อย่าให้การเดินทางต้องมาสะดุด ช่วงวันหยุดยาว ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย และความราบรื่น วันนี้เราลองมาเชคความพร้อมรถยนต์ ก่อนเดินทางไกลกันสักหน่อย
1. แบทเตอรี
เชคสภาพแบทเตอรีว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ โดยให้ดูจากตาแมวบนแบทเตอรีที่จะบอกค่าความถ่วงของน้ำกรด หากความถ่วงของน้ำกรดต่ำกว่า 1.250 ตาแมวจะเปลี่ยนเป็นสีขาว ซึ่งจะบอกว่าไฟเริ่มอ่อน ควรชาร์จ หากระดับน้ำกรดต่ำกว่าระดับเส้น Upper หรือตาแมวเป็นสีแดง หมายถึงน้ำกลั่นแห้ง ให้เติมน้ำกลั่นเข้าไปอยู่ในเกณฑ์ปกติทันที แต่หากตาแมวเป็นสีฟ้า นั่นหมายถึงปกติ แบทเตอรีไฟเต็ม
ลองสังเกตอาการรถของคุณว่าสตาร์ทติดยากขึ้นหรือไม่ หรือเชคความสว่างไฟหน้ารถว่าหรี่ผิดปกติหรือเปล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจมาจากแบทเตอรีที่เสื่อมสภาพ เก็บ และจ่ายไฟได้ไม่เต็มที่
2. น้ำมันเครื่อง
เชคสี และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ระบบกลไกต่างๆ ในเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากน้ำมันเครื่องมีสีเหลืองโปร่งแสง คือ สะอาดมีประสิทธิภาพ แต่หากน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำ บ่งบอกว่าน้ำมันเครื่องเก่า หรือสกปรก
หากจะเชคระดับน้ำมันเครื่อง ขั้นแรกต้องดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาทำความสะอาดแล้วเสียบกลับไปจุดเดิม จากนั้นดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง และสังเกตว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับใดของก้านวัด โดยระดับน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมต้องอยู่ระหว่างขีด L และ F หรือ Max กับ Min รวมถึงอย่าลืมเชค ระบบหล่อเย็น หรือหม้อน้ำอยู่เสมอ
3. ยางรถยนต์
ตรวจเชคลมยางทั้ง 4 ล้อ โดยสังเกตจากดอกยาง จะต้องไม่มีการฉีกขาด ไม่แตกลายงา มีดอกยางเพียงพอ และลมยางต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่มีการรั่วซึม
4. ระบบเบรค
ระบบเบรค และน้ำมันเบรค ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หากมีเสียงผิดปกติระหว่างที่เหยียบเบรค หรือต้องกดเบรคจนลึกมากถึงจะสามารถหยุดรถได้ แสดงว่าผ้าเบรคอาจมีปัญหา โดยในส่วนของน้ำมันเบรคนั้น ต้องอยู่ในระดับขีด Max หรือระหว่างขีด Min และ Max หากน้อยกว่านี้ อาจทำให้ระบบเบรคมีปัญหา หรือถ้าเพิ่งเติมน้ำมันเบรคไปแต่ระดับน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว อาจเป็นไปได้ว่ามีจุดรั่วไหล ต้องรีบซ่อมโดยเร็ว
5. ไฟส่องสว่าง
เชคความสว่างของไฟคู่หน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก รวมถึงไฟเบรคให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพราะหากไฟรถมีความสว่างไม่เพียงพอ หรือไฟรถอันใดอันหนึ่งเสีย อาจทำให้เรา และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ เกิดอุบัติเหตุได้ ทางที่ง่ายที่สุด คือ เปิดไฟทุกอย่างในรถ และเดินวนรอบคัน เริ่มจากไฟในรถ ไฟเลี้ยวหน้า และหลัง ไฟฉุกเฉิน ไฟหน้า (ไฟสูง ไฟตัดหมอก) ไฟท้าย และไฟอื่นๆ
อย่าลืม ! เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เช่น ล้อ หรือยางอะไหล่, สายพ่วงแบทเตอรี, ค้อนนิรภัย, แม่แรง, สายลากจูง, ไฟฉาย, ที่สูบลม, ชุดเครื่องมือประจำรถ ฯลฯ
อ่านเพิ่ม : เชคเลย "สงกรานต์ 2567" ทางด่วนฟรี เส้นทางไหน วันไหนบ้าง
บทความแนะนำ