Motorcycle
ROYAL ENFIELD เปิดตัว The All-New Himalayan
Royal Enfield ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลก (250-750 ซีซี) เปิดตัว The All-New Himalayan ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 โดยครั้งนี้ Royal Enfield ได้พลิกโฉมระบบขับเคลื่อนให้แก่ The All-New Himalayan รุ่นล่าสุดนี้ด้วยระบบเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ Sherpa 450 ใหม่ ที่ควบรวมกับฟีเจอร์เทคโนโลยีอีกมากมาย
อนุจ ดัว-หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ Royal Enfield ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (Head of Business, Royal Enfield-APAC) กล่าวว่า ก่อนที่เราจะเริ่มพัฒนา The All-New Himalayan เราได้ร่วมขับขี่ไปกับผู้บริโภคของเรา ได้พูดคุยกับนักเดินทางรอบโลก นักสำรวจ และนักกีฬา เพื่อเก็บข้อมูลมาผนวกกับประสบการณ์ของพวกเราเอง และได้ตัดสินใจเลือก DNA ที่สำคัญที่เราจำเป็นต้องรักษาไว้สำหรับ All New Himalayan 450 จับคู่กับระบบเครื่องยนต์ Sherpa 450 ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกจาก Royal Enfield นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เรามีระบบคันเร่งไฟฟ้า ปรับได้ 4 รูปแบบ ให้การส่งกำลัง และแรงบิดที่เหมาะสมสำหรับภูมิประเทศที่ท้าทาย และเป็นครั้งแรกในความร่วมมือกับ Google Maps ที่เรามี Tripper-Dash พร้อมการนำทางแผนที่เต็มรูปแบบ เราได้ทดสอบรถรุ่นนี้กับระยะทางมากกว่า 5,500 กม. ออกตัวจาก Chennai ไปจนถึง UmLing La ที่มีระดับความสูงถึง 19,024 ฟุต ดังนั้น The All-New Himalayan จึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแนวคิดจากผู้เชี่ยวชาญ การพัฒนาเทคโน โลยี และ DNA ของ Royal Enfield ที่แท้จริง เรามั่นใจว่า The All-New Himalayan จะปลุกหัวใจนักผจญภัยชาวไทยผู้หลงใหลในวิถีไบเคอร์พร้อมร่วมทาง "Pure Motorcycling" ไปกับเรามากยิ่งขึ้น
ความสมดุลระหว่างคน เครื่องยนต์ และสภาพภูมิประเทศ เช่นเดียวกับรุ่นดั้งเดิม All New Himalayan ไม่ได้สร้างมาเพื่อบุกทะลวงเส้นทางด้วยความดุดัน และแรงม้าที่เกินพอดี แต่กลับสร้างมาเพื่อถ่ายทอดพลังของเทือกเขาหิ มาลัย ผสานการเดินทางที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ และเพลิดเพลินไปกับพื้นที่อันแสนไกล ทั้งหมด คือ การสร้างสมดุลระหว่างเส้นทาง ผู้ขับขี่ และสภาพแวดล้อม
สร้างมาเพื่อลุยทุกเส้นทาง...ตอบโจทย์การเดินทางทุกพื้นที่
น่าเกรงขามแต่ไม่น่ากลัว นับเป็นดีเอนเอที่อยู่ในตัวรถ Himalayan จากการปรับปรุงด้านพละกำลัง สมรรถนะ และการควบคุม All New Himalayan เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขี่ง่าย ให้ความสมดุลขับขี่สบายแม้อยู่ในขณะความ เร็วต่ำ ผสมผสานกับคลัทช์แบบใหม่ที่นิ่มลง และการตอบสนองของคันเร่งที่นุ่มนวลจากระบบคันเร่งไฟฟ้า ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางแคบ และการจราจรคับคั่งได้อย่างง่ายดาย เบาะนั่งผู้ขี่แบบปรับระดับได้ ช่วยให้คุณปรับความพอดีกับสรีระของผู้ขับขี่ และ Tripper Dash ที่ชัดเจน และใช้งานง่าย และจะให้ข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้อง การ
บนถนนภูเขาที่คดเคี้ยว เฟรมที่ออกแบบขึ้นมาใหม่มอบประสิทธิภาพการเข้าโค้งที่ดีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังที่เพิ่มขึ้นของเครื่องยนต์ตัวใหม่ ในทางออฟโรด ระยะห่างจากพื้นดินที่สูงขึ้น ระยะยุบของระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุง และช่วงแรงบิดที่กว้าง และมีแรงบิดที่สูงจากรอบเครื่องที่ต่ำ ทำให้การขับขี่ในทุกเส้นทางเป็นไปอย่างง่ายดาย เครื่องยนต์ Sherpa 450 ใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นให้การขับขี่บนทางหลวงได้สบาย พร้อมทั้งรักษาประสิทธิภาพ และพละกำลังบนระดับความสูงได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่มีระยะห่างจากพื้นมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับทางต่างระดับหรือหินบนถนนออฟโรดได้ดีกว่า และระบบนำทางที่ชัดเจน และเรียบง่าย เพื่อลดความจำเป็นในการใช้ระบบนำทางอื่นๆ แยกต่างหากบนแฮนด์รถ
