ชูเบย์ตาห์ ซาอุดิอาระเบีย-หลังการแข่งขันอันดุเดือดยาวนาน 2 สัปดาห์ บนเส้นทางทะเลทรายที่โหดที่สุดของโลก ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ทีม Ford Performance และรถ Ford Raptor T1+ ก็พิสูจน์ความแข็งแกร่งให้ทุกคนได้เห็นด้วยการคว้าอันดับ 3 Overall บนโพเดียมมาครองได้ในศึก "Dakar Rally 2025" สุดยอดการแข่งขันออฟโรดระดับโลก
Dakar Rally เป็นการแข่งขันออฟโรดสุดโหดที่ท้าทายขีดจำกัดของทั้งคนขับ เนวิเกเตอร์ และรถที่ลงแข่งขันบนเส้นทางทะเลทราย เนินทราย และหุบเขาของซาอุดิอาระเบีย ถือเป็นสุดยอดการแข่ง ขันออฟโรด ซึ่ง Ford (ฟอร์ด) ได้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ครั้งแรกในปี 2567 เพื่อทดสอบสมรรถนะ และนำข้อมูลมาพัฒนารถแข่ง โดยในปีนี้ Ford Performance ตั้งเป้าพิสูจน์ความสามารถของรถบนสมรภูมิสุดโหด ด้วยเส้นทางหลายพัน กม. ผ่านด่านต่างๆ ที่ท้าทาย โดยนักแข่ง และผู้นำทางจะได้ข้อมูลเส้นทางในแต่ละสเตจก่อนเริ่มการแข่งขันเพียงไม่กี่นาที และต้องพึ่งพาเพียงคู่มือเส้นทางและเข็มทิศเท่านั้น
การแข่งขันจบลงอย่างดุเดือดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทีมแข่ง Ford M-Sport นำโดย แมทเทียส เอกสตรอม นักแข่งรถแรลลี่ระดับโลก และเอมิล เบิร์กควิสต์ ผู้นำทางสัญชาติสวีเดนมากประ สบการณ์ คว้าอันดับ 3 Overall ในคลาสส์ Ultimate ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดของการแข่งขัน Dakar Rally มาได้ หลังจากคว้าชัยชนะในด่านสุดท้าย ณ Empty Quarter ในทะเลทรายรุบอุลคอลีอันกว้างใหญ่ ที่เป็นฉากสุดท้ายของการแข่งขันใน 12 สเตจ ขณะที่ มิทช์ กุธรี จูเนียร์ และผู้นำทาง เคลลอน วอลช์ จบการแข่งขันในอันดับที่ 5 Overall
มาร์ค รัชบรูค ผู้อำนวยการทีม Ford Performance กล่าวว่า Dakar Rally เป็นรายการแข่งรถที่มีความท้าทายกว่าการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ทอื่นใด และในปีนี้ ทีมของเราได้พิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ นักแข่งแมทเทียส คาร์ลอส มิทช์ นานี และทีมงานทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถ Ford Raptor T1+ และความแกร่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ford นับเป็นการแข่งขันที่น่าจดจำ และผมภูมิใจในทีมของเราเป็นอย่างมาก เราได้พิสูจน์แล้วว่า รถ Raptor มีสมรรถนะความเร็ว และความทนทานที่จำเป็นในการแข่งขันในสภาพแวดล้อมที่ทรหดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เราพร้อมมุ่งหน้าสู่การแข่ง ขันรายการ FIA World Rally Raid Championship ต่อไป
รถแข่ง Ford Raptor T1+ เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Ford Performance และสำนักแต่ง M-Sport นับเป็นสุดยอดรถ Raptor ทั้งในแง่การออกแบบ และสมรรถนะขั้นสูง เพื่อการแข่งขันในพื้นที่ออฟโรดสุดขั้ว ด้วยระบบส่งกำลังที่ปรับจูนจากเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตร ขุมพลังเดียวกับ Ford Mustang และ F-150 ที่ให้พละกำลังและแรงบิดเต็มพิกัด ช่วงล่างสุดล้ำด้วยระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ และชอคอับจาก Fox พร้อมระยะห่างจากพื้น (Ground Clearance) ถึง 15.7 นิ้ว (เทียบกับ Ranger Raptor ที่ 10.7 นิ้ว) เพื่อการฝ่าฟันทุกเส้นทางที่ท้าทาย
ไมเคิล นอร์ตัน ผู้จัดการโครงการออฟโรดของ Ford Performance กล่าวว่า การแข่ง Dakar Rally เป็นบททดสอบสำคัญที่ใช้พิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านการขับขี่ออฟโรดของ Ford และแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของ Ford Raptor T1+ การแข่งขันสุดหฤโหดนี้ผสานกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Computational Fluid Dynamics (CFD) และเครื่องมือจำลองการแข่งขัน จะเป็นประโยชน์โดย ตรงต่อการพัฒนารถออฟโรดรุ่นต่อไปในอนาคตของ Ford รวมถึงรถคันอื่นๆ ในตระกูล Raptor ด้วย