ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
Mazda แต่งตั้งคนไทยขึ้นเป็นประธาน
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ประกาศแต่งตั้ง ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (President & CEO) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประ เทศไทย) จำกัด
ที่ผ่านมา ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ มีบทบาทสำคัญในการบริหารองค์กร Mazda (มาซดา) มายาวนาน สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนนับตั้งแต่ร่วมงานกับ Mazda เมื่อปี พศ. 2550 เริ่มจากการเป็นผู้ร่วม พัฒนารถยนต์ Mazda ในตำแหน่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ฝ่ายการตลาด สั่งสมประสบการณ์กว่า 18 ปี บริหารงานครบทุกฟังค์ชัน สร้างผลงานความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะการเปิดตัว Mazda2 (มาซ ดา 2) ได้รับความนิยมสูงสุดจนสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของตลาดรถยนต์นั่งซิทีคาร์ ครองแชมพ์ทำสถิติยอดขายสูงสุด 3 ปีติดต่อกัน รวมทั้งประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทแม่ ประเทศญี่ปุ่น ขยายการลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่ง โรงงานผลิตเครื่องยนต์ และเกียร์อัตโนมัตินอกประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในประเทศไทย ผลักดันโครงการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ธุรกิจ Mazda ในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ตลอดระยะเวลา 18 ปี ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารองค์กร Mazda ทั้งส่วนงานวางแผนด้านผลิตภัณฑ์ การวางกลยุทธ์การตลาด ส่งเสริมการขาย การพัฒนาผู้จำหน่าย การเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว และส่วนอื่นๆ อย่างรอบด้าน ถือเป็นผู้บริหารที่มีส่วนร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และอยู่ในทุกช่วงเวลา ทุกสถานการณ์ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านอุปสรรคมากมาย ร่วมมือปลุกปั้นแบรนด์ Mazda จนได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย แรกเริ่มเมื่อปี พศ. 2558 จากยอดขาย 11,000 คัน/ปี ก้าวสู่การสร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายสูงสุดถึง 74,000 คัน /ปี
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของธุรกิจ Mazda เป็นอีกประสบการณ์ที่ท้าทาย และมีคุณค่ายิ่ง ความผูกพันกับทีมงานคนไทย ผู้จำหน่าย Mazda สื่อมวลชน และพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ Mazda ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นในศักย ภาพของทีมงานทุกคน การที่ Mazda ทำงานลงลึกในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การขาย การดูแล และการบริการ การมอบความประทับใจให้ลูกค้า ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกหล่อหลอมและส่งเสริมให้ Mazda ก้าวเดิน และเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาถึงทุกวันนี้ ต่อจากนี้ อีกบทบาทใหม่จะมีความท้าทายยิ่งขึ้น Mazda จะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง และเข้มข้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจในทุกมิติ สร้างธุรกิจ Mazda และผู้จำหน่ายให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน ส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่มอบประสบการณ์ความสุขในการขับขี่ให้ลูกค้าตลอดไป
Mazda ยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนในระยะยาว สิ่งสำคัญที่จะทำให้ Mazda เกิดความแข็งแกร่งจึงไม่ใช่การขายรถใหม่เพียงอย่างเดียว ทุกภาคส่วนต้องสร้างความรัก ความผูกพัน ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่ดี จนเกิดเป็นความประทับใจ กลับมาซื้อซ้ำ และเป็นเจ้าของรถยนต์ Mazda ได้ทุกรุ่น ทุกช่วงเวลาของชีวิต กลายมาเป็น “Mazda Family” นั่นคือ แก่นแท้ของการดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ Retention Business คือ การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าให้ดีที่สุด รวมถึงการแนะนำจุดเด่นของรถ Mazda ให้แก่คนอื่นๆ ต่อไป Mazda เชื่อว่าแนวทางการทำธุรกิจด้วยวิถีนี้จะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ลูกค้าอย่างเต็มกำลัง และให้ความสำคัญสูงสุดต่อการสร้างคุณค่าแบรนด์ โดยเฉพาะการบริการหลังการขายที่ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ลูกค้าเลือก และเป็นอันดับ 1 ด้านการบริการ เพื่อส่งมอบรอยยิ้ม และความสุขให้ลูกค้า รวมถึงผลประกอบการของผู้จำหน่ายต้องแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ถือเป็นประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนไทยคนแรกที่มาจากสายเลือดอันเข้มข้นของ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ เพียงคนเดียว เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในองค์กรระดับโลก และมีเพียงคนไทยไม่กี่คนที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคนานัปการมาได้ เป็นขุนศึกที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้บริ หารระดับสูงมานับไม่ถ้วน โดยดำรงตำแหน่งล่าสุด คือ รองประธานกรรมการบริหาร มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ เมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา
ทาดาชิ มิอุระ จะขยับขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาอาวุโส กล่าวว่า ผมเชื่อมั่นในพลังของการทำงานเป็นทีม ด้วยศักยภาพของพนักงานทุกคนใน มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ และผู้จำ หน่าย Mazda ทุกราย ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนได้ทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้าง Mazda ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย แน่นอนที่สุดการสนับสนุน และให้ความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วยดีมาโดยตลอดนั้น คือ สิ่งสำคัญยิ่งต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ผมภูมิใจ และมีความสุขกับบทบาทใหม่ที่กำลังจะมาถึง อีกไม่นานจากนี้ไป Mazda กำลังเร่งมือเดินหน้าแนะนำยนตร กรรมใหม่และรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงการสร้างความยั่งยืนที่ครอบคลุมทุกๆ ด้าน เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่อยู่คู่สังคมไทยตลอดไป ผมมั่นใจว่าเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่นำพา Mazda ในประเทศไทยประ สบความสำเร็จ และยั่งยืน ทำให้ Mazda เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าภาคภูมิใจที่ได้ครอบครอง
การปรับทัพผู้บริหารของ Mazda ในช่วงเวลาที่ตลาดรถยนต์ไทยมีการแข่งขันรุนแรงเช่นนี้ นับว่าน่าจับตามองอย่างยิ่งถือเป็นความท้าทายที่ Mazda จะต้องก้าวผ่านเพื่อไปสู่ความสำเร็จในระดับสูงขึ้น โดยเฉพาะการแนะนำรถ Mazda รุ่นใหม่ที่กำลังจ่อคิวลงตลาดตามแผนพัฒนาธุรกิจในอนาคตอันใกล้นี้ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะส่งผลให้ Mazda กลับมาทวงแชมพ์ความยิ่งใหญ่ และได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าชาวไทยในเร็วๆ นี้
.......................................................................................................................................
Honda เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 2 รุ่นใหม่
บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ Honda (ฮอนดา)ในประเทศไทย เดินหน้าสู่ปีที่ 60 ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์อันดับหนึ่งในประเทศไทย ส่งรถจักรยานยนต์ 2 รุ่นใหม่ รุกตลาดต้นปี New Honda PCX160 (ฮอนดา พีซีเอกซ์ 160) ใหม่ ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 99,900 บาท ตามด้วย รถจักรยานยนต์ เอ.ที. ในสไตล์ High Fashion Honda Giorno+ Disney Fantasia 85 Years Limited Edition (ฮอนดา จีออร์โน พลัส ดิสนีย์ แฟนตาเซีย 85 ปี ลิมิเทด เอดิชัน) จำกัดเพียง 2,000 คันเท่านั้น
มิโนรุ คาโตะ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ส่วนงานรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ Honda Motor กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดของ Honda ทั่วโลกว่า รถจักรยานยนต์ Honda มุ่งมั่นตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าทุกกลุ่มผ่านผลิตภัณฑ์ บริการที่เปี่ยมคุณภาพ และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันเสมอมา ส่งผลให้ Honda ยังคงได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในปี 2024 ที่ผ่านมา โดยเราสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์กว่า 27.6 ล้านชิ้น ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ในจำนวนนี้เป็นรถจักรยานยนต์ถึง 19.9 ล้านคัน และคาดว่ายอดขายในปีงบประมาณนี้ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม จะทะลุ 20 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอีก 1.3 ล้านคัน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ของ Honda ทั่วโลกสูงถึง 40 % ธุรกิจรถจักรยานยนต์ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจทั้งหมดของ Honda
“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของ Honda ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของธุรกิจรถจักรยานยนต์ ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และนวัตกรรมล้ำสมัย รวมถึงการบริการ และช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ปีนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ ไทยฮอนด้าฯ ฉลองครบรอบ 60 ปี และประสบความสำเร็จในฐานะฐานการผลิตเพื่อส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของ Honda โดยผลิตรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์รวมกว่า 90 ล้านชิ้น ส่งออกไปยัง 96 ประเทศทั่วโลก”
ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ Honda ในประเทศไทยว่า ปีที่ผ่านมา ไทยฮอนด้าฯ สามารถจำหน่ายรถจักรยานยนต์ได้ถึง 1.38 ล้านคัน จากตลาดรวม 1.71 ล้านคัน พร้อมครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 36 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือ และการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ”
ปี 2025 แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง แต่เราคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตประมาณ 101 % อยู่ที่ 1.70-1.75 ล้านคัน โดย Honda ตั้งเป้าจำหน่ายถึงผู้ใช้อยู่ที่ 1.36-1.40 ล้านคัน หรือเติบโต 102 % เรามุ่งมั่นกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 9 รุ่นในปีนี้ พร้อมพัฒนากลยุทธ์ด้านการขาย และบริการในรูปแบบดิจิทอล เพื่อสร้างโครงสร้างตลาดที่แข็งแกร่ง และเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
“จากปีที่ผ่านมา ด้านตลาดในกลุ่มรถ เอ.ที. มีแนวโน้มที่เติบโตขึ้น โดยมีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 53 % เราจึงผลักดัน และสานต่อความสำเร็จของรถจักรยานยนต์ในกลุ่ม เอ.ที. ซึ่งพร้อมเปิดตัว 2 รุ่น คือ All New Honda PCX160 รถจักรยานยนต์สปอร์ทพรีเมียมมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ และ Honda Giorno+ Disney Fantasia 85 Years Limited Edition ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการคอลแลบฯ กับแอนิเมชันสุดพิเศษ Disney Fantasia เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของ Honda ในฐานะผู้นำตลาดที่ไม่หยุดพัฒนา และตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า”
All New Honda PCX160 มาพร้อมดีไซจ์นสปอร์ทพรีเมียมในคอนเซพท์ “Be The Mark of Pride อีกระดับของความภูมิใจ ที่ใครก็อยากเป็น” โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล TFT ใหม่ ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลทุกข้อมูลการขับขี่ได้ครบถ้วนชัดเจน รวมถึงการแสดงผลระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ระบบตรวจจับ และควบคุมล้อหน้า-ล้อหลังให้สัมพันธ์กัน ป้องกันรถเสียการทรงตัว สะดวก ปลอดภัยในทุกการขับขี่ พร้อมเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน Honda RoadSync เทคโนโลยีอัจฉริยะจาก Honda ที่ควบคุมการทำงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ในการรับสายโทรเข้า-โทรออก, ระบบนำทาง, แอพพลิเคชันฟังเพลง และประวัติการเดินทาง พร้อมควบคุมผ่านปุ่มคอนทโรลเลอร์ดีไซจ์นใหม่ในแบบมัลทิฟังค์ชันสั่งการได้หลากหลาย ถือเป็นอีกระดับของการเชื่อมต่อระหว่างคน และรถ
All New Honda PCX160 เสริมเอกลักษณ์แห่งความภูมิใจด้วยไฟหน้าดีไซจ์นใหม่ทรง Victory Shape พร้อมไฟเลี้ยว LED เพิ่มการส่องสว่าง และไฟท้ายดีไซจ์นสปอร์ทพรีเมียม ทั้งนี้ มาพร้อมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว 157 ซีซี ให้สมรรถนะแรงต่อเนื่อง ส่งเต็มกำลัง สมูธ ลื่นไหล ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรค ABS ล้อหน้าที่มาพร้อมจานเบรคขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อลอคเมื่อเบรคกะทันหัน นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่จุได้ 30 ลิตร และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Honda Smart Key & Controller ที่สั่งงานง่ายเพียงบิดสวิทช์
All New Honda PCX160 รุ่น RoadSync มีวางจำหน่ายในเฉดสีใหม่ ทั้งหมด 2 เฉดสี ได้แก่ สีน้ำเงิน Innovate Blue และสีแดง-ดำ Matt Red ราคาแนะนำที่ 99,900 บาท รุ่น Standard มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 เฉดสีใหม่ ได้แก่ สีดำ Matt Gunpowder Black, สีน้ำเงิน-ดำ Victory Blue และสีเทา-ดำ Pearl Smoky Gray ราคาแนะนำที่ 96,000 บาท
นอกจากรุ่น All New Honda PCX160 รุ่น RoadSync และ Standard ไทยฮอนด้าฯ ยังได้นำเสนอ Exclusive Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความเป็นขั้นสุดของรุ่น สะท้อนความหรูหราในคอนเซพท์ Mark up Your Pride พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสุดพิเศษ ดีไซจ์นโดดเด่น มอบสมรรถนะแรงเร้าใจ ราคาแนะนำที่ 107,500 บาท
พร้อมกันนี้ ไทยฮอนด้าฯ ยังมาพร้อมโปรโมชันพิเศษให้แก่ผู้ทำการจองรถ All New Honda PCX160 ตั้งแต่วันที่ 10-31 มกราคม 2568 ด้วยแพคเกจ HSP (Honda Service Premium Package) ตรวจเชคระยะฟรีตลอดระยะเวลา 2 ปี หรือระยะทาง18,000 กิโลเมตร กดรับสิทธิ์ผ่าน Application “My Honda Moto” ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน : https://myhonda.page.link/invite
ตามด้วย "Honda Giorno+ Disney Fantasia 85 Years Limited Edition" มาพร้อมคอนเซพท์ “Enchant The New High เสกทุกสไตล์ ให้กลายเป็นดาว“ โดยนำเอาแอนิเมชันระดับตำนานอย่าง "Disney Fantasia" ลวดลายจอมเวทย์มิคคีเมาส์มาคอลแลบกับมอเตอร์ไซค์สไตล์ High Fashion อย่าง Honda Giorno+ โดยสร้างปรากฏการณ์สุด Magical พาสไตล์ไปเหนือจินตนาการด้วยเฉดสีน้ำเงินเข้มแซมแดง ผสานความลงตัวด้วยสติคเกอร์ Reach for the stars โดดเด่นท่ามกลางลวดลายดวงดาวที่เรืองแสงได้ในยามค่ำคืน เพิ่มความพิเศษด้วย 3D Emblem สีทอง และโลโกฉลองครบรอบ 85 ปี แอนิเมชันในตำนาน พร้อมระบุ Serial Number เสริมความลิมิเทดให้แก่เหล่าสาวก Disney อีกด้วย ที่สำคัญเสริมภาพลักษณ์ความเท่ สะดุดตาไปอีกขั้นด้วยครอบท่อไอเสียสเตนเลสส์ และสติคเกอร์วงล้อ H2C
Honda Giorno+ Disney Fantasia 85 Years Limited Edition ผลิต และวางจำหน่ายเพียง 2,000 คันเท่านั้น ในราคาแนะนำ 73,700 บาท มาพร้อมกับพรีเมียมบอกซ์เซทสำหรับแฟน Disney Fantasia ได้แก่ เสื้อแจคเกคสุดแฟชันลายจอมเวทย์มิคคีเมาส์ รวมถึงพวงกุญแจสุดคูล The Magical Keychain เพิ่มความน่ารักเหนือจินตนาการ ไม่ซ้ำใคร
ส่วนในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้ง บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ทางบริษัทฯ ได้จัดทำโครงการมอบหมวกกันนอค มูลค่า 60 ล้านบาท ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และสถานศึกษา เพื่อแสดงความขอบคุณต่อสังคมไทยที่ให้การสนับสนุนเราเสมอมา
.......................................................................................................................................
