ธุรกิจ
สอท. เผยยอดผลิตรถ พย. ลดลงร้อยละ 28.23
สอท. เผยเดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตรถยนต์ 117,251 คัน ลดลงร้อยละ 28.23 ขาย 42,309 คัน ลดลงร้อยละ 31.34 ส่งออก 89,646 คัน ลดลงร้อยละ 10 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 464 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 46,400 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 5,519 คัน ลดลงร้อยละ 36.53
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประ เทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีทั้งสิ้น 117,251 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 28.23 จากการผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 20.67 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงร้อยละ 40.42 และลดลงจากเดือนตุลาคม 2567 ร้อยละ 1.34
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,364,119 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.14
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 45,491 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 24.68 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 28,876 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 32.04
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 464 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 46,400
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 386 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 48.53
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 15,765 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 8.11
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มีจำนวน 519,691 คัน เท่ากับร้อยละ 38.10 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 13.20 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 330,807 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 27.84
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 8,490 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 5,522.52
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 5,453 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 37.85
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 174,941 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 33.18
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตันขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 91.38
รถยนต์บรรทุก เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 71,760 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 30.30 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 844,418 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 23.87
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 70,823 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 28.65 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 828,532 คัน เท่ากับร้อยละ 60.74 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 22.91 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 131,023 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 31.43
• รถกระบะ Double Cab 546,144 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 22.42
• รถกระบะ PPV 151,365 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 15.78
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 937 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 74.67 รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 15,886 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 53.88
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 80,022 คัน เท่ากับร้อยละ 68.25 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.67 ส่วนเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 941,938 คัน เท่ากับร้อยละ 69.05 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 12.25
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 23,925 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 21.13 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 280,742 คัน เท่ากับร้อยละ 54.02 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 8.27
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 56,097 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.47 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 661,196 คัน เท่ากับร้อยละ 79.80 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ13.84 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 56,074 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 22.66
• รถกระบะ Double Cab 483,705 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 16.20
• รถกระบะ PPV 121,417 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 3.16
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 37,229 คัน เท่ากับร้อยละ 31.75 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 40.42 และเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 422,181 คัน เท่ากับร้อยละ 30.95 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 33.48
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 21,566 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 28.26 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ผลิตได้ 238,949 คัน เท่า กับร้อยละ 45.98 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ลดลงร้อยละ 18.35
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 14,726 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 48.72 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 167,336 คัน เท่ากับร้อยละ 20.20 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 45.56 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 74,949 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 36.79
• รถกระบะ Double Cab 62,439 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 50.75
• รถกระบะ PPV 29,948 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 51.73
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 91.38
รถบรรทุก เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 937 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 74.67 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 15,886 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 53.88
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 193,540 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 8.21 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 148,142 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 16.80 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 45,398 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 38.40
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,223,753 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 2.11 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,733,506 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.38 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 490,247 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 55.37
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 42,309 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2567 ร้อยละ 12.25 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 31.34 จากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำที่ 3 % ในไตรมาส 3 ของปีนี้ แต่หนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้น 22.8 % จากไตรมาส 3 ปีที่แล้ว หนี้ครัวเรือนสูงถึง 89.6 % ของ GDP ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลง ยอดขายบ้านลดลงจากปีที่แล้ว รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในอัตราต่ำ
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 25,347 คัน เท่ากับร้อยละ 59.91 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 29.17
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 12,006 คัน เท่ากับร้อยละ 28.38 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 28.12
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 5,519 คัน เท่ากับร้อยละ 13.04 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 36.53
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 223 คัน เท่ากับร้อยละ 0.53 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 346
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 7,599 คัน เท่ากับร้อยละ 17.96 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 26.50
รถกระบะมีจำนวน 11,481 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 35.69 รถ PPV มีจำนวน 2,954 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 30.51 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 1,181 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 45.73 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,346 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.26
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 136,622 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 2.49 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 4.54
ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 รถยนต์มียอดขาย 518,659 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 26.69 แยกเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 309,651 คันเท่ากับร้อยละ 59.70 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 15.74
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 140,670 คัน เท่ากับร้อยละ 27.12 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 36.35
• รถยนต์นั่ง แหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 61,443 คัน เท่ากับร้อยละ 11.85 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 5.20
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 2,104 คัน เท่ากับร้อยละ 0.41 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.67
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 105,434 คัน เท่ากับร้อยละ 20.33 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 32
รถกระบะ มีจำนวน 148,937 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 39.26 รถ PPV มีจำนวน 32,349 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.03 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 14,763 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 39.44 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 12,959 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 11.14
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,558,446 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 9.63 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,558,246 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.57 รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 50.98
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนพฤศจิกายน 2567 ส่งออกได้ 89,646 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 6.30 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 10 เพราะปีที่แล้วฐานสูง และสงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายไปหลายพื้นที่ทำให้จำนวนเที่ยวเรือมารับรถน้อยลงรวมทั้งหลายประเทศในเอเชียได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ชะลอตัวลง จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรป อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ส่งออกเพิ่มขึ้นตลาดอเมริกาเหนือแห่งเดียว
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2567 แบ่งเป็น ดังนี้
• รถกระบะ 47,255 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 52.71 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 13.48
• รถยนต์นั่ง ICE 26,677 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 29.76 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 10.93
• รถยนต์นั่ง HEV 3,587 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 45.69
• รถ PPV 12,127 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.53 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 3.62
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,957.65 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 11.62
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,886.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 21.43
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 14,589.62 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 17.95
