BMW Group และยูนิเซฟ จับมือส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนทั่วประเทศไทยเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ และการพัฒนาทักษะได้มากขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระดับโลกที่เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ภายใต้สโลแกน Bridge Educating Young People for Tomorrow, Today. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM Education) ให้แก่เด็ก และเยาวชน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต
ภายใต้ความร่วมมือระยะยาวระดับโลกครั้งนี้ BMW Group จะมีส่วนสนับสนุนเป้าหมายระดับโลกของยูนิเซฟเพื่อเข้าถึงเด็ก และเยาวชนจำนวน 10 ล้านคนทั่วโลกผ่านการศึกษาในแต่ละปี โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดอบรมด้าน STEM Education และพัฒนาทักษะให้แก่เด็ก และเยาวชนในภูมิภาคแอฟริกา เอเชีย และอเมริกากลาง และใต้
ในประเทศไทย ความร่วมมือนี้เริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาด้าน STEM ในโรงเรียนมัธยมศึกษากว่า 100 แห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เป้าหมาย คือ การเข้าถึงนักเรียน 25,000 คน และครู 500 คนในช่วง 3 ปีแรกของความร่วมมือ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการอบรมครูในวิชาด้าน STEM Education และจัดกิจกรรมนอกเวลาเรียน ค่ายฝึกทักษะด้าน STEM Education งานนิทรรศการวิทยาศาสตร์ และการแนะแนวให้คำปรึกษาแก่เยาวชน โครงการนี้ยังครอบคลุมกลุ่มเยาวชนกลุ่มเปราะบาง และเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การจ้างงาน หรือการฝึกอบรม (NEET) เพื่อให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาทักษะที่จำเป็น
คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า ทุกวันนี้ งานที่เกี่ยวข้องกับ STEM ถือเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น STEM ศึกษาที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่ความสำคัญยิ่งกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เราพบว่านักเรียนจำนวนมากในประเทศไทยยังคงขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อ และการทำงาน ดังนั้น ความร่วมมือกับ BMW Group ในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยจะช่วยให้เด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่มักขาดโอกาส ได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เรเน แกร์ฮาร์ด ประธาน และซีอีโอของ BMW Group ประเทศไทย กล่าวว่า BMW Group ประเทศไทย ตระหนักถึงบทบาทของเราในสังคม โดยเราได้พัฒนาโครงการด้านการศึกษาที่ตอบโจทย์เพื่อมอบโอกาสทางอาชีพในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้แก่เยาวชน และส่งเสริมทักษะที่จำเป็นให้แก่พวกเขาสำหรับงานในอนาคต เราทราบดีว่าการศึกษาเป็นกลไกที่ขับเคลื่อนสังคม และเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตเศรษฐกิจไทย ตอนนี้เรามียูนิเซฟเป็นพันธมิตรระยะยาวที่จะสนับสนุนความร่วมมือระดับโลกด้าน STEM Education สำหรับเยาวชนทั่วประเทศไทย เราจะร่วมกันเติมเต็มช่องว่างระหว่างการศึกษา และชีวิตการทำงานสำหรับเยาวชน และเตรียมพวกเขาเพื่อการเติบโตทางอาชีพในอนาคต
แม้ว่าเด็กส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะได้เข้าเรียนในโรงเรียน แต่เด็กจำนวนมากยังขาดทักษะสำคัญที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อ หรือเข้าสู่ตลาดแรงงาน จากรายงาน PISA 2018 พบว่า มีเพียง 1 ใน 5 ของเด็กผู้ชาย และ 1 ใน 7 ของเด็กผู้หญิงในประเทศไทยที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่วางแผนจะประกอบอาชีพในด้านวิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ก่อนอายุ 30 ปี นอกจากนี้ ยังพบว่า เยาวชนไทยกว่า 1.4 ล้านคนไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การจ้างงาน หรือการฝึกอบรม (NEET) โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางทักษะมากขึ้น
นิพิษฐา จิระธรรมวรวุฒิ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนอ่างศิลาพิทยาคม กล่าวว่า เธอชอบการทดลอง และหาคำตอบที่คนหลายคนไม่ค่อยรู้ แต่เป็นคำตอบในหลักการวิทยาศาสตร์ “วันนี้ที่ได้ร่วมกิจกรรมก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความชื้นของพื้นดิน เรียนรู้เกี่ยวกับก้อนเมฆว่าสังเกตยังไง มีลักษณะแบบไหนบ้าง…ทำอะไรมันก็ดูสนุกไปหมดเลยค่ะ แล้วก็มีหลักการทางวิทยาศาสตร์มารองรับ…วิ ชาวิทย์คณิตสำคัญเพราะพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านสมอง เพราะเมื่อเราโตขึ้น เราก็สามารถนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการทำงานอนาคตอีกเยอะเลย แล้วก็สามารถไปประกอบได้อีกหลายอาชีพอีกค่ะ”