ธุรกิจ
Suzuki ประกาศแผนรุกตลาด ปี 2568
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ Suzuki (ซูซูกิ) ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “Empowering Growth for Sustainable Future ขับเคลื่อนพลังสู่อนาคตที่ยั่งยืน” เปิดเผยแผนกลยุทธ์ทางการตลาดพร้อมการสนับสนุนผู้จำหน่ายเพื่อบรรลุเป้าหมายยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 41 % อีกทั้งแผนยกระดับคุณภาพงานบริการ และอะไหล่ เพื่อรองรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ในปี 2568 พร้อมมอบรางวัล Best Dealer Award 2024
ทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ด้วยสถานการณ์การหดตัวของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ และการแข่งขันที่รุน แรงในประเทศ รวมถึงความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้ารายใหม่ ส่งผลทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ของ Suzuki มีจำนวน 5,654 คัน
สำหรับในปีนี้ Suzuki มีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจเป็นการนำเข้ารถยนต์จากหลากหลายประเทศเข้ามาจำหน่าย จะนำไปสู่การเป็นแบรนด์ที่จำหน่ายรถยนต์ Global Model ในตลาดประเทศไทย ซึ่งยังคงรักษาจุดแข็งในเรื่องความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีให้ลูกค้าได้เลือกใช้งานตามไลฟ์สไตล์ และความต้องการเช่นเดิม ยังมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 2 รุ่น ที่มาพร้อมกับเทค โนโลยี และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้างมากขึ้น คาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้า และสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน รวมถึงเรายังมีแผนที่จะยกระดับงานบริการในทุกด้าน เพื่อดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ และสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า Suzuki ของเราได้ โดยในปีนี้เรามีเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ Suzuki เป็น 8,000 คัน คิดเป็นการเติบโตในอัตราที่เพิ่มขึ้น 41 % เมื่อเที่ยบจากยอดขายในปีทีผ่านมา
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา เราเดินหน้าแผนงานเพื่อยกระดับงานบริการ และอะไหล่ในหลายด้าน ทั้งการแนะนำแคมเปญ “Suzuki Worry Free” ไปจนถึงการเร่งขยายเปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถัง และสีมาตรฐาน Suzuki ซึ่งในปีนี้ เรายังคงพัฒนาการยกระดับงานบริการแบบ S-Solution เพื่อสร้างความมั่นใจในงานบริการแก่ลูกค้าทุกขั้นตอน อีกทั้งเรายังมี Hello Suzuki Application เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ทั้งการนัดหมายเข้ารับบริการ รายงานสถานะการซ่อม ตรวจสอบประวัติการบริการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษมากมาย ด้วยการสะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุงตามระยะอย่างต่อเนื่อง หรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการของซูซูกิทั่วประเทศ เพื่อรองรับกับแผนงานในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดรถยนต์ เน้นย้ำถึงการสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าว่าจะสามารถมอบบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของ Suzuki ได้อย่างแท้จริง
สำหรับแคมเปญ “Suzuki Worry Free” เป็นอีกสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของ Suzuki ได้อย่างแท้จริง ซึ่งรายละเอียดจะประกอบไปด้วย 7 หัวข้อ ดังนี้
1. ฟรี ! ค่าแรงเชคระยะ สูงสุด 3 ปี
• สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้าเชคระยะต่อเนื่องตามกำหนดกับศูนย์บริการรถยนต์ Suzuki ทุกสาขา ฟรี ! ค่าแรงเชคระยะ สูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กม. (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
2. ขยายการรับประกันอะไหล่ และงานบริการ
• อุ่นใจไร้กังวล กับการขยายการรับประกันงานซ่อม และอะไหล่แท้ทุกชิ้น นานถึง 1 ปี หรือ 20,000 กม. (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) จากเดิมที่รับประกันเพียง 3 เดือน หรือ 5,000 กม.
