ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Aston Martin (แอสตัน มาร์ทิน) เปิดตัวรถแข่งที่เข้าร่วมรายการแข่งขัน 24 ชั่วโมง ที่ Le Mans 2025 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่ได้ส่งรถร่วมการแข่งขันรุ่นสูงสุด
รถแข่ง Valkyrie (วัลคีรี) พัฒนามาจากรถถนนที่ผลิตจำหน่าย แล้วปรับแต่งตามกติกาของคลาสส์ Le Mans Hypercar (LMH) ซึ่งสามารถปรับแต่งได้มากกว่ากติกาของคลาสส์ Le Mans Daytona Hybrid (LMDh)
Valkyrie เป็นรถแข่งเอนดูรานศ์จากทีมเดียวในคลาสส์สูงสุดที่ใช้เครื่องยนต์แบบ วี 12 สูบ ขณะที่รถคู่แข่งทีมอื่นใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ หรือ วี 6 สูบ
นอกจากนั้นยังเป็น 1 ใน 2 ทีมในคลาสส์สูงสุด ที่ใช้เครื่องยนต์หายใจเอง โดยรถแข่งอีกคัน คือ Cadillac V-Series R แบบ วี 8 สูบ
Valkyrie ใช้เครื่องยนต์ Cosworth แบบวี 12 สูบไฮบริด ปรับแต่งเพิ่มความทนทาน เพื่อให้เหมาะสมกับการแข่งที่ใช้เวลายาวนาน
เครื่องยนต์เดิมของ Valkyrie มีกำลังสุทธิ 838 กิโลวัตต์/1,140 แรงม้า ต้องลดกำลังลงเหลือ 500 กิโลวัตต์/680 แรงม้า ตามข้อกำหนดกติกา ได้รับการปรับจูนให้มีการกระจายแรงบิดออกมาอย่างสม่ำเสมอในทุกช่วงของรอบเครื่องยนต์ ทั้งถูกจำกัดรอบเครื่องยนต์ด้วย จึงสามารถปรับอัตราส่วนเชื้อเพลิง และอากาศให้บางลง ช่วยให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลง จึงไม่ต้องเติมน้ำมันมากทุกครั้งที่เข้าพิท เพื่อเปลี่ยนนักขับ รถแข่งจึงแบกน้ำหนักน้อยลง
ตัวถังมาตรฐานของ Valkyrie ถูกออกแบบใหม่ให้สามารถถอดชิ้นส่วนที่เสียหายจากการแข่งขัน และติดตั้งชิ้นส่วนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งปรับรูปทรงชิ้นส่วนเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ รวมถึงครีบท้ายที่โดดเด่นในด้านหลังด้วย ด้านล่างติดตั้งแม่แรงลม เพื่อให้ทีมแข่งเปลี่ยนยางได้รวดเร็ว
ในปีนี้ Aston Martin Valkyrie จะลงแข่งรายการ FIA World Endurance Championship (WEC) และรายการแข่ง US-based IMSA Sportscar Championship
โดยจะส่งรถลงรายการ Le Mans จำนวน 2 คัน ได้แก่ รถแข่งหมายเลข 007 ขับโดยนักแข่งอังกฤษ Harry Tincknell และ Tom Gamble กับรถแข่งหมายเลข 009 ขับโดยนักแข่งชาวเดนมาร์ก Marco Sorensen และ Alex Riberas ชาวสเปน
ทีมแข่ง Heart of Racing จะเป็นผู้ทำทีมให้กับรถแข่งทั้งสองคัน ซึ่งทีมนี้ดูแลรถแข่ง Aston Martin ในการแข่งขันระดับ GT3 อยู่แล้ว