ขับเคลื่อนสู่จุดสูงสุดด้วย Sherpa 450
All New Himalayan มีกำลัง และแรงบิดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ให้แรงบิดรอบต่ำที่ยอดเยี่ยม และยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Royal Enfield ด้วยกำลังสูงสุด 40.02 แรงม้า ที่ 8,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รตน. เครื่องยนต์ Sherpa ขนาด 452 ซีซี ใหม่ สร้างแรงบิดสูงถึง 90 % ของแรงบิดตั้งแต่ 3,000 รตน. ขึ้นไป ไม่จำเป็นที่ต้องลากรอบให้สูงเพื่อเรียกกำลัง เพราะพละกำลังนั้นมาในช่วงรอบต่ำ ลักษณะนี้มีประโยชน์มากที่สุดเมื่อปีนขึ้นไปบนทางลาดชันที่ลื่น ช่วยให้ล้อสามารถหาจุดยึดเกาะได้ไม่ยาก และถ้าเทียบกับเครื่องที่ไม่ได้แรงบิดรอบต้น ล้ออาจจะลื่น และเสียการควบคุม นอกจากนี้ แรงบิดที่สูงยังช่วยให้การขับขี่ขับได้ง่าย และสะ ดวกสบายเมื่อขับขี่พร้อมผู้ซ้อน และสัมภาระ เครื่องยนต์ใหม่มีการออกแบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบกึ่งแห้งเพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้นสูงสุด และช่วยให้ตัวเครื่องมีรูปแบบกระทัดรัด นี่เป็นครั้งแรกของ Royal Enfield ที่ติดตั้งหม้อน้ำระบายความร้อน และปั๊มน้ำ การระบายความร้อนแบบ 2 ทางช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการขับขี่ในเส้นทางที่ค่อนข้างวิบากที่ต้องไต่ระดับความชันในระดับความสูงเหนือน้ำทะเล เป็นการออก แบบใหม่เพื่อรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์ เกียร์แบบ 6 จังหวะใหม่ มีอัตราส่วนที่ห่างขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางหลวงที่ดีขึ้น พร้อมระบบ Sliper Clutch ทำให้การทำงานของคลัทช์นิ่มลง และช่วยให้อายุการใช้งานของคลัทช์ยาวนานขึ้น
พัฒนามาอย่างดี เหมาะกับการขับขี่สายลุย
All New Himalayan มีความสูงจากพื้นถนนที่สูงกว่าเดิม และระบบกันสะเทือนที่ยุบได้มากกว่า ซึ่งช่วยให้คุณรับ มือกับภูมิประเทศที่มีทางขรุขระได้มากกว่าเดิม โดยไม่ต้องมีความกังวลว่าท้องรถจะกระแทกกับพื้น เฟรมแบบใหม่ทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ประโยชน์ในทางออฟโรด โดยไม่ทำให้ตัวรถ Himalayan สูงเกินไป หรือเสียสมดุล เฟรมใหม่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม ทำให้ประสิทธิภาพ และเสถียรภาพในการเข้าโค้งดีขึ้นอย่างชัดเจน โช้คหัวกลับของ Showa ใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำงานในสภาพต่างๆ ตั้งแต่ถนนเรียบไปจนถึงก้นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยหิน คุณภาพของระบบกันสะเทือนไม่ใช่แค่เรื่องของสมรรถนะเท่านั้น แต่มาพร้อมกับการควบ คุมที่ง่ายขึ้น เมื่อต้องรับมือกับเส้นทางภูมิประเทศที่ขรุขระ ลื่น ชัน และยากต่อการคาดเดา ทำให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิในการควบคุมรถ ลดการออกแรงรับการกระแทกเมื่ออยู่ในทางที่ไม่เรียบ All New Himalayan ยังคงใช้ชุดล้อหน้า 21 นิ้ว และล้อหลัง 17 นิ้ว ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพมาจากรุ่นเดิม พร้อมขอบล้ออลูมิเนียมอัลลอยที่พัฒนาขึ้นใหม่ และยางสั่งทำพิเศษเพื่อการยึดเกาะที่เหนือกว่า ให้ความมั่นใจในการควบคุมรถ และความเสถียรทั้งในสภาพถนน และทางออฟโรด นอกจากนี้ ยางหลังขนาด 140/80 ที่กว้างขึ้น ยังให้การยึดเกาะที่ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นทั้งบนถนนลาดยาง และทางออฟโรด
สรีรศาสตร์ ที่ออกแบบมาสำหรับนักสำรวจ
