ธุรกิจ
สอท. แจงยอดผลิตรถยนต์ เดือน พย.
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ดังต่อไปนี้จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2566 มีทั้งสิ้น 163,337 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 14.10 เพราะฐานการผลิตสูงในปีที่แล้วจากการได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดัคเตอร์มากขึ้นเพราะการระบาดของโรค COVID-19 ชะลอตัวลง คนทำงานกลับไปทำงานที่สำนัก งานมากขึ้น คอมพิวเตอร์ และมือถือขายลดลง แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 2.90
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,708,042 คัน ลดลงจากเดือนมกรา คม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 0.98
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 60,396 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 13.56 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 42,490 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 27. 89
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle ในเดือนพฤศจิกายนปี 2566 และ 2565 ไม่มีการผลิต
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 750 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 44. 97
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 17,156 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 78.99
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มีจำนวน 598,704 คัน เท่ากับร้อยละ 35.05 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 9.57 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 458,420 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 0. 96
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 151 คัน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วยังไม่มีการผลิต
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 8,774 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 26.68
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 131,359 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 71.39
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 8 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 38.46 รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 116 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 141 .67
รถยนต์บรรทุก เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 102,933 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 14.42 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,109,222 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศ จิกายน 2565 ร้อยละ 5.87
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 99,234 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 15.04 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,074,778 คัน เท่ากับร้อยละ 62.92 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 5.75 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 191,074 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 30.51
• รถกระบะ Double Cab 703,968 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 2.56
• รถกระบะ PPV 179,736 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 25.82
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 3,699 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศ จิกายน 2565 ร้อยละ 6.35 รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 34,444 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม- พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 9.71ผลิตเพื่อส่งออก เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 93,372 คัน เท่ากับร้อยละ 57. 17 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 13.02 ส่วนเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 997,678 คัน เท่ากับร้อยละ 58.41 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระ ยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.85
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 26,947 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 25.96 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 274,553 คัน เท่ากับร้อยละ 45.86 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 5.34
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 66,425 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิ กายน 2565 ร้อยละ 6.38 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 723,125 คัน เท่ากับร้อยละ 67.28 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 4.66 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 72,507 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 6.29
• รถกระบะ Double Cab 546,945 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 3.02
• รถกระบะ PPV 103,673 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 25.44 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 69,965 คัน เท่ากับร้อยละ 42.83 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 15.51 และเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 710,364 คัน เท่ากับร้อยละ 41.59 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 8.15
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,449 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 0.07 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ผลิตได้ 324,151 คัน เท่ากับร้อยละ 54.14 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.43
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 32,809 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 28.43 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 351,653 คัน เท่ากับร้อยละ 32.72 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 21.75 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 118,567 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 39.99
• รถกระบะ Double Cab 157,023 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 18.04
• รถกระบะ PPV 76,063 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 26.33
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤศจิกายน 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 210,846 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 11.43 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 178,045 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 5.82 และชิ้นส่วนประ กอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 32,801 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 33.07
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,271,744 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 5.60 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,956,210 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 6.58 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 315,534 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 44.73
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 61,621 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 4.51 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 9.76 เพราะยอดขายรถกระบะลดลงร้อยละ 38. 8 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเพราะหนี้ครัวเรือนสูง แยกเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 35,787 คัน เท่ากับร้อยละ 58.08 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 27.08
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 16,702 คัน เท่ากับร้อยละ 27.10 ของยอดขายทั้ง หมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 26.70
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 8,696 คัน เท่ากับร้อยละ 14.11 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 875.98
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 50 คัน เท่ากับร้อยละ 0.08 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 89.69
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 10,339 คัน เท่ากับร้อยละ 16.78 ของยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 158.41
รถกระบะมีจำนวน 17,853 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 38.82 รถ PPV มีจำนวน 4,251 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 40.16 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 2,176 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 12.36 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,554 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 14.86
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 143,121 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 6.03 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 5.21 โดยแบ่งเป็น
• รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 142,933 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 99.87 ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 5.27
• รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 188 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.13 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันไม่มีการผลิต
ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 รถยนต์มียอดขาย 707,454 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.71 แยกเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 367,492 คันเท่ากับร้อยละ 51.95 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 17.27
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 221,012 คัน เท่ากับร้อยละ 31.24 ของยอดขายทั้ง หมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 11.92
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 64,815 คัน เท่ากับร้อยละ 9.16 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 722.32
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,788 คัน เท่ากับร้อยละ 0.25 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 28.42
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 79,877 คัน เท่ากับร้อยละ 11.29 ของยอดขายรถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 53.41
รถกระบะมีจำนวน 245,195 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 30.50 รถ PPV มีจำนวน 55,806 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 5 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 24,370 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 12.90 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 14,591 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 6.68
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,724,437 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 4.67 โดยแบ่งเป็น
• รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 1,723,211 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 99.93 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.66
• รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 818 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.02 ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23. 69
• รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 408 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.05 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนพฤศจิกายน 2566 ส่งออกได้ 99,609 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 8.46 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิ กายน 2565 ร้อยละ 13.22 จากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังดี จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออก กลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 97,147 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.21 ส่งออกรถยนต์ HEV 2,462 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 292.04 มูลค่าการส่งออก 65,575.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 16.95
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,673.67 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 2.05
