ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Porsche (โพรเช) กำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างไปจากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ซี่งมองไม่เห็นอนาคตของบริษัท หากเดินหน้าผลิตรถไฟฟ้าตามแผนเดิม จนที่สุดต้องหันมาทบทวนแผนการผลิตโดยชะลอโครงการผลิตรถไฟฟ้าล้วน แล้วให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์สันดาปภายในแทน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะการปรับแผนจะต้องแลกด้วยงบลงทุนมหาศาล
Porsche ได้แสดงตัวเลขด้านการเงินในปีนี้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณไม่น้อย ทั้งการขยายกระบวนการผลิต และพัฒนาเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังไฮบริด ปีนี้ต้องใช้เงินลงทุนถึง 831 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.8 หมื่นล้านบาท) รวมทั้งการพัฒนาแบทเตอรี ซึ่งไม่ได้รวมต้นทุนการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเดียว ส่วนรถไฮบริดต้องพัฒนาแบทเตอรี สำหรับติดตั้งบนพแลทฟอร์มแบบใหม่ของรถไฮบริด
การกลับมาผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในจะทำให้กำไรของบริษัทลดลง คาดว่ากำไรจะเหลือเพียง 10-20 % จากยอดขายที่ทำได้ประมาณ 4.0-4.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.35-1.39 แสนล้านบาท)
ปีที่แล้ว Porsche ประกาศว่า หลังจากปี 2030 จะผลิตเครื่องยนต์ วี 8 สูบ สำหรับ Cayenne (คาเยนน์) และ Panamera (พานาเมรา) ต่อไป ทั้งมีแผนจะผลิตเครื่องยนต์ไฮบริด และเครื่องยนต์สันดาปภายใน สำหรับรถรุ่นใหม่ แทนแผนการผลิตเฉพาะรถไฟฟ้าอย่างเดียว
ส่วนแผนเปิดตัวรถรุ่นต่อไปของ 718 (Boxster และ Cayman) ที่กำหนดไว้ในปี 2568 โดยเปลี่ยนจากรูปแบบเครื่องยนต์วางกลางลำไปเป็นระบบไฟฟ้าล้วน จะมีการผลิตรุ่นเครื่องยนต์ควบคู่ไปด้วยหรือไม่ ทั้งมีข่าวความล่าช้าการเปิดตัวรถไฟฟ้า Cayenne EV เนื่องจากความไม่แน่นอนของแผนเปิดตัวในปี 2569 ส่วนรถไฟฟ้า Macan ซึ่งติดอันดับ Porsche ที่ขายดีที่สุด ในรุ่นใหม่อาจจะมีเครื่องยนต์สันดาปภายในให้เลือกด้วย