รถล่าสุด
Riddara RD6
Riddara RD6 พัฒนามาจากครอสส์โอเวอร์เอสยูวี แต่เปลี่ยนพื้นที่เก็บสัมภาระหลังและเบาะแถวที่ 3 เป็นกระบะบรรทุก คล้ายกับ Rivian R1T ซึ่งต่างจากพิคอัพที่เราคุ้นเคย ที่แยกออกเป็น 3 ส่วน คือ หัวเก๋ง กระบะท้าย และแชสซี แบบเดียวกับรถบรรทุก
Riddara RD6 มีมิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 5,260/1,900/1,880 มม. ความยาวฐานล้อ 3,120 มม. จุดต่ำสุดของตัวรถห่างจากพื้น 225 มม.
แม้ว่าเล็กกว่าพี่ใหญ่อย่าง Ford Ranger Stormtrak 4X4 (5,370/1,918/1,884 มม. กับ 3,270/235 มม.) แต่พอๆ กับ Mitsubishi Triton Double Cab (5,320/1,865/1,795 มม. กับ 3,130/222 มม.) Isuzu V-Cross (5,280/1,870/1,790 มม. กับ 3,125/240 มม.) Mazda BT-50 DDl 4X4 3.0 SP (5,280/1,870/1,790 มม. กับ 3,125/240 มม.) Nissan Navara Double Cab Pro-4X (5,260/1,875/1,840 มม. กับ 3,150/225 มม.) รวมทั้ง Toyota Hilux Revo Double Cab 4X4 2.8 Rocco (5,325/1,900/1,815 มม. กับ 3,085/217 มม.)
RD6 โดดเด่นในฐานะผู้นำด้านความปลอดภัย โดยเป็นผู้บุกเบิกโครงตัวถังในประเทศจีนด้วยความแข็งแกร่งรับการบิด 30,300 Nm/degree
ขนาดกระบะ Riddara RD6 ยาว/กว้าง/สูง 1,525/1,450/540 มม. มีความจุถึง 1,200 ลิตร รับ น้ำหนักบรรทุก 1,030 กก.
ขอบกระบะสูงเท่ากับ Ford Ranger (1,564/1,584/540 มม.) และสูงกว่า Isuzu V-Cross และ Mazda BT-50 (1,495/1,530/490 มม.) Nissan Navara (1,470/1,495/520 มม.) Mitsubishi Triton (1,555/1,545/525 มม.) และ Toyota Hilux Revo (1,555/1,540/480 มม.)
ภายในกระบะท้ายหุ้มด้วยวัสดุคอมโพสิตที่มีความแข็งแกร่งสูงจาก STC (Super toughness concrete)
Riddara RD6 มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย
2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง
- 63 kWh
- 73 kWh
4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 73 kWh
- 86 kWh
4WD กระจังหน้าตัวอักษร RIDDARA แบบ LED
ภายนอก
ไฟหน้าแบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED คาดยาวซ้ายถึงขวา
ในรุ่น 2WD กระจังหน้าโครเมียมสีดำ ในรุ่น 4WD กระจังหน้าตัวอักษร RIDDARA แบบ LED มีบันไดข้าง และตะขอลากจูง
ส่วนรุ่นทอพ 4WD 86 kWh เพิ่มบันไดท้ายกระบะ และราวหลังคาอลูมิเนียม
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และพับไฟฟ้า ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
ส่วนรุ่นทอพ 4WD 86 kWh มาพร้อมระบบไล่ฝ้า
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60 R18 ส่วนรุ่น 2WD 63 kWh ล้อ 17 นิ้ว ยาง 235/65 R17
หน้าจอ 14.6 นิ้ว เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง แท่นชาร์จไร้สาย 50 W
ภายใน
มาตรวัดหน้าจอแสดงผล LED ขนาด 10.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Carbit link พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ภาษาไทยและอังกฤษ ยกเว้นรุ่น 2WD 63 kWh จะเป็นขนาด 12.3 นิ้ว และรองรับแค่ภาษาอังกฤษ
กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน แบบ One-Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh ที่มีแต่ด้านคนขับ
ในรุ่น 4WD ยังติดตั้งระบบระบายอากาศ เบาะหน้า/หลัง (เป็นอุปกรณ์เสริม ในรุ่น 2WD 73 kWh)
เบาะหลังแยกพับแบบ 60:40 มีจุดยึดเบาะเด็กแบบ ISOFIX
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรอง CN95 และ PM 2.5
ควบคุมระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50 W และไฟส่องกระบะท้าย ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
ในรุ่น 4WD 86 kWh มีกล่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้ารถขนาด 70 ลิตร และใต้เบาะหลังขนาด 48 ลิตร
4WD 315 kW (428 แรงม้า) 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที
มอเตอร์
มอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor เกียร์อัตโนมัติ
ในรุ่น 2WD มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 200 kW (272 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 385 Nm (39.3 กก.ม.) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
ในรุ่น 4WD มี 2 มอเตอร์ กำลังรวมสูงสุด 315 kW (428 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 595 Nm (60.7 กก.ม.) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
แบทเตอรีแบบ Lithium-ion Phosphate ยกเว้น รุ่นทอพ 4WD 86 kWh จะเป็น Ternary Lithium
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
373 กม. ในรุ่น 2WD 63 kWh
461 กม. ในรุ่น 2WD 73 kWh
424 กม. ในรุ่น 4WD 73 kWh
455 กม. ในรุ่น 4WD 86 kWh
โหมดการขับขี่ รุ่น 2WD มี 3 โหมด Eco/Comfort/Sport รุ่น 4WD มี 7 โหมด Sand/Mud/Off-road/Wading/Eco/Comfort/Sport
DC ชาร์จสูงสุด 110 kWh ใช้เวลา 30 นาที
การชาร์จ
ชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC แบทเตอรี 30 - 80%
รุ่น 2WD 63 kWh สูงสุด 90 kWh ใช้เวลา 32 นาที
รุ่น 2WD และ 4WD 73 kWh สูงสุด 110 kWh ใช้เวลา 30 นาที
รุ่น 4WD 86 kWh สูงสุด 100 kWh ใช้เวลา 32 นาที
ชาร์จธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ได้ 6.6 kWh แบทเตอรี 20-100 %
รุ่น 2WD 63 kWh ใช้เวลา 7.8 ชม.