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 17,780.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 11.03
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,260.57 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 12.33
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 89,290.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 13.87
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,027,234 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียว กันร้อยละ 15.59 แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 1,015,304 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 15.41 ส่งออกรถยนต์ HEV 11,930 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 34.20 มูลค่าการส่งออก 657,492.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 18.82 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 35,847.40 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 10.53
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 172,631.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 7.38
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 22,484.96 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 13.81
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 888,455.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 10.25
รถจักรยานยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2566 มีจำนวนส่งออก 76,148 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลา คม 2566 ร้อยละ 11.76 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 15.11 โดยมีมูลค่า 6,849.05 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 3.84
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 239.05 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 20.47
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 67.84 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 65 .91
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2566 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 7,155.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 0.85
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 746,035 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 20.88 มีมูลค่า 62,824.46 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 5.69
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,762.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 6.74
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,754.04 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 23.90
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 67,340.54 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 5.83
เดือนพฤศจิกายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักร ยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 96,446.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 12.79
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 955,796.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 8.94
เดือนพฤศจิกายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,290 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 292.29 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 8,979 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 583.33
o รถยนต์นั่ง จำนวน 8,940 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 32 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 2 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 5 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 36 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 620
• รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 93 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 126.83
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 92 คัน
o รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,178 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 67.93
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 2,177 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 1 คัน
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 4 คัน ซึ่งช่วงปีที่แล้วยังไม่มีการจดทะเบียน
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 89,027 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 391.29 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 66,912 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 696.38
o รถยนต์นั่ง จำนวน 66,577 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 305 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 12 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 18 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 177 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 580.77
• รถยนต์ 3 ล้อ มีทั้งสิ้น 389 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 82.63
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 372 คัน
o รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล จำนวน 17 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 20,080 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 127.38
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 20,027 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 53 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 1,211 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 88.92
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 258 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 3,125
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพฤศจิกายน 2566 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,524 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 47.82 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,486 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 48.18
o รถยนต์นั่ง จำนวน 7,479 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 2 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 1 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 4 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 38 คัน เท่ากับเดือนพฤศจิกายน 2565
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 38 คัน
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 79,560 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้ว ร้อยละ 32.74 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 79,007 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 32. 79
o รถยนต์นั่ง จำนวน 78,904 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 16 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 22 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 65 คัน
• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 553 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 25.97
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 553 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนพฤศจิกายน 2566 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 785 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 8.31 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 785 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 8.31
o รถยนต์นั่ง จำนวน 784 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร 1 คัน
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 11,168 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้ว ร้อยละ 4.84 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,168 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 ร้อยละ 4.84
o รถยนต์นั่ง จำนวน 11,157 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 6 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 5 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 120,713 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 310.56 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 80,522 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 544.69
o รถยนต์นั่งมีจำนวน 79,806 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 547.83
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 483 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 207.64
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 36 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 414.29
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 33 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 164 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2,243.86
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 240 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 252.94
• รถยนต์ 3 ล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 860 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 78.05
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 79 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33.90
o รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ มีจำนวน 781 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 84.20
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 36,391 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 135.07
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 36,267 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 135.70
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 124 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 72.22
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,415 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 175.37
o รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 285 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,040
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 พศฤจิกายย 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 338,174 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.22 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 329,085 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33.36
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 328,281 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33.37
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 477 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2.85
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 49 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 75
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 150 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 85.19
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 32 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33.33
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 126 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 500
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,086 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 0.88
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 9,086 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 0.88
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 53,450 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.05 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 53,450 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.05
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 53,381 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 28.07
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 41 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2.50
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 21 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 5
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 4 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ไม่มีการจดทะเบียน