ลองขับ Neta GT ขับหลัง 231 แรงม้า ขับ 4 ล้อ 462 แรงม้า ถ้าให้เลือกจะเอาคันไหน

Neta GT สปอร์ทคูเป 2 ประตู 4 ที่นั่ง พลังไฟ (ไฟฟ้า) สำหรับคนใจถึง เลือกได้ทั้งแบบ มอเตอร์เดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง 231 แรงม้า และมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) 462 แรงม้า

Neta GT เป็นรถสปอร์ทคูเป 2 ประตู 4 ที่นั่ง หนึ่งเดียวในกลุ่ม ซึ่งต่างจาก ซีดานไฟฟ้าตัวแรง BYD Seal (บีวายดี ซีล) และรถพลังไฟฟ้า 4 ประตูท้ายลาด รูปทรงสปอร์ทคูเป ORA 07 (โอรา 07) รูปทรงโฉบเฉี่ยวของ Neta GT มีค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศเพียง 0.21 Cd ซุ้มล้อหลังกว้าง มิติตัวรถยาว/กว้าง/สูง 4,715/1,979/1,415 มม. ระยะฐานล้อ 2,770 มม. ของ Neta GT สัดส่วนที่ดูสปอร์ทกว่าทั้ง BYD Seal (4,800/1,875 /1,460 มม. ฐานล้อ 2,920 มม.) และ ORA 07 (4,871/1,862/1,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,870 มม.) 

ไฟหน้าและไฟท้าย Neta GT แบบ Led หลังคากระจก (Panoramic Glass Roof) ขนาด 1.337 ตร.ม. มือจับประตูไฟฟ้า (Auto Present Door Handle)

ภายในห้องโดยสารของ Neta GT ทั้ง 2 รุ่นย่อย หน้าจอมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ตรงกลางเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบ Ultra-Thin ขนาด 17.6 นิ้ว วางตัวในแนวตั้ง ทำงานบน Smart Cockpit Platform ที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon ในการประมวลผล รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันความบันเทิงต่างๆ

Neta GT มาพร้อมระบบเปิดประตูแบบไฟฟ้าผ่านปุ่มที่ติดตั้งบริเวณแผงประตู และสวิทช์ควบคุมหน้าต่างแบบสัมผัสทั้งหมด 

เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ท เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ N95

คอนโซนกลางติดตั้งที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) ปุ่มรูปสายฟ้าใช้สำหรับควบคุมการทำงานของระบบ One-Click Eject Button ซึ่งคล้ายกับระบบ Launch Control เพื่อให้การออกตัวทำได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่การเข้า/ออกเบาะนั่งหลังสามารถกดปุ่มบริเวณด้านในของเสา B เพื่อเลื่อนเบาะคู่หน้า

ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor โดยมอเตอร์  1  ตัว ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า (170 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. (310 นิวตัน- เมตร) ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดแบทเตอรี 74.48 กิโลวัตต์- ชั่วโมง ให้ระยะทางการวิ่งสูงสุด 660 กม. (CLTC Mode)

และเพิ่มเป็นเท่าตัว 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 63.2 กก.-ม. (620 นิวตัน- เมตร) จากมอเตอร์ 2 ตัว (หน้า/หลัง) ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ AWD ขนาดแบทเตอรี 78 กิโลวัตต์- ชั่วโมง ระยะทางการวิ่งสูงสุดเหลือ 580 กม. (CLTC Mode)

Comfort Mode

Sport Mode

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. มอเตอร์ 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้เวลา 6.5 วินาที แต่เป็นมอเตอร์ 2 ตัว ในรุ่น AWD ที่ใช้เวลาน้อยลงเหลือเพียง 3.7 วินาที

ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone Independent Suspension) ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ (Five-Link Independent Suspension) กับล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยาง 245/45 R19 แต่ต่างกันที่แบรนด์ ยาง Dunlop E-Sport Maxx ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และยาง Michelin Pilot Sport 4 ในรุ่น AWD

ยาง Dunlop E-Sport Maxx ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง

ยาง Michelin Pilot Sport 4 ในรุ่น AWD

ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ซึ่งผู้ผลิตแจ้งไว้ว่า สามารถหยุดรถจาก 100-0 กม./ชม. ด้วยระยะทางเพียง 32 ม.

Neta Gt มีระบบควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย

Neta Gt ใช้ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Neta Pilot 2.5 ที่อาศัยการทำงานของเซนเซอร์ติดตั้งไว้รอบคันทั้ง Millimeter Wave Radar 5 จุด, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 จุด, กล้องด้านหน้าแบบ High Perception (1 ตัวในรุ่นขับหลัง และ 2 ตัวในรุ่น AWD) , กล้องรอบคัน (4 ตัว ในรุ่นขับหลัง และ 9 ในรุ่น Awd) พร้อมระบบประมวลผล Journey 3

กล้องด้านหน้าแบบ High Perception 1 ตัวในรุ่นขับหลัง

กล้องด้านหน้าแบบ High Perception  2 ตัวในรุ่น AWD

นอกจาก ระบบป้องกันล้อลอค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรกอิเลคทรอนิค EBA ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS 

Neta GT ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบความคุมความเร็วอัจฉริยะ ICA (Intelligent Cruise Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ขณะความเร็วสูง HWA (High Speed Lane Change Assist) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ระบบช่วยเตือนวัตถุด้านหน้า FCTA (Forward Target Crossing Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) ระบบเตือนป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition And Reminder) และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA (Automatic Parking Assist)

สนามทดสอบแรกเป็นเรื่องของอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. กำลังสูงสุด 231 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังไปยังล้ออัลลอย 19 นิ้ว และยาง 245/45 R19 ดันตัวรถไปอย่างต่อเนือง ในแบบสุขุมนุ่มลึก ด้วยตัวเลข 6.5 วินาที ไม่เผ็ดร้อน แตกต่างจาก มอเตอร์ 2 ตัว ในรุ่น AWD ใช้เวลาเพียง 3.7 วินาที ที่ให้ความเผ็ดร้อนแบบรถสปอร์ท

สลาลอมในช่วงความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. Neta GT ที่มีตัวรถสั้นและกว้างกว่า BYD Seal และ ORA 07 ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ควบคุมรถได้ง่าย ทั้งจังหวะเข้า/ออก ตั้งแต่ไพลอนตัวแรก จนถึงไพลอนตัวสุดท้าย 

เช่นเดียวกับการเปลี่ยนช่องทางกระทันหัน พวงมาลัยให้ความแม่นยำ อาการท้ายปัดของรถท้ายหนัก ขับเคลื่อนล้อหลัง ควบคุมได้ง่ายด้วยคันเร่ง และยังมีระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS คอยช่วย ส่วนรุ่น AWD กำลัง 231 แรงม้าคูณ 2 อาการอันเดอร์ จากมาตอนหักเลื้ยวเร็วและใช้ความเร็วเกิน ซึ่งความเร็วที่กำหนดคือ 50 กม./ชม. 

สนามต่อมาเป็นพื้นผิวลื่นและมีน้ำ เพื่อทดสอบการออกรถบนถนนเปียก ความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. เบรคชะลอ และกดคันเร่งออกตัว เรายังพอสัมผัสได้ถึงการทำงานของระบบป้องกันล้อลอค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS แต่รอบกลับเพิ่มความเร็วขึ้นไปถึง 80 กม./ชม. รอบนี้ เมื่อเบรคเพื่อหยุดรถ สิ่งสัมผัสได้ต่างออกไป ระบบต่างๆ เข่้ามาช่วยให้การหยุดรถได้ดีขึ้น ไม่รู้สึกถึงจังหวะการจับปล่อยของเบรค และรถยังคงอยู่ในตำแหน่งกลางช่องทาง ไม่ลื่นออกไป แต่ถ้าเป็นถนนแห้งปกติผู้ผลิตแจ้งไว้ว่า สามารถหยุดรถจาก 100-0 กม./ชม. ด้วยระยะทางเพียง 32 ม.

สนามสุดท้ายกำหนดเส้นโค้งกว้าง โค้งแคบ โค้งหักศอก โค้งต่อเนื่อง เพื่อดูการควบคุม การบังคับรถ โดยไม่รู้ถึงลักษณะของโค้งและเส้นทาง ตัวรถสั้นและกว้างกว่า ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ควบคุมรถได้ง่าย ยาง 245/45 R19 ยาง Dunlop E-Sport Maxx ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง แก้มนุ่มกว่า ยาง Michelin Pilot Sport 4 ในรุ่น AWD แต่ก็เพียงพอกับสมรรถนะของรถ     

ถึงแม้ว่ารอบนี้ Neta GT ที่บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด จัดมาให้ทดลองขับจะยังคงเป็นรถพวงมาลัยซ้าย ที่ไม่ใช่รถสำหรับตลาดประเทศไทย แต่ก็น่าจะเป็นการตอบข้อสงสัยบ้างประการของ Neta GT สปอร์ทคูเปไฟฟ้า