แชสซีส์ใหม่ และเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัด ทำให้มีพื้นที่ในการปรับปรุงหลักสรีรศาสตร์ของตัวรถเพื่อตอบสนองต่อสรีระของผู้ขับขี่ ระยะระหว่างขาที่แคบลง ช่วยให้การควบคุมดีขึ้นเมื่ออยู่ในท่ายืน และทำให้การวางเท้าเหยียบลงพื้นได้เต็มฝ่าเท้ามากขึ้น เพื่มความมั่นใจให้ผู้ขี่ไม่ว่าจะอยู่ในท่าใด ส่วนด้านหลังของถังเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตร ได้รับการออกแบบให้เพรียวบางลงเพื่อให้มีที่วางเข่าที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นขณะขับขี่ เบาะนั่งผู้ขี่ และคนซ้อนแบบแยกส่วนช่วยให้ผู้ขี่สามารถปรับเบาะขึ้นได้ 20 มม. เหมาะสำหรับคนตัวสูง นอกจากที่นั่งแบบมาตรฐานแล้ว ยังมีที่นั่งแบบ Low Seat เป็นอุปกรณ์เสริม ให้ผู้ขี่ปรับความสูงได้หลากหลาย เบาะนั่งมาตรฐาน และเบาะนั่งต่ำที่เป็นอุปกรณ์เสริม ผู้ขี่จะมีช่วงความสูงของเบาะระหว่าง 805 มม. ไปจนถึงความสูงของเบาะนั่ง 845 มม. เมื่อรวมกับโครง และถังที่แคบจะทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจทั้งช่วงที่ขับ และจอด ทั้งเบาะนั่งผู้ขี่และคนซ้อน ได้รับการออก แบบให้นั่งได้สบายแม้มีการขับขี่เป็นระยะเวลานาน ไม่ว่าบนถนน หรือออฟโรด
Tripper Dash เพื่อนร่วมผจญภัยไปกับคุณ
จากโจทย์ที่ว่า "มอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ และตัดทุกส่วนเกินได้อย่างตรงใจ" ("Everything You Need and Nothing You Don’t") เทคโนโลยีล่าสุดของ All New Himalayan มีจุดประสงค์เดียว คือ เพื่อปรับปรุงประสบ การณ์ของผู้ขับขี่ จุดเด่นของ Tripper Dash คือ หน้าจอสีตัวใหม่ รูปทรงกลมแบบคลาสสิค แต่มีคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมมากมายสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมตัวเลือกในการเปลี่ยนจากการแสดงผลแบบแอนาลอกดั้งเดิมเป็นรูปแบบดิจิทอล Tripper Dash นำเสนอการนำทางด้วยแผนที่เต็มรูปแบบครั้งแรกของโลกบนจอแสดงผลทรงกลมที่ใช้ Engine และข้อมูลแผนที่จากระบบ Google Maps พร้อมเสียงแนะนำในกว่า 130 ภาษา ตัวควบคุม Joystick ประกบแฮนด์ด้านซ้ายช่วยให้คุณควบคุมฟังค์ชัน เพลง การโทร และข้อความ ได้โดยไม่ต้องละสายตาเพื่นค้นหา เครื่องมือสื่อสาร และนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อมือถือ ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดการขับขี่ Performance และ Eco การตอบสนองของคันเร่งจะเปลี่ยนด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้าแบบใหม่ ABS ด้านหลังสามารถปิดการใช้งานได้เพื่อประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น
อุปกรณ์เสริมครบถ้วนสำหรับนักผจญภัย
ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่น่าตื่นเต้นจากโรงงานกว่า 30 รายการ มีมาให้เลือกติดตั้ง All New Himalayan ในแบบที่คุณต้องการ เพราะการผจญภัย และไลฟ์สไตล์ที่แต่งต่างของผู้ขับขี่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถปรับแต่งเพื่อสร้างเอกลักษณ์พร้อมจุดประกาย และส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักผจญภัยคนอื่นๆ ได้อีก ชุดอุปกรณ์ครั้งนี้มาใน 2 ธีม ได้แก่ แบบผจญภัย (Adventure) และแบบ Rally อุปกรณ์ตกแต่งของเหล่านักผจญภัย มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการขับขี่ระยะไกล โดยมีกล่องเอนกประสงค์แบบอลูมิเนียม หน้าจอแบบยกสูง ที่นั่ง Adventure Seat รวมถึงไฟตัดหมอกแบบ LED ส่วนชุดอุปกรณ์ตกแต่งแบบ Rally จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดให้กับ All New Himalayan อย่างแท้จริง เมื่อจับคู่บังโคลนหลัง Rally เข้ากับเบาะนั่ง Rally ที่เพรียวบาง ตัวรถจะดูดุดันขึ้นมาทันที มากไปกว่านั้นชุดธีม Rally จะรองรับการติดตั้ง (กระเป๋าอ่อนที่ไม่ต้องการแรคในการยึด (Rackless Soft Bags) และกระเป๋าหลัง (Tail Pack) ในขณะที่ การ์ดเบรคมือ การ์ดคลัทช์ การ์ดอ่าง และการ์ดไฟหน้าให้การปกป้องขั้นสูงสุดสำหรับภูมิประเทศที่มีทางฝุ่นที่อันตราย และมีระดับความขรุขระอยู่ในระดับสูง