ธุรกิจ
J.D. Power เผยผลศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในไทยพบปัญหาเพิ่มขึ้น

พบผู้ใช้รถยนต์ในไทยรายงานปัญหาคุณภาพรถเพิ่มขึ้นในปีนี้ (89 % เทียบกับ 81 % ในปี 2566) โดยระบบอินโฟเทนเมนท์มีอัตราการพบปัญหาสูงสุด ชี้ให้เห็นความจำเป็นในการปรับปรุงคุณภาพรถ ยนต์, ตามรายงานผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยปี 2568 (J.D. Power 2025 Thailand Initial Quality StudySM (IQS)
จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทย การศึกษานี้จึงได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ครอบคลุมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEVs) และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) และเจ้าของรถยนต์ทั่วไป (เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือไฮบริด) รายงานปัญหาคุณภาพในระดับใกล้เคียงกัน โดยเจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) รายงาน 179 ปัญหา/รถ 100 คัน (PP100) ส่วนเจ้าของรถทั่วไปมีระดับปัญหาที่ 177 ( PP100 ) เจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) พบปัญหามากกว่าในหมวดระบบปรับอากาศ และอินโฟเทนเมนท์ ขณะที่เจ้าของรถทั่วไปพบปัญหามากกว่าที่เบาะนั่ง, ตัวถังภายนอกรถยนต์ และภายในห้องโดยสาร คะแนน PP100 ที่ต่ำกว่าบ่งชี้ถึงปัญหาที่น้อยกว่า หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ระดับคุณภาพรถที่สูงกว่า
ไชยวัฒน์ เกษาพร ผู้จัดการโครงการอาวุโส และหัวหน้านักวิเคราะห์จาก Differential ประเทศไทย กล่าวว่า ผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยปี 2568 (J.D. Power 2025 Thailand IQS)-ฉบับที่ 1 นี้ อ้างอิงจากการตอบแบบสอบถามของเจ้าของรถใหม่จำนวน 4,721 ราย ซึ่งซื้อรถระหว่างเดือนมิถุนายน 2567-มกราคม 2568 โดยทำการสำรวจภาคสนามระหว่างเดือนธันวาคม 2567-กุมภาพันธ์ 2568 ใน 22 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ ครอบคลุมรถยนต์ 55 รุ่นจาก 14 แบรนด์ โดยจัดอันดับจากจำนวนปัญหา/รถยนต์ 100 คัน (PP100) ซึ่งคะแนนน้อยแสดงถึงคุณภาพที่ดีกว่า สำ หรับผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยปี 2568 (J.D. Power 2025 Thailand IQS)-ฉบับที่ 2 จะเผยแพร่ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
เจ้าของรถรุ่นใหม่มักเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถืออย่างใกล้ชิด และถือเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน ดังนั้น พวกเขาจึงคาดหวังการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อเมื่อขึ้น และลงจากรถ อย่างไรก็ตาม ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่นำเสนอในรถยนต์รุ่นปัจจุบันยังคงเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากผู้ใช้มักประสบปัญหาการเชื่อมต่อบลูทูธ, ช่องจ่ายไฟ/ชาร์จไฟสำหรับอุปกรณ์พกพาไม่เพียงพอ, ความเร็วในการชาร์จช้า และหน้าจอสัมผัสที่ไม่ตอบสนอง
รุ่นรถที่ได้อันดับสูงสุดในด้านคุณภาพ
Toyota Yaris Ativ (โตโยตา ยารีส เอทีฟ) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (Compact Car) 166 PP100
Honda City E-HEV Hatchback (ฮอนดา ซิที อี:เอชอีวี แฮทช์แบค) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (Entry Midsize Car) 167 PP100
Toyota Yaris Cross (โตโยตา ยารีส ครอสส์) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก (Compact SUV) 165 PP100
Toyota Fortuner (โตโยตา ฟอร์จูเนอร์) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ (Large SUV) 170 PP100
Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) 178 PP100
Isuzu D-Max Spark (อีซูซุ ดี-แมกซ์ สปาร์ค) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะตอนเดียว (Pickup Single Cab) 173 PP100
Toyota Hilux Reco Prerunner Smart Cab (โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว พรีรันเนอร์ สมาร์ทแคบ) และ Toyota Hilux Revo Smart Cab (โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว สมาร์ทแคบ) ได้อันดับสูงสุดเท่ากันในกลุ่มรถกระบะตอนขยาย (Pickup Extended Cab) 188 PP100
Mitsubishi Triton Plus Double Cab (มิตซูบิชิ ทไรทัน พลัส ดับเบิลแคบ) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู (Pickup Double Cab) 165 PP100
BYD Dolphin (บีวายดี ดอลฟิน) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV Car) 167 PP100
BYD Atto 3 (บีวายดี อัตโต 3) ได้อันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงพลังงานใหม่ (NEV SUV) 180 PP100
อัตสึชิ คาวาฮาชิ ผู้อำนวยการอาวุโสของ J.D. Power ประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า การวัดคุณภาพของรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดเดิม และผู้เล่นหน้าใหม่ในกลุ่ม NEV ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และเสริมสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ ด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อปรับปรุงคุณภาพอย่างทันท่วงที จะช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์สามารถสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพิ่มมูลค่าขายต่อ ลดต้นทุนการรับประกัน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ของไทยได้
การศึกษานี้จัดทำร่วมกับ ดิฟเฟอเรนเชียล โดยวัดปัญหาที่พบใน 10 ประเภทปัญหาคุณภาพสำหรับรถเครื่องยนต์สันดาปภาพใน (ICE), ไฮบริด (HEV, PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) โดยมีประเภทของปัญหาคุณภาพดังนี้: ระบบปรับอากาศ, ระบบช่วยขับ, ประสบการณ์ในการขับขี่, ภายนอกรถ, เครื่องยนต์/มอเตอร์ และระบบส่งกำลัง, ฟีเจอร์/ปุ่มควบคุม/หน้าจอ, อินโฟเทนเมนท์, ภายในรถ และเบาะนั่ง สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) จะมีหมวดแบทเตอรี และการชาร์จเพิ่มเข้ามาอีกหมวด
ผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยปี 2568 (J.D. Power 2025 Thailand IQS)-ฉบับที่ 1 นี้ อ้างอิงจากการตอบแบบสอบถามของเจ้าของรถใหม่จำนวน 4,721 ราย ซึ่งซื้อรถระหว่างเดือนมิถุนายน 2567-มกราคม 2568 โดยทำการสำรวจภาคสนามระหว่างเดือนธันวาคม 2567-กุมภาพันธ์ 2568 ใน 22 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ ครอบคลุมรถยนต์ 55 รุ่นจาก 14 แบรนด์ โดยจัดอันดับจากจำนวนปัญหา/รถยนต์ 100 คัน (PP100) ซึ่งคะแนนน้อยแสดงถึงคุณภาพที่ดีกว่า สำหรับผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยปี 2568 (J.D. Power 2025 Thailand IQS)-ฉบับที่ 2 จะเผยแพร่ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้