ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Nissan ได้ประกาศปรับแผนดำเนินการธุรกิจ โดยเรียกว่าแผน The Arc ซึ่งมีเป้าหมายเปิดตัวรถใหม่ 30 รุ่น ภายใน 2 ปีข้างหน้า
Nissan ตั้งเป้าจะเปิดตัวรถใหม่อีก 6 รุ่นในยุโรป ทั้งจะเพิ่มยอดขายรถไฟฟ้าเป็น 40 % ของรถที่ขายได้ทั้งหมดในยุโรปภายในปี 2569
บริษัทฯ จะทุ่มเททุกวิถีทาง ในการเพิ่มยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าหลังจากปี 2569 โดยการเปิดตัวรถขุมพลังไฮบริด, พลัก-อิน ไฮบริด และไฟฟ้าล้วน 20 รุ่น
คาดการณ์ในปี 2569 รถพลังไฟฟ้าทุกประเภทจะทำยอดขายทั่วโลกได้ถึง 40 % และเพิ่มเป็น 60 % ภายในปี 2573 หรือเพิ่มยอดขายขึ้นถึง 5 % ในทุกปี ซึ่งสูงกว่าที่เคยประมาณการณ์ไว้เมื่อปี 2564
แผน The Arc ตั้งเป้าว่าจะลดราคารถไฟฟ้าให้อยู่ในระดับเดียวกับรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ภายในปี 2572 โดยใช้แบทเตอรีเจเนอเรชันใหม่ ทั้งนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในด้านการพัฒนา และกระบวนการผลิต
กุญแจสำคัญในการทำให้ราคาขายต่ำลง โดยการพัฒนาพแลทฟอร์มรถไฟฟ้าสำหรับกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับ Renault Group, Stellantis, Volkswagen Group และค่ายอื่นๆ
รถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้พแลทฟอร์มใหม่จะเปิดตัวในปี 2570 และรุ่นอื่นที่ใช้พแลทฟอร์มเดียวกันจะเปิดตัวเร็วขึ้นกว่ารุ่นแรกถึง 4 เดือน และมีต้นทุนการพัฒนาลดลงครึ่งหนึ่ง
การใช้พแลทฟอร์มร่วมกันจะช่วยให้บริษัทใช้กระบวนการผลิตรถแบบโมดูล ซึ่งลดเวลาการผลิตให้น้อยลงถึง 20 %
Nissan ยังเลือกบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบให้เป็นกลุ่ม เพื่อเป็นการลดต้นทุน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการประกาศความร่วมมือกับบริษัท Honda ในการจัดซื้อชิ้นส่วนอุปกรณ์ของรถไฟฟ้าในอนาคต
บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้แบทเตอรีนิคเคิลแมงกานีสโคบอลท์ (NMC) ที่ใช้อยู่ใน Nissan Ariya ให้มีความหนาแน่นของพลังงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว และใช้เวลาชาร์จเพียงครึ่งเดียวจากเดิม
ขณะเดียวกันราคาของแพคแบทเตอรีลิเธียมไอรอนฟอสเฟท (LFP) จะถูกลงอีก 30 % ก่อนการเข้าสู่ยุคของแบทเตอรีโซลิดสเตท ในปี 2571