Harley-Davidson เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ ปี 2025
Harley-Davidson (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2025 ผ่านทางเวบไซท์ H-D.com พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ณ โชว์รูม และศูนย์บริการโดยผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลก พร้อมยังได้เปิดตัว Harley-Davidson Factory Custom Paint & Graphics นำเสนอการตกแต่งด้วยสี และลวดลายกราฟิคสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ
นอกจากนี้ Harley-Davidson ยังประกาศกำหนดการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ปี 2025 เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงคอลเลคชันรถมอเตอร์ไซค์ Custom Vehicle Operation (CVO) รุ่นลิมิเทด ครั้งที่ 26 ในวันที่ 23 มกราคม 2568 เวลา 17.00 น. CST (วันที่ 24 มกราคม 2568 เวลา 06.00 น. เมื่อเทียบเวลาประเทศไทย) ผ่านทางเวบไซท์ H-D.com
ตระกูล Grand American Touring : รถมอเตอร์ไซค์ที่พัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญที่ Harley-Davidson มีในการสร้างสรรค์ประสบการณ์การขี่แบบครอสส์คันทรีสำหรับเหล่านักขับขี่ที่แสวงหาการผจญภัยบนถนน ตระกูล Grand American Touring จะพาเหล่านักขับขี่โลดแล่นออกไปไกลสุดขอบฟ้าด้วยความสะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะ และเทคโนโลยีเหนือระดับที่ทำให้ทุกการเดินทาง คือสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ โดยรุ่นที่กลับมาในปีนี้ ประกอบด้วย Street Glide (สตรีท กไลด์), Road Glide (โรด กไลด์) และ Road King Special (โรด คิง สเปเชียล)
โดดเด่นสะดุดตาด้วย Harley-Davidson Factory Custom Paint & Graphics
Harley-Davidson Factory Custom Paint & Graphics พร้อมมอบตัวเลือกสี และลวดลายกราฟิคระดับพรีเมียมสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ เอาใจเหล่านักขับขี่ที่ต้องการความโดดเด่น และเอก ลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อลูกค้าสั่งซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ชิ้นส่วนตกแต่งด้วยสี และลวดลายกราฟิคพิเศษติดตั้งตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบรถจากโรงงาน โดยลูกค้าจะได้รับรถมอ เตอร์ไซค์ที่มีสี และลวดลายสุดโดดเด่น พร้อมการรับประกันจากโรงงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และประหยัดเวลากว่าการพ่นสีจากภายนอก
ข้อเสนอ Harley-Davidson Factory Custom Paint & Graphics ในปีนี้ จะครอบคลุมเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์บางรุ่น โดยชุดตกแต่งแต่ละสีมาพร้อมกับตราสัญลักษณ์ถังน้ำมันสีดำแบบพิเศษ ตกแต่งด้วยขอบโครเมียม สามารถเลือกสีพื้นหลังได้ทั้งเฉดสีม่วงมุก หรือส้มมุก
สี Mystic Shift เพิ่มความโดดเด่นด้วยเฉดสี ตั้งแต่เฉดสีเทาเข้ม Dark Gun Metal ไปจนถึงสีม่วง สีน้ำเงิน และสีส้มอ่อน ซึ่งเสริมให้รถมอเตอร์ไซค์ยิ่งดูโดดเด่นเมื่ออยู่กลางแสงแดด
กราฟิคลาย Firestorm ตอบรับกระแสการคัสตอมที่เน้นลวดลายเปลวไฟ โดย Harley-Davidson ได้เปิดตัวกราฟิคลายเปลวไฟจากโรงงานครั้งแรกในรถมอเตอร์ไซค์ รุ่น 1980 Wide Glide (1980 ไวด์ กไลด์) และได้นำกราฟิคนี้กลับมาอีกหลายครั้ง เช่น ในรถรุ่น 2011 Wide Glide สำหรับลาย Firestorm มีจุดเด่นอย่างเอฟเฟคท์ “Ghost Fade” หรือการไล่เฉดสีด้านใน ซึ่งสีที่ไล่เฉดจะสว่างกว่าเบสโคทเล็กน้อย เมื่อมองจากมุมหนึ่งลายเปลวไฟจะโดดเด่น ขณะที่ดูเรียบหรูเมื่อมองจากอีกมุม โดยกราฟิคลาย Firestorm นี้มีสียอดนิยมให้เลือก 2 สี
Midnight Firestorm เป็นลวดลายเปลวไฟโทนเข้มที่โดดเด่นด้วยลายเปลวไฟที่ซ่อนอยู่บนพื้นสีดำเงา Vivid Black พร้อมเอฟเฟคท์เรืองแสงด้านในสีเทาเข้ม Charcoal
Whiskey Firestorm โดดเด่นด้วยการเคลือบชั้นกลางเพื่อให้ได้เฉดสีส้มที่ลึกขึ้น พร้อมลายเปลวไฟ Ember Sunglo Ghost และเอฟเฟคท์เรืองแสงด้านในสีส้มที่สว่างกว่า
ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นรถมอเตอร์ไซค์ และสีที่วางจำหน่าย พร้อมข้อมูลจำเพาะ และกำหนดเวลาการส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ใกล้บ้านท่าน
Harley-Davidson ยืนหยัดเพื่อจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย และอิสรภาพเหนือกาลเวลาของเหล่านักขับขี่ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระ กูล Grand American Touring ตระกูล Adventure Touring และตระกูล Cruiser รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson มือสองที่ผ่านการรับรอง พร้อมอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก Harley -Davidson สินค้าเครื่องแต่งกายสำหรับนักขับขี่ Harley-Davidson Motor Clothes และบริการด้านการเงินของ Harley-Davidson ได้ที่ H-D.com
.......................................................................................................................................
MotoGP Thailand ประกาศ 3 กิจกรรม
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้อนรับศึก Grand Prix เบอร์ 1 ของโลก ยิ่งใหญ่ไปกับการเปิดสนามฤดูกาล "MotoGP" ครั้งแรกในไทย และครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใดในรอบ 25 ปี กับ 3 กิจกรรมสุดพิเศษที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 6 ของการเป็นเจ้าภาพจัด "MotoGP" ที่ประเทศไทย โดยได้รับเกียรติสูงสุดในการเป็นเจ้าภาพสนามเปิดฤดูกาล 2 ปีซ้อนทั้งในปี 2568 และ 2569 ซึ่งสนามแรกในประเทศไทยปีนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568 จากทั้งหมด 22 สนามใน 18 ประเทศนับเป็นการเปิดฤดูกาลครั้งแรกในไทย และครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รอบ25 ปี
MotoGP สนามประเทศไทย ถือเป็นแบบอย่างนโยบาย Sport Tourism อย่างเป็นรูปธรรม ในหลายมิติทั้งด้านกีฬา เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ประเทศ โดยปี 2567 มียอดผู้ชมในสนามสูงถึง 205,343 คน สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 4,759 ล้านบาท และในปีนี้ Dorna Sport ยังเลือกที่จะจัด 3 กิจกรรมหลักที่แฟนความเร็วทั่วโลกรอคอย ได้แก่ แถลงเปิดฤดูกาล Season Pre mier, ทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล Pre-Season Test และ Main Race สนามแรกของปี เหล่านี้เองเป็นเครื่องแสดงศักยภาพของไทยที่เป็นที่ประจักษ์ในเวทีระดับโลกในการจัดมหกรรมกีฬาระดับสากลและก้าวสู่ศูนย์กลางของกีฬามอเตอร์สปอร์ทในภูมิภาคเอเชียในอนาคต
องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้มีความท้าทายค่อนข้างมากจากกรอบเวลาการทำงานที่สั้นลง แต่ด้วยประสบการณ์ และความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เดินหน้าเต็มระบบ มั่นใจได้ว่าการแข่งขันในปีนี้จะยิ่งใหญ่ที่สุด สมกับการเป็นสนามเปิดฤดูกาลอย่างแน่นอน ซึ่งความพิเศษในครั้งนี้ คือ คนไทยจะได้ร่วมจารึกประวัติศาสตร์การมีนักแข่งไทยคนแรก คือ "ก้อง สมเกียรติ จันทรา" ที่จะได้ลงแข่งในรุ่น MotoGP ซึ่งนับเป็นความสำเร็จสูงสุดของวงการมอเตอร์สปอร์ทไทย ตอกย้ำความมุ่งมันในการพัฒนานักกีฬา และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน และนักก็ฟ้ารุ่นใหม่อย่างแท้จริง
มาร์กอส ตอร์โรบา ผู้จัดการด้านการจัดการแข่งขัน Dorna Sport เจ้าของลิขสิทธิ์กล่าวว่า เหตุผลที่ Dorna Sport เลือกประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในกิจกรรมหลัก และเปิดประเดิมฤดูกาล มาจากทั้งความพร้อมด้านสนามแข่งขัน การจัดการ และความคลั่งไคล้ใน MotoGP ของแฟนชาวไทย ทำให้มีผู้ชมจำนวนมาก โดยเฉพาะการจัดแถลงเปิดฤดูกาล Season Premier ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นมหา นครที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเป็นปีที่พิเศษที่คนไทยสามารถส่งกำลังใจให้ฮีโรเจ้าบ้านในคลาสส์ MotoGP ได้เป็นครั้งแรก การเปิดฤดูกาลในกรุงเทพฯ จะทำให้เข้าถึงแฟน ๆ ชาวไทยได้มากขึ้นทั้งทำให้ "MotoGP สนามประเทศไทย" กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างแท้จริง
ปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ความพิเศษของปีนี้ชาวบุรีรัมย์จะมีโอกาสเปิดประตูเมืองต้อนรับ "MotoGP" ด้วยช่วงเวลาที่มากขึ้นกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งการเตรียมพร้อมสำหรับแข่งขัน จัง หวัดได้ประสานทุกภาคส่วน เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และมอบช่วงเวลาที่แสนพิเศษให้แก่ผู้มาเยือน ตลอดช่วงเวลาที่พำนักอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยนำบทเรียนจากการแข่งขันในปีก่อนๆ มาปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการจราจร การรักษาความสะอาด และการเพิ่มศูนย์ให้ข้อมูลที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมจากหลากหลายประเทศ ขยายที่พัก สนับสนุนที่พักแบบโฮมสเตย์ เพื่อให้แฟนความเร็วได้สัมผัสเสน่ห์ของวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง
พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวว่า ในฐานะไตเดิ้ลสปอนเซอร์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และเป็นสำคัญในการจารึก Thailand Griand Prix บทใหม่ในปี 2025 นั้น PTG ภายใต้ปณิธาน "บริษัทเพื่อเติมความสุขให้คนไทย อยู่ดีมีสุข" การสนับสนุนการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นการเติมเต็มความฝันของแฟนมอ เตอร์สปอร์ทชาวไทย มอบโอกาสให้ได้สัมผัสกับการแข่งขันระดับโลกในบ้านเรา โดยไม่ต้องเดินทางไปชมยังต่างประเทศ นอกจากนี้ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของ PTG ในวงการมอเตอร์สปอร์ท จะช่วยผลักดันประเทศไทยให้เป็น Destination สำคัญในโลกของมอเตอร์สปอร์ท และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจ และพัฒนาวงการกีฬา
โชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนายการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา สนามประเทศไทยได้รับความชื่นชมจาก Dorna Sport ว่าเป็นสนามที่มีการจัดการดำเนินกิจกรรมเสริมได้ดีที่ที่สุดในฤดูกาล 2024 ไม่ว่าจะเป็น Hero Walk, Meet & Greet, Rider Parade, กิจกรรมเสริมในลาน Commercial Area, คอนเสิร์ทจาก Chang Music Connection Pavilion ในปีนี้การได้เป็นเจ้าภาพ กิจกรรมหลักที่สำคัญมากมาย ยืนยันถึงความพร้อม และมาตรฐานการทำงานระดับโลกที่เป็นที่ยอมรับ คณะกรรมการจัดการแข่งขันรวมถึงสนามข้างฯ จะทำทุกวิถีทางเพื่อรัก ษามาตรฐาน พร้อมกับพัฒนาทุกๆ ด้านให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้แฟนๆ ทุกท่าน ได้ประทับใจ กับมนต์เสน่ห์ของ MotoGP วิถีไทย ที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก
ภายในงานยังได้มีการเปิดจำหน่ายบัตรชมการแข่งขัน MotoGP สนามประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 14.00 น. โดยที่นั่งบัตร Grand Stand ทำสถิติอีกครั้ง Sold Out เวลา 2.55 นาที ด้วยความพิเศษของ "บัตรชม MotoGP" ที่สุดคุ้มถึง 2 ต่อ ได้ชม "Pre-Season Test" ฟรี รวมทั้งปรากฏการณ์แห่งการร่วมใจเชียร์นักบิดไทย ฝ่ายจัดฯ คาดว่า บัตรชมการแข่งขันปีนี้ จะประสบความสำเร็จในแง่ยอดจัดจำหน่ายสูงสุด เต็มทุกสแตนด์ที่นั่งอย่างรวดเร็วแน่นอน
ทั้งนี้ "บัตรเข้าชม MotoGP สนามประเทศไทย 2025" แบ่งเป็น 4 ประเภท เข้าชม Pre-Season Test ได้ฟรี และชม Main Race ได้ทั้ง 3 วัน ได้แก่ 1.Grand Stand) 5,000 บาท (เห็นทุกโค้งทั่วสนาม) 2. Rider Stand 3,000 บาท สำหรับกองเชียร์นักแข่ง 3 คน ได้แก่ มาร์เกซ สแตนด์, กวาร์ตาราโร สแตนด์, จันทรา สแตนด์( พร้อมของที่ระลึก ลิขสิทธิ์แท้จากนักบิด) 3. Brand Stand 2,000 บาท สำหรับกองเชียร์จากค่ายรถจักรยานยนต์ Honda (ฮอนดา),Yamaha (ยามาฮา) และ Ducati (ดูคาติ) (พร้อมสิทธิ์ลุ้นชิงโชค และรับของที่ระลึกจากผู้สนับสนุน) 4. Side Stand 2,00 บาท ส่วนผู้ชมที่ต้องการซื้อเฉพาะบัตรชม Pre-Season Test ทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล วันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2568 ราคาจำหน่ายบัตร แบ่งเป็น บัตร Grand Stand ราคา 500 บาท/วัน หรือเหมา 2 วัน 900 บาท, บัตร VIP 5,000 บาท/วัน
สำหรับส่วนลด และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ยังคงจัดเต็มเช่นเคย โดย PTG มอบส่วนลดในการซื้อบัตรชมการแข่งขัน เพื่อเติมความสุขอย่างเต็ม Max ไม่ว่าจะเป็นบัตรแดง PT Max Card Plus เพียงโชว์บัตรที่จุดจำหน่าย รับส่วนลด 25 % ,บัตรเขียว PT Max Card ลด 20 % และยังมีกิจกรรมพิเศษ ลด-แลก-แจก-ชอพ ภายในงาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในเครือ PT Maxnitron กาแฟพันธุ์ไทย ศูนย์บริ การ Autobacs ฯลฯ และยังมีของที่ระลึก MotoGP ลิมิเทดมากมาย ติดตามได้ทีแฟนเพจ PT Station หรือสิทธิ์ส่วนลด 20 % จากผู้สนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ Chang International Circuit Friend Club, กุญแจรถจักรยานยนต์ Honda, Yamaha ส่วนกุญแจรถ Ducati ใช้เป็นส่วนลดได้เฉพาะ Ducati Stand เท่านั้น (สงวนสิทธิ์เลือกใช้ส่วนลดได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง)
แฟนความเร็วซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ผ่านเวบไซท์ allticket
.......................................................................................................................................
เชคสภาพรถ หลังเดินทางไกล
หลังกลับจากเดินทางไกล ช่วงเทศกาลหยุดยาว อย่าลืมดูแลตรวจเชคสภาพรถยนต์กันสักหน่อย แต่จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
เชคระดับของเหลว
หลังจากเดินทางไกล ผู้ขับขี่ควรตรวจระดับของเหลว ตั้งแต่น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค ระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ และน้ำฉีดกระจก เพราะการขับรถทางไกลเป็นเวลานาน อาจทำให้ของ เหลวเหล่านี้ ลดลงมากกว่าปกติ
- น้ำมันเครื่อง เชคระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับปกติ และตรวจสอบว่ามีการรั่วซึม รวมถึงสภาพสีของน้ำมันเครื่องว่าดำจนเกินไป รวมถึงมีเศษเขม่าเจือปนอยู่หรือไม่ หากพบควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่
- น้ำหล่อเย็น น้ำหล่อเย็นมีหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ วิธีเชคจะมีสัญลักษณ์บอกระดับน้ำ คือ MAX และ MIN ถ้าระดับน้ำอยู่ต่ำกว่า MIN แสดงว่าน้ำน้อยเกินไป
ริ้วรอยรอบตัวถัง
หลังจบทริพแล้ว ควรเชคตัวรถ ว่ามีรอยบุบ หรือรอยขีดข่วนใดๆ หรือไม่ เพราะในขณะที่เราขับรถยนต์ข้ามจังหวัด อาจมีรอยหินดีด หรือสิ่งต่างๆ มาโดนตัวรถ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่รีบจัดการตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจทำให้สีรถด่างได้
ยางรถยนต์
การเดินทางไกล อาจส่งผลให้ความดันลมยางลดลง ดังนั้น อย่าลืมเชคลมยาง เพื่อป้องกันการสึกหรอของยาง รวมถึงควรตรวจสภาพยางว่ามีร่องรอยแตกร้าวที่ผิดปกติ เเละมีอะไรทิ่มแทงหรือไม่ เพื่อลดโอกาสเกิดอันตรายจากการขับขี่
ระบบเบรค
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ หรือไกล เพราะหลังจากเดินทางไกล ผ้าเบรคอาจมีการสึกหรอ วิธีสังเกต คือ เวลาเบรคจะมีเสียงดัง หรือมีอาการเบรคที่ผิดปกติ ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้นำรถไปพบช่างผู้ชำนาญตรวจเชคโดยด่วน
ไส้กรองอากาศ
การเดินทางไกล อาจต้องขับผ่านถนนที่มีฝุ่นมากกว่าปกติ หรือเศษสิ่งสกปรก ดังนั้น ลองเชคไส้กรองอากาศรถคู่ใจหน่อยว่ามีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่หรือไม่ หากมีก็ควรเป่าออก หรือเปลี่ยนไส้กรองใหม่ จะช่วยให้เครื่องยนต์ใช้งานได้นานขึ้น
ช่วงล่าง และระบบกันสะเทือน
เชคช่วงล่าง และระบบกันสะเทือนด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้ว หากขับรถตกหลุม ศูนย์ล้ออาจผิดเพี้ยนได้ โดยสามารถเชคเบื้องต้นด้วยการปล่อยพวงมาลัยขณะที่รถเคลี่อนที่ หากรถดึงซ้าย หรือขวา ต้องปรับตั้งศูนย์ล้อใหม่ (อย่าลืมตรวจสอบชอคอับด้วย ต้องไม่มีคราบน้ำมันบนกระบอกชอคอับ)
.............................................................................................................
