปขนาด 22 นิ้ แบบ 10 ท้านในเฉดสีเทาพร้อมทำผิวแบบ Diamond-turned Eletre R: รุ่นแฟลกชิฟที่เน้นประสิทธิภาพและการขับขี่ที่เร้าใจ ติดตั้ง Lotus Dynamic Handing Pack (ประกอบด้วย Intelligent Active Roll Control และ Active Reareering) แพกเกจชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ Carbon Pack,ยางสมรรถนะสูงรุ่น Pirelli P Zero และการเคลือบสีล้อโทนดำเงา พร้อมเพิ่มโหมดการขับขี่แบบที่ 6 คือ Track Mode สำหรับสนามแข่ง ซึ่งจากการทดสอบสมรรถนะสุดโหด ซึ่งรวมถึงที่สนาม Nurburgring ปรากฎว่า Eletre R คือเอสยูวีระบบไฟฟ้า 100% แบบสองมอเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ เวลานี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมส์เซม ) ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที ส่วนระบบชาร์จก็เร็วแรงไม่แพ้กัน โดยชาร์จไฟจาก 10-80% ในเวลาเพียง 20 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาทีก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 120 กม. (ราว 74 ไมส์) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่มอบแรงฉุดได้อย่างฉับไวบวกกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนสี่ ทำให้ Eletre R มีแรงลากสูงถึง 2,250 กก.
นอกจากนี้ ยังมีจอแสดงผลแบบ Head-up Display ขนาด 29 นิ้ว ในรูปแบบจอเสมือนบนกระจกหน้าที่ฉายกราฟิกซ้อนทับมุมมองด้านหน้า ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนในขณะดูข้อมูลในขณะที่ชุดเซนเซอร์ยังสามารถอัปเดตได้แบบ Over-the-air (OTA) เพื่อมอบประสิทธิภาพการขับขี่ระบบอัติโนมัติที่ทันสมัยที่สุดอยู่เสมอส่วนลูกค้าในโซนยุโรปและสหราชอาณาจักรจะได้ใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยมากกว่าและการรับประกันที่ครอบคลุมให้เป็นบริการมาตรฐาน
ลูกค้าของ Eletre ทุกรุ่นยังสามารถเลือกแต่งรถให้สะท้อนถึงตัวตนได้ตรงใจ ด้วยออฟชันการตกแต่งมากมาย รวมถึงชุดเบาะนั่ง Executive Seat Pack, ชุดเบาะนั่ง Comfort Seat Pack, อุปกรณ์เสริมคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดตกแต่งภายในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์, Parking Pack, และ Highway Assist Pack และอีกมากมาย โดยลูกค้ายังสามารถเลือกเฉพาะออพชันที่ต้องการจากแต่ละแพกเกจได้ รวมถึงเฉดสีและรูปแบบการตกแต่งภายในที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์อย่างไม่จำกัด โดยเวิร์นส์ ออโตโมทีฟประเทศไทย เปิดรับ Pre-order รุ่น Eletre แล้ววันนี้ในราคาเริ่มตันที่ 5.89- 6.59 ล้านบาท กำหนดเริ่มส่งมอบรถตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นต้นไป
เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ รู้สึกยินดีที่ได้นำเสนอ Eletre สุดยอดไฮเปอร์เอสยูวีสู่นักขับชาวไทยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการยานยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน และการเดินทางพักผ่อนในวันหยุด โดยยังคงมอบสมรรถะการขับขี่ขั้นสุดและประสบการณ์สุดเร้าใจเสมือนกำลังพุ่งทะยานในสนามแข่งไปพร้อมกัน หากสิ่งที่แตกต่างคือความสะดวกสบายที่เหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ อินโฟเทนเมนต์ และการเชื่อมต่อออนไลน์ที่คนยุดใหม่ต้องการ ทำให้เราเชื่อมันว่าEletre จะเป็นเอสยูวีอีกหนึ่งรุ่นที่ครองใจลูกค้าโลตัสและนักขับในเมืองไทยอย่างแน่นอน"