รุ่น 2WD และ 4WD 73 kWh ใช้เวลา 9.3 ชม.
รุ่น 4WD 86 kWh ใช้เวลา 32 นาที
นอกจากการชาร์จไฟจากภายนอก Riddara RD6 ยังมีการนำเอาพลังงานกลับมาใช้ ด้วยการ Regenerative Braking 3 ระดับ
Riddara RD6 มีระบบการจ่ายไฟ ที่หลากหลายยิ่งกว่าเพาเวอร์แบงค์ ในกระบะท้ายชุดจ่ายไฟ 6 kWh ยังมีชุดจ่ายไฟมาตรฐานยุโรป โดยสามารถจ่ายไฟทั้ง ขณะจอด/ขณะขับ/ขณะลอครถ/ขณะกำลังชาร์จรถ ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
ลากพ่วง 3,000 กก. ลุยน้ำได้ลึก 815 มม.
ระบบรองรับ
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ พร้อมชอคอัพและคอล์ยสปริง ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ และพวงมาลัยไฟฟ้า EPS แบบครอสส์โอเวอร์เอสยูวี
Riddara RD6 ไม่เพียงแบกน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 1,030 กก. ยังมีกำลังในการลากจูง โดยรุ่น 2WD สามารถลากพ่วงน้ำหนัก 2,500 กก. ได้ และรุ่น 4WD สามารถลากพ่วงที่มีน้ำหนักมากถึง 3,000 กก.
Riddara RD6 มีความสามารถในการไต่ทางชัน รุ่น 2WD ทำได้ 55% และ รุ่น 4WD ทำได้ 95%
ส่วนการลุยน้ำได้ลึก 500 มม. ในรุ่น 2WD และ 815 มม. ในรุ่น 4WD
Riddara RD6 มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ 14 ระบบ ประกอบด้วย ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKA) ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบเตือนก่อนเปิดประตู (DOW) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสียงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FDA) ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
กล้องมองภาพรอบคัน 540°
ระบบความปลอดภัย
กล้องมองภาพรอบคัน 540° พร้อมระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (กล้องมองหลังขณะถอยจอดความละเอียดสูง ในรุ่น 2WD 63 kWh) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบ Auto Hold ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (EBA) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh ถุงลมนิรภัย 6 จุด (4 จุด ในรุ่น 2WD 63 kWh) การเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า ระบบลอคประตูหลังสําหรับเด็ก ยางอะไหล่ (T145/80 R18) ในรุ่น 2WD เป็นอุปกรณ์เสริม
Riddara RD6 มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ เขียว ขาว ดำ เทา และน้ำเงิน
Riddara RD6 มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น
2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง
- 63 kWh ราคา 899,000 บาท
- 73 kWh ราคา 999,000 บาท
4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 73 kWh ราคา 1,149,000 บาท
- 86 kWh ราคา 1,299,000 บาท
Riddara หรือ Radar ในประเทศจีน เป็นแบรนด์รถพลังงานใหม่ ในเครือ Geely Holding Group บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจและยอมรับในระดับสากลโดยบริหารแบรนด์รถยนต์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์ครอบคลุมหลายเซกเมนท์ อาทิ Zeekr , Lynk & Co, Volvo, Polestar รวมไปถึง Lotus และ Geely Auto ด้วย อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของโลก Fortune Global 500 ติดต่อกันกว่า 12 ปี
สำหรับ Radar ในประเทศจีน เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2022 โดยในปี 2023 สามารถครองตำแหน่ง China‘s NO.1 EV-pickup รถกระบะไฟฟ้ายอดขายอันดับหนึ่งในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกลุ่มรถกระบะไฟฟ้าในจีนมากกว่า 61.5%
ปัจจุบัน Radar มีรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Multiplex Attached Platform (M.A.P) รวม 2 รุ่นได้แก่ RD6 และ Horizon และมีแผนเปิดตัวรถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายแผนงานธุรกิจไปในระดับสากล สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Riddara ให้เป็นแบรนด์รถพลังงานไฟฟ้าที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์รถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานรถกระบะรูปแบบใหม่และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง เจาะกลุ่มผู้รักการเดินทางและชื่นชอบการทำกิจกรรม Outdoor