กรมการขนส่งทางบก เผย10 วัน ของการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
กรมการขนส่งทางบก เผย 10 วัน การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ตั้งแต่วันที่ 27 ธค. 67-5 มค. 68 ตรวจรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดจอด/จุดตรวจ ทั่วประเทศ แล้วกว่า 150,000 คัน พบรถบก พร่องจำนวน 5 คัน ดำเนินการเปลี่ยนรถโดยสารทันที
จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมีมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร/จุดจอด และจุด Checking Point ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567-5 มกราคม 2568 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พศ. 2568 โดยเทศกาลปีใหม่ในปีนี้มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จึงได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดทุกแห่ง ตรวจความพร้อมของรถ และความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทาง ตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย และการตรวจวัดระดับแอลกอฮอลในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งสภาพตัวรถภายนอก และภายใน รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ และให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิร ภัยตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ สำหรับผลดำเนินการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะตั้งแต่วันที่ 27 ธค. 67-5 มค. 68 ตรวจแล้ว 150,721 คัน พบรถบกพร่องจำนวน 5 คัน อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็แรง หรือมีอุปกรณ์ภายในรถชำรุด และพบพนักงานขับรถบกพร่องจำนวน 4 คน โดยทุกกรณีได้ดำเนินการเปลี่ยนรถโดยสาร และพนักงานขับรถก่อนให้บริการเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนผลการดำเนินการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ด้วยระบบ GPS Tracking ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS จำนวน 539,362 คัน พบการใช้ความ เร็วเกินกฎหมายกำหนด จำนวน 1,817 คัน ผลตรวจสอบการใช้ความเร็วรถโดยสาร และรถบรรทุก ด้วยกล้องเลเซอร์ บนถนนสายหลักและสายรอง จำนวน 22,644 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎ หมายกำหนด 156 คัน ประสานผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระงับการใช้ความเร็ว ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์ 1584 ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จำนวน 524 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ขับรถประมาท/น่าหวาดเสียว, ไม่หยุดรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายหยุดรถ และประจำรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อย ดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวน และดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป
.............................................................................................................
PTT Station ตอกย้ำความมั่นใจในมาตรฐานหัวจ่ายน้ำมัน
PTT Station ธุรกิจภายใต้การดำเนินงานของ OR ได้แสดงความพร้อม และน้อมรับนโยบายของภาครัฐ โดยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับโครงการ "หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถ "สายตรวจเฉพาะกิจตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน" ณ บริเวณโถงด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ โดยมี วิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วย สุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และคณะผู้บริหารจากบริษัทผู้ค้าน้ำมันชั้นนำ ร่วมแสดงเจตนา รมณ์ในการตรวจสอบมาตรฐานหัวจ่ายน้ำมันทั่วประเทศ
สำหรับครั้งนี้ PTT Station ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับโครงการ "หัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน" เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่า เมื่อเติมน้ำมันที่ PTT Station จะได้รับปริมาณน้ำมันเป็นไปตามมาตรฐานทุกหัวจ่าย PTT Station ได้ดำเนินการตามแนวทางที่กรมการค้าภายในกำหนด โดยรายงานผลการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า น้ำมันทุกหยดที่เติมจาก PTT Station นั้น ได้มาตรฐานทั้งในด้านคุณภาพ และปริมาณ ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า “PTT Station มั่นใจ ไปได้ไกลกว่า”
สำหรับโครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่น โดยมีเป้าหมายการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันอย่างน้อย 2,000 แห่งทั่วประเทศ หรือประ มาณ 60,000 หัวจ่าย เพื่อให้มั่นใจว่าสถานีบริการน้ำมันทุกแห่งปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมในทุกการเดินทาง
ทั้งนี้ PTT Station ยืนยันความมุ่งมั่นในการเป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน ด้วยการพัฒนาคุณภาพน้ำมัน และมาตรฐานการให้บริการอย่างครบถ้วน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคที่ มาใช้บริการ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ หรือไกล PTT Station พร้อมเป็นพื้นที่แห่งความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งน้ำมันคุณภาพสูง ร้านค้า และบริการต่างๆ ที่ช่วยเติมเต็มพลัง และความสุขในทุกเส้นทาง