Lotus Cars Thailand เปิดตัวฟแลกชิพสโตร์แห่งใหม่ในประเทศไทย มาตรฐานระดับโลก ใจกลางสุขุมวิท ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

Lotus Cars Thailand เปิดตัวสโตร์แห่งใหม่ในประเทศไทย ถือเป็นฟแลกชิพสโตร์ (Flagship Store) ที่มอบประสบการณ์เหนือระดับตามมาตรฐานสากลของ Lotus Cars พร้อมสัมผัสความพิเศษเฉพาะตัวในการเข้าถึงประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ รองรับความทันสมัย และสะดวกสบาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใจกลางเมือง ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ (Emsphere) บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็น Prime Location ทำเลใจกลางสุขุมวิท ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 10 เมษายน 2567

ธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย บริษัทภายใต้ เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ Lotus Cars อย่างเป็นทางการ รายเดียวในประเทศไทย กล่าวว่า แบรนด์ต้องการมอบประสบการณ์เหนือระดับตามมาตรฐานสากลของ Lotus Cars ทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวฟแลกชิพสโตร์แห่งใหม่นี้บนพื้นที่ 200 ตรม. ด้วยงบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท เพื่อมอบบรรยากาศความลักชัวรีของแบรนด์สปอร์ทคาร์ สัญชาติอังกฤษ โดยมีแนวคิดการออกแบบตาม Corporate Identity Design ตั้งแต่การออกแบบภายในด้วยธีมสีเทาเข้ม-ดำ ที่เป็นโทนสีของแบรนด์ การตกแต่งด้วยโคมไฟวงกลมขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Lotus Cars รวมทั้งโทนสีของแสงไฟในสโตร์ได้ถูกออกแบบอย่างเหมาะสม เพื่อให้ประสบการณ์พิเศษการซื้อรถ ตั้งแต่ที่ลูกค้าได้ก้าวเข้ามาในสโตร์ ให้ลูกค้าได้สัมผัสความพรีเมียมของรถ ถือเป็นฟแลกชิพสโตร์แห่งแรกที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่มีความสปอร์ท ดิบ เท่ สะท้อนกลิ่นอายคาแรคเตอร์ของแบรนด์สายเลือดนักแข่งที่สะสมประสบการณ์ และมีประวัติศาสตร์กว่า 76 ปี ซึ่งเป็นแบรนด์รถสปอร์ทที่มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว มีลูกค้าค่อนข้างเฉพาะกลุ่มที่มีความหลงใหลในเสน่ห์การขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ตามสโลแกนของแบรนด์ “For The Drivers”

ธีรพงศ์ รอดลอย กล่าวว่า "ปัจจุบันเรามุ่งหวังให้แบรนด์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนเมืองมากขึ้น โดยเลือกเปิดฟแลกชิพสโตร์แห่งใหม่ ที่ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ (Emsphere) ซึ่งเป็นแหล่งชอพพิงลักชัวรีแบรนด์เนมระดับโลก และเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของทั้งนักชอพชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลก ซึ่งที่นี่ถือเป็นฟแลกชิพสโตร์แห่งแรกในกรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อต้องการขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้าถึง และสัมผัส Lotus Cars ได้กว้างขวาง และใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการใหม่ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

ธีรพงศ์ รอดลอย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับแผนการเติบโตของธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของ Lotus Cars Thailand พร้อมที่จะลุยต่อกับโอกาสทางตลาดรถไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Lotus Cars ได้เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการอย่างเต็มที่ด้วยรถไฟฟ้า 100 % ปัจจุบันมี 2 รุ่น ได้แก่ Lotus Emeya ที่ได้เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ที่ผ่านมาในฐานะ Hyper-GT และ Lotus Eletre ในฐานะ Hyper-SUV มาพร้อมสมรรถนะสูงที่ยังคงเสน่ห์การขับขี่ของแบรนด์ไว้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่ต้องการอรรถรสการขับขี่ และสามารถรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งได้ผลตอบรับจากลูกค้ามาอย่างดีเยี่ยม” 

ภายในพื้นที่ฟแลกชิพสโตร์แห่งนี้ ออกแบบ Customer Touchpoints หรือจุดสัมผัสของลูกค้ากับแบรนด์ไว้อย่างดี พร้อมได้จัดแสดงรถทั้ง 2 รุ่นเรือธงให้อวดโฉมได้อย่างใกล้ชิด โดดเด่นด้วยรุ่น “Lotus Emeya” สุดยอดขุมพลังแห่งรถสปอร์ทไฟฟ้าซีดานหรู ด้วยที่สุดแห่งสมรรถนะอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.78 วินาที และรุ่น “Lotus Eletre” ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.95 วินาที (สำหรับในรุ่น R) ซึ่งทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 905 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร การขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ระบบ Double Motor ด้วยความจุแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลรถผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมอบประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ ภายในพื้นที่รับรองสำหรับ Car Configurator ที่ให้ความเป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคลภายในห้อง Consultation Room เพื่อมุ่งหวังที่จะสร้างประสบการณ์พิเศษให้ตรงใจลูกค้าแต่ละท่านอย่างเฉพาะตัว นำเสนอผ่านการแสดงผลด้วยเทคโนโลยี Unreal Engine เป็นการเรนเดอร์ภาพเสมือนจริงแบบเรียลไทม์ 3D โดยให้รายละเอียดที่มีความแม่นยำ และเที่ยงตรง ทั้งโทนสี ผิวสัมผัสวัสดุต่างๆ ทั้งภายนอก และภายใน ให้ความรู้สึกเสมือนเห็นภาพรถในฝัน เพื่อให้การสร้างสรรค์รถเป็นไปได้มากกว่าที่คิด และเพลิดเพลินกับการเลือกสรรได้ตามความชื่นชอบ ด้วยออพชันที่หลากหลาย ครบครัน อีกทั้งได้ชมภาพเสมือนจริงของรถที่แสดงผลบนหน้าจอทันที ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความประทับใจในการมอบประสบการณ์การดูแลเป็นพิเศษโดย Sale Consultant ที่คอยให้คำปรึกษาได้ตรงใจทุกความต้องการ อีกทั้งสามารถเลือกสรร Lotus Merchandise เป็นสินค้าที่ระลึกของทางแบรนด์อีกมากมาย ส่วนการรองรับสำหรับศูนย์บริการหลังการขาย (After Sale Service) และสำนักงานขายแบบครบวงจร จะอยู่ที่โชว์รูมสาขาแรกของ Lotus Cars Thailand ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่แห่งเดียวในประเทศไทย