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,265.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 0.23
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 77,699.50 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 12.98
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 942,867 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.21 แบ่งเป็น
• รถกระบะ ICE 533,839 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 56.62 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.91
• รถยนต์นั่ง ICE 237,622 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 25.20 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 19.39
• รถยนต์นั่ง HEV 44,923 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.76 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 276.55
• รถ PPV 126,483 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13.41 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 10.48
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 646,748.13 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 1.63 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 32,475.34 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 9.41
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 176,280.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 2.11
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 24,415.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 8.59
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 879,920.27 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 0.96
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤศจิกายน 2567 มีจำนวนส่งออก 81,225 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากเดือนตุลาคม 2567 ร้อยละ 53.60 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 6.67 โดยมีมูลค่า 5,855.60 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 14.50
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 215.90 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 9.68
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 86.79ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 27.95
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2567 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,158.29 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 13.94
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 857,587 คัน (รวม CBU+CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 14.95 มีมูลค่า 58,607.17 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.71
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,398.90 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 13.15
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,791.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 2.14
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 62,797.69 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 6.75
เดือนพฤศจิกายน 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 83,857.79 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 13.05
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 942,717.96 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 1.37
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤศจิกายน 2567
เดือนพฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,354 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 34.86 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,429 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 39.54
o รถยนต์นั่ง จำนวน 5,392 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 31 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 6 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 20 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 44.44
• รถยนต์สามล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 1 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 98.92
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 1 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,715 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 21.26
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,714 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 1 คัน
• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 8 คัน ซึ่งเดือนพฤศจิกายน 2566 ไม่มีการจดทะเบียน
• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 181 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 4,425
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 89,658 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 0.94 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 64,627 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 3.39
o รถยนต์นั่ง จำนวน 62,876 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 1,665 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 10 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 73 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 3 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 569 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 221.47
• รถยนต์สามล้อ มีทั้งสิ้น 145 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 62.72
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล จำนวน 38 คัน
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 107 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 23,471 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 16.89
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 23,361 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 110 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 296 คัน ซึ่งลดลงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 75.56
• รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 550 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 633.33
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพฤศจิกายน 2567
เดือนพฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 8,409 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 11.76 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 8,356 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 11.62
o รถยนต์นั่ง จำนวน 8,346 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 3 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 1 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 6 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 53 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 39.47
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 53 คัน
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 121,228 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 52.37 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 120,709 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 52.78
o รถยนต์นั่ง จำนวน 120,599 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 30 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 18 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 59 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 3 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 519 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 6.15
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 519 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนพฤศจิกายน 2567
เดือนพฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 768 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 2.17 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 768 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 2.17
o รถยนต์นั่ง จำนวน 768 คัน
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 8,851 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 20.75 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 8,851 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.75
o รถยนต์นั่ง จำนวน 8,844 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 7 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
ณ วันที่ 31 พฤศจิกายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 220,439คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 82.61 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 153,948 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 91.19
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 151,092 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 89.32
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 2,282 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 372.46
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 79 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 119.44
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 149 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 351.52
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์มีจำนวน 343 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 109.15
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 834 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 247.50
• รถยนต์สามล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,025 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 19.19
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 121 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 53.16
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ มีจำนวน 904 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 15.75
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 61,062 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 67.80
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 60,939 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 68.03
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 123 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 0.81
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,713 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 12.34
o รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 857 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 200.70
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 463,663คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 37.11 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 454,315 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 38.05
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 453,330 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 38.09
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 495 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 3.77
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 73 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 48.98
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 211 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 40.67
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 150
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเล็คทรอนิคส์ มีจำนวน 201 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 59.52
• รถกระบะและรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,345 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 2.85
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 9,345 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 2.85
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 62,670 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.25 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 62,670 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.25
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 62,599 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 17.27
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 43 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 4.88
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 18 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 14.29
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 66.67
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 25