3. บริการพิเศษรถสำรองใช้ระหว่างซ่อม
• รถยนต์ที่อยู่ในระยะรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม. ไร้ความกังวลเรื่องไม่มีรถใช้งานระหว่างซ่อม ด้วยบริการพิเศษ "รถสำรองใช้ระหว่างซ่อม" สำหรับรถยนต์ซูซูกิที่ต้องใช้เวลาตรวจเชคมาก กว่า 1 วัน (ไม่รวมระยะเวลาวิเคราะห์ปัญหา) และไม่รวมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ
4. Hello Suzuki Application ยกระดับงานบริการแบบ S-Solution
• Hello Suzuki คือ แอพพลิเคชัน ที่จะเชื่อมต่อข้อมูลการทำงานกับลูกค้า อำนวยความสะดวกสบาย และความมั่นใจในงานบริการทุกขั้นตอน ทั้งการนัดหมายนำรถเข้ารับบริการ หรือติดต่อสอบ ถามข้อมูล รายงานการการตรวจสอบ และดูแลรถในทุกขั้นตอน รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษมากมาย ด้วยการสะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุงตามระยะอย่างต่อเนื่อง หรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการของซูซูกิทั่วประเทศ
5. ระบบการจัดการอะไหล่ มีเป้าหมายรองรับบริการได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
• การจัดการเตรียมระบบจัดการอะไหล่รถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายภายในประเทศ ช่วยให้ลูกค้าคลายความกังวลเรื่องการขาดแคลนอะไหล่ในการบำรุงรักษารถ เพราะ Suzuki มีคลังอะไหล่ 2 แห่ง ทั้งที่คลังอ่อนนุช กรุงเทพฯ มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 1,216 ตรม. และคลังอะไหล่ จังหวัดระยอง มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 4,076 ตรม. รวมถึงคลังอะไหล่ของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ มีอะไหล่จัดเก็บรวมมากถึง 741,000 ชิ้น โดยมีเป้าหมายรองรับความต้องการของลูกค้าได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการผลิต
• บริการจัดส่งอะไหล่แบบเร่งด่วนภายใน 24 ชม. ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และพื้นที่อื่นๆ ภายใน 48 ชม. คุ้มค่าต่อการใช้งาน ด้วยอะไหล่ในราคาที่เข้าถึงง่าย
6. ศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
• ลูกค้ามั่นใจกับศูนย์บริการ 91 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
7. ศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถังตามมาตรฐานของ Suzuki
• ปัจจุบัน Suzuki มีผู้จำหน่ายที่มีบริการศูนย์ซ่อมตัวถัง และสีตามมาตรฐานของSuzuki ด้วยกันทั้งหมด 41 แห่ง มั่นใจในบริการ และการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพเป็นมิตร และใส่ใจทุกรายละ เอียดการซ่อมโดยช่างผู้มีความชำนาญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการอบรมในการซ่อมรถยนต์ Suzuki
นอกจากการประกาศวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังได้มีการจัดพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในการแข่งขัน "Suzuki Best Dealer Award 2024" ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนพัฒนางานบริการของผู้จำ หน่าย ผ่านการจัดการแข่งขันผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ซึ่งจัดมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 มุ่งหวังจะยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานในทุกด้าน โดยมีรายชื่อผู้ได้รับรางวัล ดังนี้
รางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม 2567 ระดับ Best of The Best
ชื่อผู้จำหน่าย |
ชื่อบริษัทผู้จำหน่าย |
จังหวัด |
รณกฤต ฐิติกฤตานน |
บริษัท ดี โฟร์ คาร์ซิตี้ |
กรุงเทพฯ |
รางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม 2567 ระดับ Platinum Dealer
ชื่อผู้จำหน่าย |
ชื่อบริษัทผู้จำหน่าย |
จังหวัด |
สนาวุธ คลังเจริญพงษ์ภา |
บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) |
นครราชสีมา |
วรปรัชญ์ อุปัติศฤงค์ |
บริษท เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต |
ภูเก็ต |
ชยธร อุเทนพัฒนันท์ |
บริษัท อาร์เฮงวัฒนา จำกัด (สำนักงานใหญ่) |
ขอนแก่น |
ณัฐวุฒิ ชคทิศ |
บริษัท เอ.ซี.ออโตโมบิล(2002) จำกัด (สำนักงานใหญ่) |
สงขลา |
พีรพัฒน์ สิทธิยานุรักษ์ |
บริษัท ซูซูกิ หัวหิน (สิทธิภัณฑ์) จำกัด |
ประจวบคีรีขันธ์ |
ศุภชัย พฤฒิธาดา |
บริษัท ยนต์ตระการ พรีเมียม คาร์ จำกัด |
นนทบุรี |
"Suzuki Best Dealer Award 2024" มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก โดยให้ผู้จำหน่ายที่เข้าแข่งขัน นำเสนอแนวคิดสู่ความสำเร็จของกลยุทธ์ด้านการขาย และการบริการหลังการขาย ไปจนถึงการพัฒ นางานเพื่อยกระดับงานบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น และสามารถผ่านตามเกณฑ์ที่บริษัทฯ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นแนวทางการพัฒนางานเพื่อแข่งขันกับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน และเตรียมพร้อมสู่การแข่งขันในอนาคตอีกด้วย
วัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า Suzuki มีความพยายามอย่างยิ่งในการพัฒนางานบริการหลังการขายเพื่อยกระดับคุณภาพของผู้จำหน่ายรถยนต์ Suzuki ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้จำหน่ายของ Suzuki ทุกรายที่ทุ่มเท และทำงานอย่างหนัก จึงขอให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่า เราจะยังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในทุกด้าน พร้อมส่งมอบสินค้าที่มีความคุ้มค่า คุ้มราคาเหมาะสมกับลูกค้า โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อน และหลังการขายเป็นที่ตั้ง เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเป็นครอบครัวเดียวกันกับ Suzuki
