เทศกาลหยุดยาวกับวันสงกรานต์กำลังจะผ่านพ้นไป มีผู้เดินทางท่องเที่ยวกันมากมายช่วงวันหยุดต่อเนื่อง เราจึงเลือกรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการโดยสารเป็นจำนวนหลายคนแบบครอบครัว และรองรับการขับทางไกลได้ดี ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม หนึ่งในนั้น คือ รถยนต์สไตล์ครอสส์โอเวอร์ที่มีความเป็น MPV ผสมอยู่ กับ 3 รุ่น 3 สไตล์ที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ Suzuki XL7 Hybrid , Mitsubishi Xpander Cross HEV รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า Aion Y Plus
Suzuki XL7 Hybrid : ราคา 799,000 บาท
จุดแข็ง:
1) ราคาไม่เกิน 8 แสนบาท (ช่วงแนะนำ)
2) ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย
3) เสริมระบบไฮบริด ประหยัดเชื้อเพลิงที่ความเร็วต่ำ
จุดอ่อน:
1) กำลังสูงสุดไม่ต่างจากรุ่นเบนซินปกติ
2) ระบบความปลอดภัยไม่ทันสมัยมากนัก
3) เกียร์ยังเป็นแบบอัตโนมัติ 4 จังหวะ
มิติตัวถัง: ความยาว 4,450 มม. กว้าง 1,775 มม. สูง 1,710 มม. ระยะฐานล้อ 2,740 มม. ความสูงจากพื้นถนน 200 มม.
สเปคเบื้องต้น: Suzuki XL7 Hybrid (ซูซูกิ เอกซ์แอล 7 ไฮบริด) รถยนต์ที่มีพื้นฐานจาก MPV กับรถร่วมค่าย คือ Ertiga (แอร์ติกา) ล่าสุดกับการเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร เสริมระบบไฮบริดขนาดเล็ก กำลังสูงสุดที่ 106 แรงม้า โดยแบทเตอรีขนาดเล็กส่งกระแสไฟฟ้าไปยังชุดมอเตอร์ขนาดเล็ก ช่วยการสตาร์ทเครื่องยนต์ของระบบ Auto Start/Stop และเสริมกำลังในการขับเคลื่อนเล็กน้อย ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงขณะใช้งานในตัวเมือง รูปทรงเสริมความบึกบึนขึ้น พร้อมความสูงจากพื้นถนนที่ 200 มม. ทำให้ลุยทางสมบุกสมบันได้เบาๆ ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งได้สบาย พร้อมระบบรองรับที่เน้นความนุ่มนวล แต่รองรับการขับทางไกลได้ดีเช่นกัน แม้ออพชันบางรายการยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เช่น ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ และขาดระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
ข้อมูลเพิ่มเติม: Suzuki XL7 Hybrid
Mitsubishi Xpander Cross HEV : ราคา 961,000 บาท
จุดแข็ง:
1) ระบบ Fully Hybrid ประสิทธิภาพสูง
2) ระบบรองรับปรับแต่งมาลงตัว
3) ระบบขับเคลื่อนหลากหลายโหมด
จุดอ่อน:
1) ราคาค่อนข้างสูง
2) ไม่มีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
3) การใช้ความเร็วสูงคงที่ไม่ประหยัดมากนัก
มิติตัวถัง: ความยาว 4,595 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,750 มม. ระยะฐานล้อ 2,775 มม. ความสูงจากพื้นถนน 205 มม.
สเปคเบื้องต้น: Mitsubishi Xpander Cross HEV (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ครอสส์ เอชอีวี) การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของหนึ่งใน MPV ยอดนิยมในบ้านเรา กับการเสริมทัพด้วยขุมพลังไฮบริด แบบ Fully Hybrid ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร 95 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า โดยมอเตอร์มีแรงบิดสูงสุดถึง 26.0 กก.-ม. ทำให้มีอัตราเร่งที่ไหลลื่น และทันใจขึ้นมาก (เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร) การส่งกำลังส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วต่ำ (หากระดับแบทเตอรีมากพอ) ประหยัดเชื้อเพลิงในตัว อีกหนึ่งจุดเด่นที่ยอดเยี่ยม คือ โหมดขับเคลื่อนที่มีหลากหลาย ทั้งการขับบนทางเรียบ พื้นถนนเปียก การลุยบนทางทราย ฯลฯ ราวกับเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยเป็นผลดีจากระบบ AYC ของ Mitsubishi แปรผันการส่งกำลังของล้อคู่หน้าได้หลากหลายรูปแบบ สามารถขับผ่านทางสมบุกสมบันได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามราคาระดับ 9 แสนบาทปลายๆ ใกล้เคียงกับรถครอสส์โอเวอร์เต็มตัว และยังขาดระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
ข้อมูลเพิ่มเติม: Mitsubishi Xpander Cross HEV
Aion Y Plus 490 Premium : ราคา 995,900 บาท
จุดแข็ง:
1) ห้องโดยสารกว้างขวางมาก (สำหรับการใช้งานเบาะ 2 แถว)
2) อัตราเร่งดี ตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้า
3) ระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยหลายรายการ
จุดอ่อน:
1) ระยะทำการสูงสุดเมื่อแบทเตอรีเต็ม ยังน้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาป
2) ยังไม่รองรับการใช้งาน Android Auto และ Apple Car Play
3) ไม่มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
มิติตัวถัง: ความยาว 4,535 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ความสูงจากพื้นถนน 150 มม.
สเปคเบื้องต้น: ปัจจุบันทางเลือกรถยนต์ไฟฟ้ามีหลากหลายกว่าเดิม หนึ่งในตัวเลือกของเราจึงมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาร่วมด้วย Aion Y Plus 490 Premium (ไอออน วาย พลัส 490 พรีเมียม) รถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเป็นครอสส์โอเวอร์ และผสม MPV ในตัว ตัวถังจึงมีความยาวค่อนข้างมาก และมีห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดยเฉพาะเบาะแถวที่ 2 มีระยะช่วงขาที่เหลือเฟือจริงๆ จุดเด่นย่อมหนีไม่พ้น ความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แบทเตอรีความจุ 63.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็ม คือ 490 กม. (มาตรฐาน NEDC) มาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าสู่ภายนอก หรือ V2L ระบบใช้งานที่ทันสมัย จอแสดงผลแบบดิจิทอล การสั่งงานส่วนใหญ่จะต้องทำผ่านจอแสดงผลหลัก พร้อมระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทันสมัย เช่น ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ กล้องมองภาพรอบคัน ระบบรักษาตัวรถให้อยู่กลางเลนอัตโนมัติ และระบบครูส คอนทโรลแปรผันความเร็ว รองรับที่ความเร็วต่ำด้วย อย่างไรก็ตาม ออพชันบางรายการกลับขาดหายไป เช่น เบาะนั่งมี 2 แถว 5 ตำแหน่ง ไม่มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง รวมถึงการยังไม่รองรับระบบ Android Auto และ Apple Car Play (ทางผู้ผลิตจะอัพเดทพโรแกรมช่วงหลังกลางปีนี้)
ข้อมูลเพิ่มเติม: Aion Y Plus 490 Premium