Volvo ประกาศเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม

วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ประกาศการเติบโตของยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 พร้อมความสำเร็จยอดจำหน่ายรถไฟฟ้าที่ทำสถิติสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 80 % ของยอดขายรวมในปี 2024 เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 24 %

คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด และประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ปี 2024 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้า Fully Electic มีสัดส่วนสูงถึง 80 % ของยอดขายรวม นับว่าเป็นสัดส่วนสูงสุดที่เคยมีมาตั้งแต่ วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ เริ่มจำหน่ายรถไฟฟ้า Fully Electric ในปี 2022 ซึ่งความนิยมของ Volvo EX30 (โวลโว อีเอกซ์ 30) ส่งผลให้รถรุ่นดังกล่าวมีสัดส่วนขอดขายสูงถึง 40 % ตามมาด้วย EC40 (อีซี 40) และ EX40 (อีเอกซ์ 40) ที่มียอดขาย 20 % เท่าๆ กัน

สำหรับรถพลัก-อิน ไฮบริด มีสัดส่วนยอดจำหน่ายรวม 20 % โดยมีรถสไตล์เอสยูวีรุ่นยอดนิยมอย่าง XC60 (เอกซ์ซี 60) และ XC90 (เอกซ์ซี 90) ที่ยังคงสร้างความสนใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในส่วนของรถยนต์มือสอง Volvo Selekt Approved Used Cars ก็มียอดจำหน่ายที่โตขึ้น 9 % เมื่อเทียบกับปี 2023

"เรารู้สึกภูมิใจกับผลลัพธ์ของปีที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนด์ ซึ่งการเดิบโตที่ต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ Volvo และตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และแม้ว่าความท้าทายจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับปี 2025 วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ  คาดว่าตลาดรถยนต์โดยรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 550,000-560,000 คัน ส่วนรถไฟฟ้าน่าจะลดลงนิดหน่อย แต่สำหรับรถไฟฟ้าพรีเมียมน่าจะทรงๆ หรือมีมาร์เกทแชร์อยู่ประมาณ 40 % ส่วน Volvo ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่แบรนด์ของเรา โดยเราตั้งเป้าหมายการเติบโตของปี 2025 ไว้ที่ 5 % เราเชื่อว่าด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า Fully Electric และรถพลัก-อิน ไฮบริด จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคต่อเนื่องต่อไปในอนาคต อีกทั้งความพรีเมียมของแบรนด์ที่ทำให้ Volvo แตกต่าง และเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สานต่อความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม ในปี 2025

ปี 2025 วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ วางเป้าหมายเพื่อสานต่อความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายรถไฟฟ้าในอนาคต 

ไตรมาสแรกวางแผนส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่งสไตล์เอสยูวี รุ่นเรือธง EX90 ให้แก่ลูกค้า ซึ่ง EX90 นำเสนอนิยามบทใหม่ของเทคโนโลยี และมาตรฐานความปลอดภัยของ Volvo โดยเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ชิพในการประมวลผลผ่านการทำงานของซอฟท์แวร์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ความปลอดภัย, การเชื่อมต่อ และข้อมูล บนพแลทฟอร์มที่สามารถอัพเกรดเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้า Fully Electric รวมถึงรถกลุ่มพลัก-อิน ไฮบริด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเท่านั้น

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนเปิดโชว์รูม ศูนย์บริการซ่อมตัวถัง และสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) แห่งใหม่ พร้อมวางแผนการขยายบริการ Volvo Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความนิยมของลูกค้าที่สนใจรับบริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นบริการที่มีความสะดวกสบาย สามารถรับบริการได้จากที่บ้าน หรือสถานที่ที่นัดหมาย ประหยัดเวลาการเดินทางไปที่ศูนย์บริการ พร้อมกันนี้ ยังได้รับความอุ่นใจว่าช่างที่มาให้บริการได้รับการอบรมตามมาตรฐานของ Volvo

วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ยังได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ซ่อม และรีไซเคิลแบทเตอรี รวมถึงเปิดบริการ Smart Repair Service ซึ่งเป็นการบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ Volvo แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ เพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ต้องการนำเสนอให้แก่ผู้เป็นเจ้าของรถ Volvo