บทความ
Giamaro Katla ไฮเพอร์คาร์น้องใหม่ที่หลายคนต้องจับตา

Giamaro Automobili บริษัทรถยนต์ในเมือง Cavezzo เมืองเล็กๆ ในแคว้น Emilia-Romagna เดิมทีโรงงานที่เคยผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ จนกระทั่งในปี 2021 บริษัทได้พลิกธุรกิจครั้งใหญ่ด้วยการพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูง Katla ไฮเพอร์คาร์คันแรก เพื่อมาเป็นผู้ท้าชิงรายใหม่บนโลกแห่งความเร็วHighlight
Giamaro ตัวอักษรสามตัวแรกของชื่อผู้ก่อตั้ง สีของโลโกซึ่งเป็นสีเหลือง และสีน้ำเงินแบบ G ที่ใช้เทคนิคพิเศษนั้น เป็นสีของเมือง Modena สำนักงานใหญ่อยู่ใน Motor Valley สถานที่ต้นกำเนิดรถยนต์อันโด่งดังหลากหลายรุ่นของอิตาลี ทั้ง Ferrari, Lamborghini และ Pagani
บริษัท Giamaro Automobili ก่อตั้งโดย Giacomo Commendatore และ Pierfrancesco Commendatore ครอบครัวมหาเศรษฐีในแคว้น Emilia-Romagna ใน Italy ซึ่งมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้ทรงอิทธิพล เจ้าของแบรนด์ธุรกิจระดับโลก รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์อิตาลีระดับสูงหลายค่าย และเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายแรกที่ช่วยให้ Horacio Pagani นำรถยนต์ของเขาออกสู่สายตาชาวโลกอย่าง Pagani Zonda อีกด้วย
Giamaro มีบุคลากรที่มีความสามารถมากมายโดยเฉพาะ Alessandro Camorali นักออกแบบรถค่ายดังอย่าง Ferrari, Pininfarina และ Bertone รวมถึง Loris bicocchi สุดยอดนักแข่งรถและนักทดสอบรถของ Giamaro ที่เคยขับทำสถิติโลกกับ Bugatti EB110, Bugatti Veyron, Pagani Zonda และ Koenigsegg CCR รวมไปถึงซัพพลายเออร์ที่จะทำให้ความฝันของครอบครัว Commendatores กลายเป็นจริง
Katla เป็นภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ที่ปกคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็ง Mýrdalsjökull ทางตอนใต้ของประเทศ ภูเขาไฟแห่งนี้มีความสูงมากกว่า 1,500 เมตร และยังคงปะทุอยู่ ถึงแม้ว่าการปะทุครั้งสุดท้ายที่ทราบจะเกิดขึ้นในปี 1918 ก็ตาม รถคันนี้ตั้งตามชื่อภูเขาไฟ แสดงถึงความดุดัน และรุนแรงที่พร้อมประทุได้เสมอ
พื้นฐานตัวรถ Katla ออกแบบมาจาก Monocoque Carbonfiber ซึ่งค่อนข้างผิดปกติตรงที่ไม่มีซับเฟรมด้านหลังแยกต่างหาก สำหรับระบบกันสะเทือน ในแง่ของขนาดมิติภายนอกมีความยาว 4,791 มิลลิเมตร, สูง 1,188 มิลลิเมตร, กว้าง 2,027 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.33 Cd และรถคันนี้น้ำหนักเพียง 3,200 ปอนด์ หรือ 1.45 ตันเท่านั้น พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่รอบคัน
ภายในแรงบันดาลใจตกแต่งมาจากเครื่องบินรบ เน้นเข้าหาผู้ใช้งานเป็นหลัก ทั้งหนัง Alcantara, วัสดุ Carbonfiber และชิ้นส่วนอลูมิเนียม CNC น้ำหนักเบาทุกรายละเอียดของตัวรถสามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ระบบกันสะเทือนสวยงามด้วยปีกนกคู่อลูมิเนียมที่กลึงด้วยอลูมิเนียม CNC รอบคัน และสปริงขดด้านในพร้อมชอคอับแบบปรับได้ Giamaro ยังใช้สปริงยกซึ่งช่วยควบคุมการเคลื่อนที่ในแนวตั้งของตัวถังได้ สามารถปรับด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ ซึ่งเราไม่เคยเห็นมาก่อนในรถยนต์ที่ใช้บนท้องถนน
Giamaro มีพันธมิตรอยู่หลายราย หนึ่งในบริษัทรายใหญ่ที่สำคัญที่สุด คือ Bridgestone ซึ่งกำลังทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาชุดยาง Potenza Sport แบบพิเศษที่มีขนาด 265/35ZR20 ที่ล้อหน้า และ 345/30ZR21 ที่ล้อหลัง เพื่อรองรับกำลังรถที่มหาศาลของพวกเขา
เครื่องยนต์ยังคงเป็นจุดเด่นที่ Giamaro มีชื่อเสียง โดยพัฒนาร่วมกับบริษัทวิศวกรรม Italtecnica ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่โรงงานในเมือง Turin มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ที่ปรับแต่งใหม่หลายรุ่น เช่น Kimero EVO37 และ Porsche 928 Restomod โดย Nardone Automotives
สิ่งที่พวกเขาทำนั้นเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่น่าทึ่ง เพราะในวงการไฮเพอร์คาร์รุ่นใหม่นั้นใช้ระบบไฮบริดเกือบทั้งหมดแล้ว แต่ Giamaro เลือกใช้เครื่องยนต์ที่บ้าระห่ำที่สุดรุ่นหนึ่งที่เราเคยเห็นมา โดยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 7.0 ลิตร เรียงแบบ Hot-Vee โดยมีเทอร์โบ 4 ตัวจัดเรียงในรูปแบบตั้งฉาก 120 องศา แบบ Hot-Vee ซึ่งช่วยในการตอบสนองของคันเร่ง พร้อมเทอร์โบช่วยให้ไร้รอยต่อ ให้กำลังมหาศาลถึง 2,157 แรงม้า แรงบิด 1,556 นิวทันเมตร ไม่เพียงเท่านั้นยังเพิ่มความดิบกับระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะ และส่งกำลังไปยังระบบขับเคลื่อนเพียง 2 ล้อหลังเท่านั้น
Giamaro Katla จะมีกุญแจสามดอก ซึ่งแต่ละดอกจะทำงานสอดคล้องกับระดับพลังงานที่แตกต่างกัน กุญแจสีขาวเป็นเหมือนกุญแจลอกรถ ซึ่งจำกัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ที่ 394 ถึง 789 แรงม้า กุญแจสีดำสำหรับการใช้งานประจำวัน ซึ่งจำกัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ที่ 1,647 แรงม้า และสุดท้ายกุญแจสีแดง จะเป็นกุญแจปลดลอกศักยภาพพละกำลังทั้งหมด
บริษัทมีแผนที่จะสร้างรถคันแรกในศูนย์วิจัย และพัฒนา Cavezzo และยังได้ซื้อที่ดินใน Castlefranco Emilia ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมือง Modena และ Bologna เพื่อสร้างโรงงานที่ใหญ่กว่า และมีประสิทธิภาพกว่าภายในไม่กี่ปีจากนี้
สำหรับปีแรกของการผลิต มีแผนที่จะผลิต Katla อยู่ที่ 30 คัน/ปี และมีรถรุ่นอื่นๆ อีกหลายรายการในแผนการผลิต ราคาในตอนนี้ยังไม่ระบุอย่างเป็นทางการ แต่อาจจะสนนราคาอยู่ที่ 2.8 ล้านยูโร (ไม่รวมภาษี) แน่นอนว่ามี Katla รุ่นเปิดประทุน รวมถึงในอนาคตกำลังจะมี Katla รุ่นของเกียร์อัตโนมัติ 11 จังหวะ เป็นครั้งแรกในโลกตามมา และที่น่าสนใจกว่านั้น คือ Giamaro Albor ซึ่งเป็นรถคูเป 2 ประตูขับเคลื่อนล้อหลังแบบยกสูง มีแผนการผลิตจะขยายไปจนถึงปี 2030 เป็นบริษัทน้องใหม่ที่วางแผนได้อนาคตไกลไม่น้อย ด้วยศักยภาพ และนวัตกรรมใหม่ เพิ่มความต้องการให้กลุ่มลูกค้าเฉพาะเป็นผู้ผลิตที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว