MINI ประเทศไทย เผยโฉม MINI Aceman SE (มีนี เอศแมน เอสอี) เป็นครั้งแรกสำหรับตลาดประเทศไทย รถยนต์ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการใช้ขับขี่ภายในเมือง เติมเต็มกลุ่มลูกค้าที่มองหาอีกหนึ่งตัวเลือกระหว่าง MINI Cooper (มีนี คูเพอร์) และ MINI Countryman (มีนี คันทรีแมน) โดดเด่นด้วยการออกแบบขนาดตัวรถที่เน้นประโยชน์พื้นที่ใช้สอยสูงสุด ในขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน มาพร้อมดีไซจ์นโดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ MINI บนท้องถนนให้สนุกเหนือระดับยิ่งกว่าที่เคย
MINI Aceman SE พกพาความคล่องตัวของครอสโอเวอร์ด้วยความยาวตัวรถ 4,070 มม. ที่เพียบพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยสำหรับทุกสถานการณ์แบบรถ 5 ที่นั่ง ปรัชญาการออกแบบยังคงความเรียบง่ายแต่มากเสน่ห์เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในเจเนอเรชันใหม่ และยังมีองค์ประกอบที่ไม่ซ้ำใคร เช่น รูปทรงไฟหน้า การออกแบบเส้นสายบริเวณซุ้มล้อที่รับกับล้อแมกขนาด 18 นิ้ว ลาย Night Flash แบบสลับสี กราฟิคไฟท้ายเฉพาะสำหรับรุ่น Aceman รวมถึงการออกแบบชิ้นส่วนกรอบสีดำบริเวณกันชนท้ายช่วยตอกย้ำเอกลักษณ์ของ MINI Aceman ยิ่งขึ้น ส่วนการออกแบบภายใน มาในสไตล์ Favoured แต่เพิ่มความสนุกสนานด้วยสีสัน และลวดลายที่แตกต่างจาก MINI Cooper SE ใหม่อย่างชัดเจน มาพร้อมหลังคา Panorama Glass Roof เบาะนั่งปรับไฟฟ้าแบบสปอร์ทสไตล์ John Cooper Works และยังเน้นย้ำประสบการณ์ดิจิทัลล้ำสมัยผ่านจอ OLED ทรงกลม พร้อม Toggle Bar และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบครบครัน
MINI Aceman SE ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรีขนาด 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง (เท่ากับ MINI Cooper SE ใหม่ ะกำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า ส่งแรงบิดสูงสุด 330 นิวทันเมตร/33.7 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. ระยะทำการสูงสุด 405 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ AC กำลังไฟ 11 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 0-100% ได้ในเวลา 5.45 ชม. และการชาร์จแบบกระแสตรง DC สูงสุดที่ 95 กิโลวัตต์ ที่ทำความเร็วในการชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลา 31 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ MINI Aceman SE ยังพกพาเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ และความสะดวกสบายมาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Driving Assistant Plus ระบบ Parking Assistant รวมถึงความสะดวกสบายจากระบบ Digital Key Plus และความบันเทิงจากลำโพง Harman Kardon surround sound system
MINI Aceman SE มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดง Rebel Red, สีน้ำเงิน Indigo Blue, สีน้ำเงิน Blazing Blue, สีขาว Nanuq White และสีเทา Melting Silver พบคันจริงได้ในงาน MINI Expo 2024 จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซนทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 20-27 สิงหาคม พ.ศ. 2567 และ
สามารถร่วมกิจกรรม และรับข้อเสนอเดียวกันนี้ ที่ผู้จำหน่าย MINI อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page ของมินิ ประเทศไทย https://www.facebook.com/MINI.Thailand