Mitsubishi Triton Single Cab 4WD TJM Farmer Edition
กันชนหน้า TJM รุ่น T24 Venturer Bull Bar แทนกันชนเดิม ด้านบนติดตั้งไฟสปอทไลท์ Seeker Driving Light เสริมไฟ Seeker Side Shooter และ Seeker Pod Lamp ในตัวกันชน รับกับไฟหน้าฮาโลเจนทรงโฉบเฉี่ยว และกระจังหน้าทรงเหลี่ยม มาพร้อม Dynamic Shield สัญลักษณ์ของ Mitsubishi
ใต้กันชนติดตั้งแผ่นกันกระแทก TJM ด้านหน้า Front Guard Steel แผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่อง Sump Guard แผ่นกันกระแทกใต้เกียร์ Transmission Guard
ด้านข้าง TJM เสริมบันไดข้าง Side Step
กันชนหลัง TJM Rear Protection Step Towbar Black Steel และท่อเสริมใต้กันชนหลัง TJM Rear Bar Tube ติดตั้งไฟเสริม Seeker Pod Lamp ลงตัวกับไฟท้ายรูปทรง T-Shape
TJM อัพเกรดช่วงล่าง ด้านหน้าเปลี่ยนชอคอัพหน้า TJM XGS Rugged เป็นชอคอัพท่อคู่อัดไนโตรเจน ช่วยเพิ่มศักยภาพในการหน่วงและความทนทานต่อแรงกระแทกได้อย่างมาก ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของรถ 4x4 ใช้ได้กับการยกตั้งแต่ 0-55 มม. และวาล์วควบคุมความเร็วแบบหลายจังหวะ และคอยล์สปริง TJM XGS
ด้านหลังเปลี่ยนเป็น TJM ทั้งชุดตั้งแต่แหนบ TJM XGS Leaf Spring ก้อนรองแหนบ Leaf Spring Spacer (NA Leaf Spring) ชอคอัพหลัง XGS Rugged และสาแหรก U-Blot
ส่วนล้อและยาง TJM เลือกใช้ TJM Wheels Kong Series Face Polish Black Clear Black Lip ขนาด 17 นิ้วแทนล้อเดิมขนาด 16 นิ้ว และเปลี่ยนมาใส่ยาง BF Goodrich Mud-Terrain A/T KM3 ลายดอกหล่อ และลุยได้แบบถึงไหนถึงกัน
ด้านบนกระบะท้าย TJM เพิ่มคอกกระบะ Farmer Cage เสริมขอบกระบะให้เท่ากับความสูงหัวเก๋ง ช่วยเพิ่มพื้นที่กระบะบรรทุก (ขนาดกระบะมีความกว้าง 2,340 มม. และยาว 1,580 มม. ใหญ่และกว้างกว่ารถในระดับเดียวกัน สามารถบรรทุกตะกร้าผลไม้ได้มากสุด 13 ใบต่อชั้น ด้านข้างกระบะมีขอหูช้าง และมือจับเปิด/ปิดกระบะด้านท้าย เน้นการใช้งานเป็นหลัก
ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมด ด้วยแนวคิด Geometric Design Premium Touch ออกแบบฟังค์ชันต่างๆ โดยคิดจากสรีระของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ให้ทุกฟังค์ชันใช้งานสะดวก และง่ายต่อการควบคุม แผงหน้าปัดขนาดใหญ่ มาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอล พวงมาลัยทรง 3 ก้าน จับถนัดมือ พร้อมปุ่มปรับควบคุมเครื่องเสียง ส่วนระบบเครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบปรับอากาศแบบมือหมุน มือจับเปิด/ปิดประตูรูปทรง 3 มิติ ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพราะมีขนาดใหญ่ และเบาะนั่งหุ้มหนังไวนิล แยกซ้าย/ขวา พร้อมที่พักแขนตรงกลางระหว่างเบาะนั่ง
ขุมพลังใหม่ Hyper Power เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ความจุ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 44.0 กก.-ม. (430 นิวตันเมตร) ที่ 2,250-2,500 รตน. ระบบถ่ายทอดกำลัง มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แรงบิดมาไว และต่อเนื่อง ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Easy Select 4WD ปรับง่ายไม่ต้องหยุดรถ มาพร้อมกับระบบลอคเฟืองท้ายด้านหลัง (Rear Diff Lock) เหมาะกับทุกสภาพถนน มั่นใจได้เต็มร้อยเรื่องลุย ยิ่งถ้าเปลี่ยนมาใส่ยาง All-Terrain หรือ Mud-Terrain ลายดอกสวยๆ รับรองว่าหล่อ และลุยได้แบบถึงไหนถึงกัน
ระบบรองรับออกแบบใหม่ มีระยะช่วงชักที่ยาวขึ้น และชอคอับมีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นเดิม ด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และชอคอับ ด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน ระบบเบรคด้านหน้าแบบจาน ระบายความร้อน ส่วนด้านหลังแบบดุม รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.2 ม. พวงมาลัยแบบฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง
สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCL, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบเบรค ABS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟ ลิมิเทด สลิพ, ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรค EBD, ระบบเสริมแรงเบรค BA, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และบริเวณหัวเข่าด้านผู้ขับขี่ เป็นต้น
ชุดแต่ง 243,300 บาท เมื่อรวมกับค่าตัวรุ่นเกียร์ธรรมดา ราคา 699,000 บาท เป็น 942,300 บาท หรือจะเลือกรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ราคา 749,000 บาท ก็เป็น 992,300 บาท
กระบะตอนเดียว ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตกแต่งเชิงพาณิชย์สำหรับการใช้งานในภาคการเกษตรและขนส่ง ต่อโครงเหล็ก (ต่อคอก) เพื่อเพิ่มความสามารถในการบรรทุกสินค้า ซึ่ง Triton ตอนเดียว รุ่นใหม่นี้ มีขนาดของกระบะบรรทุกที่ใหญ่เทียบเท่าหรือมากกว่ารถในคลาสเดียวกัน เสริมด้วยเครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Easy Select 4WD อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi โครงรถเมกะเฟรมใหม่ แชสซีส์ใหม่ พร้อมด้วยช่วงล่างใหม่ที่มีความทนทานแข็งแกร่งกว่าเดิม ขณะที่การตกแต่งภายในเน้นความสะดวกสบาย ลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ให้การบรรทุกหนักเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม