ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Lanzante 95-59 ซูเพอร์คาร์ที่สร้างขึ้นด้วยแนวคิดของ McLaren F1 ที่มีห้องโดยสารแบบ 3 ที่นั่ง และในปัจจุบันได้รับความนิยมนำไปสร้างซูเพอร์คาร์ ไม่ว่าจะเป็น McLaren Speedtail ที่มีความเร็วสูงสุด 250 ไมล์/ชม. (402 กม./ชม.) ผลิตขึ้นเพียง 106 คัน จากนั้น Girdon Murray (อดีตหัวหน้าทีมออกแบบ Mclaren F1) นำสไตล์การออกแบบของเขา กลับมาใช้ในการผลิต GMA T.50 ซึ่งมีแนวคิดของรถ F1 ในอดีต ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซินแบบ วี 12 สูบ ไม่มีระบบอัดอากาศ จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
Lanzante บริษัทสัญชาติประเทศอังกฤษ มีความชำนาญเป็นพิเศษด้านการเซอร์วิส บูรณะรถหายาก และรถสมรรถนะสูง คลุกคลีอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ทอย่างยาวนาน เคยสร้างชื่อเสียงโดยบริหารทีมแข่ง Kokusai Kaihatsu Racing Team จนคว้าตำแหน่งแชมพ์โอเวอร์ออลล์จากการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans ฤดูกาล 1995 ด้วยรถแข่ง McLaren F1 GTR สีดำ จึงเลือกใช้ชื่อรุ่น 95-59 เพื่อยกย่องความสำเร็จครั้งนั้น และนำมาใช้กับผลงานชิ้นแรกของบริษัท ส่วนโลโกของบริษัทใช้รูปพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ และศิลปะวิทยาการของฮินดู
Lanzante 95-59 ใช้พแลทฟอร์มของ McLaren รุ่นปัจจุบัน สังเกตได้จากแนวเส้นหลังคาของ McLaren 750S โดย Lanzante นำมาสร้างชิ้นส่วนตัวรถใหม่ ตั้งแต่ด้านหน้ารถ ที่ออกแบบให้มีแนวเส้นนุ่มนวล และพิถีพิถันขึ้น ส่วนโค้งของบังโคลนหน้าต่อเนื่องกับขอบล่างต่ำของกระจกข้าง ท้ายรถติดตั้งปีกดักลมแบบปรับได้ ด้านล่างมีชุดไฟท้ายทรงตัวซี และท่อไอเสียออกช่องกลาง
ชิ้นส่วนตัวรถทั้งหมดขึ้นรูปจากคาร์บอนไฟเบอร์ ควบคุมให้มีน้ำหนักรถพร้อมขับ (ไม่รวมคนขับ) 2,700 ปอนด์ (1,224 กก.) ใช้ขุมพลัง McLaren เครื่องยนต์ วี 8 สูบ ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ โดย Lanzante ปรับแต่งจนได้กำลังสุทธิ 625 กิโลวัตต์/850 แรงม้า น้ำหนักตัวรถประมาณ 3,200 ปอนด์ (1,451 กิโลกรัม) ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง
Lanzante ยังไม่เปิดเผยภายในห้องโดยสาร แต่จากภาพพอสังเกตเห็นเบาะ 3 ที่นั่ง ในห้องโดยสาร ส่วนชื่อรุ่น 95-59 นั้น อ้างอิงจากหมายเลขปีที่เข้าร่วมการแข่งขัน (1995) และหมายเลขรถที่คว้าแชมพ์ (59) บริษัทมีแผนผลิต Lanzante 95-59 จำนวน 59 คัน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32.44 ล้านบาท)