Avatr 07 เอสยูวีไฟฟ้าหรู เน้นความพรีเมียม เตรียมเปิดตัว MOTOR EXPO 2025

Changan (ฉางอัน) เปิดตัว Avatr 07 (อวาทาร์ 07) ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีไฟฟ้าหรู รุ่นที่ 2 ต่อจาก Avatr 11 ที่ทำตลาดในประเทศไทยมาก่อนหน้านี้ โดย Avatr 07 ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสบาย คุณภาพ และการเดินทาง

ด้วยการผสานดีไซจ์นระดับเฟิร์สต์คลาสส์ ทั้ง 3 แบบ ได้แก่ ออกแบบภายนอกแบบยุโรป (First-Class Euro Gene Design), ภายในหรูระดับเฟิร์สต์คลาสส์ (First-Class Urban Luxury Cabin) และการขับขี่ที่เหนือระดับ (First-Class Confident Driving) ทั้งหมดนี้ถูกรวมไว้ภายใต้เทคโนโลยีล้ำสมัย ภายใต้แนวคิด “Smart Elegance, Effortless Luxury : อัจริยะแห่งความเรียบหรู” โดยมาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Avatr 07 Max และ Avatr 07 Ultra AWD

1. การออกแบบแบบยุโรป ระดับเฟิร์สต์คลาสส์ (First-Class Euro Gene Design)

Avatr 07 ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความหรูหราระดับเฟิร์สต์คลาสส์ ด้วยสัดส่วนตัวถัง และเส้นสายแบบประติมากรรม ที่สะท้อนความสง่างามในทุกมิติ ภายใต้ปรัชญา New Emotive Luxury จากทีมออกแบบยุโรป นำโดย Chief Design Officer “Nader” ที่เชื่อว่าความหรูหรา คือ ศิลปะแห่งความพอดี การันตีด้วยรางวัลระดับโลกอย่าง iF Design Award 2025 และ IDA Gold Prize 2024

ตัวถังเอสยูวีหรู โดดเด่นด้วยฐานล้อยาวที่สุดในคลาสส์ (2,940 มม.) ผสานเทคโนโลยีดีไซจ์นล้ำสมัย เช่น กระจกมองข้างดิจิทอล Ultra-Clear Electronic Side Mirror และกระจังหน้า Intelligent Active Airflow Grille พร้อมเอกลักษณ์ไฟหน้าที่ส่องสว่างชัดเจน และมีมิติ

ด้านสีภายนอกสะท้อนแรงบันดาลใจจากธรรมชาติใน 4 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ Damson Metallic (สีม่วง), Mineral Rock Black (สีดำ), Andes Grey (สีเทา) และ Cotton White (สีขาว) เคลือบด้วยโครงสร้าง 8 ชั้นระดับกระจกเงาเหนือมาตรฐาน ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบด้วยความประณีต เพื่อให้ Avatr 07 เป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปะ และเทคโนโลยี 

2. ห้องโดยสารหรูระดับเฟิร์สต์คลาสส์ (First-Class Urban Luxury Cabin)

Avatr 07 ถ่ายทอดแนวคิด “Embrace All Your Emotion โอบรับทุกอารมณ์ของคุณ” ผ่านห้องโดยสารหรูระดับเฟิร์สต์คลาสส์ที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม “Futuristic Embracing Cabin” ให้ความรู้สึกโอบล้อมปลอดภัย ผสานระบบไฟ “Emotive Streaming Lighting” ยาวเกือบ 3 เมตร และวัสดุนุ่มระดับพรีเมียมกว่า 10 ตร.ม. ตามแนวคิด “Softness Within Reach” ที่เน้นความอบอุ่น และเข้าถึงได้

วัสดุนุ่มสัมผัสครอบคลุมของห้องโดยสาร พร้อมเบาะหนังแท้ Nappa เคลือบเงาแบบ “Pearl-like Shimmer” ภายในเลือกได้ 2 โทนสีหรู ได้แก่ Tinted Shadows (ม่วงเข้ม) และ Glacier Caramel (ขาวน้ำตาล) สะท้อนบุคลิกแตกต่างของผู้ขับแต่ละคน 

ห้องโดยสารล้ำยุคด้วยระบบเชื่อมโยงไร้รอยต่อรวม 5 หน้าจอ ครอบคลุมจอพาโนรามา 35.4 นิ้ว 4K, จอสัมผัสกลาง 15.6 นิ้ว 2K, กระจกมองข้างดิจิทอลคู่ 6.7 นิ้ว และจอควบคุมที่พนักวางแขนหลังสุดพิเศษ ผสานเข้ากับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ AVATRLink ที่สามารถควบคุมผ่านแทบเลท Android/iOS

เบาะหน้าแบบ Zero Gravity ปรับเอนได้ถึง 120° พร้อมระบบนวด 5 โหมด แรง 3 ระดับ และปรับได้ 16 ทิศทาง ขณะที่เบาะหลังแบบ Executive มาพร้อมจอควบคุมไฟฟ้า และม่านบังแดด สามารถพับราบเป็นเตียงกว้าง 3 ตร.ม.

ระบบเสียง Meridian Premium Sound System 25 ลำโพง 2016W มอบมิติเสียงรอบทิศทาง 7.1.4 เสริมด้วยระบบน้ำหอม 6 กลิ่นพรีเมียม และไฟ Ambient Lighting เปลี่ยนแสงตามอารมณ์ สร้างบรรยากาศอบอุ่นเหนือระดับ 

ห้องโดยสารเงียบสงบด้วยเทคโนโลยี “720° Full-Range Acoustic Package” ที่ใช้จุดดูดซับเสียง 133 และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางที่สุดในคลาสส์ ยาว 3,119 มม. พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 90 ลิตรด้านหน้า และ 500 ลิตรด้านหลัง เพื่อมอบประสบการณ์แห่งความหรูหรา สงบ และสะดวกสบายเหนือระดับในทุกมิติ

3. ความสบายของการขับขี่ระดับ First-Class  

Avatr 07 มอบความมั่นใจในการขับขี่ด้วยช่วงล่างสปอร์ทคุณภาพสูง โครงสร้างแมกนีเซียม-อลูมิเนียมที่แข็งแรง แต่น้ำหนักเบาลงกว่า 35.4 กก. ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ และหลังแบบมัลทิลิงค์

พร้อมระบบกันสะเทือนถุงลมอัจฉริยะ “Magic Carpet” ที่ปรับระดับได้ 60 มม. (+30 ถึง -30 มม.) ครอบคลุมโหมด High, Medium, Low และ Adaptive และมีฟังค์ชันพิเศษ เช่น การปรับระดับอัตโนมัติตามความเร็ว โหมดบรรทุกของ และโหมดปรับระดับอัตโนมัติเมื่อตัวรถหยุดนิ่ง (ยืด-ยุบสูงสุด 125 มม.) เพื่อให้ห้องโดยสารคงระดับสมดุลแม้อยู่บนพื้นที่ไม่เรียบ

ผสานระบบชอคอับไฟฟ้า CDC Electronic Dampers ที่ปรับแรงหน่วงได้ 100 ครั้ง/วินาที ตอบสนองในระดับมิลลิวินาที ดูดซับแรงกระแทก และควบคุมอาการโคลงได้อย่างชาญฉลาด พร้อมระบบเบรคไฟฟ้า Continental MK C2+iCST2.0 ที่ให้แรงเบรคแม่นยำ และนุ่มนวล นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมเข้าโค้งอัจฉริยะ iGVC (Intelligent Vector Control) และ iSTC (Intelligent Steering Torque Control) ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ และควบคุมทิศทางแม่นยำอีกด้วย

ด้านขุมพลัง มาพร้อมแบทเตอรี CATL ขนาด 82.16 กิโลวัตต์ชั่วโมง และพแลทฟอร์ม 800V SiC รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี Cell-to-Vehicle (CTV) เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง และลดน้ำหนักตัวรถ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.9 วินาที และรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ทำได้ใน 6.8 วินาที พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP68 ปลอดภัยในระดับสูงสุด

โครงสร้างตัวถังอลูมิเนียม-เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงกว่า 90 % พร้อมแชสซีส์ 2 ชั้นดูดซับแรงชนได้มากขึ้น และถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ADAS ประกอบด้วยเซนเซอร์ 24 ตัว (เรดาร์ กล้อง และอุลทราโซนิค) ประมวลผลสูงสุด 200 TOPS รองรับระบบรักษาเลน (LCC), ระบบจอดอัตโนมัติ และควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน, ระบบนำทาง Petal Map พร้อมแนะนำจุดชาร์จอัตโนมัติ และการอัพเดทซอฟท์แวร์ระยะไกล (OTA) เพื่อให้ Avatr 07 เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และเหนือระดับที่สุดในคลาสส์

ข้อมูลทางเทคนิคของ Avatr 07

ขนาด

- ยาวxกว้างxสูง (มม.) : 4,825x1,980x1,620

- ฐานล้อ (มม.)              : 2,940

- ระยะห่างจากพื้น (มม.) : 166 (Max)/155 (Ultra AWD)

- ขนาดล้อ                     : 20 นิ้ว Agile wheel (Max)/21 นิ้ว Multi-Spokes Sport wheel (Ultra AWD)

- ขนาดยาง                    : 255/50 R20 (Max) และ 265/45 R21 (Ultra AWD)

- จำนวนที่นั่ง : 5

- น้ำหนักตัวรถ (กก.)       : 2,290 (Max) และ 2,420 (Ultra AWD)

สมรรถนะ

- กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์/แรงม้า)                  : 252/337.94 (Max) และ 440/590 (Ultra AWD)

- แรงบิดสูงสุด (นิวทันเมตร)          : 365 (Max)/645 (Ultra AWD)

- ระยะทางไฟฟ้า (NEDC) (กม.)        : 575 (Max) และ 545 (Ultra AWD)

- เวลาเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)     : 6.8 (Max)/3.9 (Ultra AWD)

- ความจุแบทเตอรี (กิโลวัตต์ชั่วโมง) : 82.16

- การขับเคลื่อน                                : การขับเคลื่อนล้อหลัง/การขับเคลื่อนล้อหน้า และหลัง

- ประเภทแบทเตอรี                           : Lithium Iron Phosphate (LFP)

- ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.)                  : 200

Avatr 07 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศราคาจำหน่าย ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42" หรือ MOTOR EXPO 2025 ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 นี้