ธุรกิจ
ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถเดือน พย. 68 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.06
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยสถิติการผลิตถรยนต์เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 130,222 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.06 แบ่งเป็นผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้า 9,624 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,974.14 ผลิตรถกระบะไฟฟ้า 66 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 ขาย 51,044 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.65 ขายรถยนต์นั่งไฟฟ้า (BEV) 10,569 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 91.50 ขายรถกระบะไฟฟ้า 74 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 ส่งออก 78,692 คัน ลดลงร้อยละ 12.22 ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้า 2,830 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 ส่งออกรถกระบะไฟฟ้า 45 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีทั้งสิ้น 130,222 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 4.03 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 11.06 จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57.49 เพราะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยในอัตรา 1.5 เท่าของยอดรถไฟฟ้านำเข้ามาจำหน่ายในปี 2565-2566 ที่ยังผลิตไม่ครบในปีที่แล้ว ส่งผลให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1,974.14 และผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.34 จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.31
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,341,714 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.64
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 52,887 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 16.26
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 20,892 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 27.65
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 9,624 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1,974.14
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 437 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 13.21
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 21,934 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 39.13
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 มีจำนวน 504,597 คัน เท่ากับร้อยละ 37.82 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.90
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 229,719 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 30.56
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 60,200 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 609.07
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 16,921 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 210.31
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 197,757 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 13.04
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ไม่มีการผลิต
รถยนต์บรรทุก เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 77,335 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 7.77 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 837,117 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 0.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ทั้งหมด 76,022 คัน เพิ่มขึ้นจจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 7.34 และ
ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 827,446 คัน เท่ากับร้อยละ 62.39 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 0.13
• รถกระบะบรรทุก 129,036 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.52
• รถกระบะ Double Cab 527,950 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 3.33
• รถกระบะ Double Cab BEV 321 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 100
• รถกระบะ PPV 170,139 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 12.40
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 1,313 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 40.13 รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 9,671 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 39.12
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 71,589 คัน เท่ากับร้อยละ 54.97 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 10.54 ส่วนเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 862,886 คัน เท่ากับร้อยละ 64.31 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.39
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตเพื่อการส่งออก 16,818 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 29.71 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 192,314 คัน เท่ากับร้อยละ 38.11 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลงจากเดือนมกราค-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 31.50
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 54,771 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.36 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 670,572 คัน เท่ากับร้อยละ 80.10 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.42
• รถกระบะบรรทุก 70,321 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 25.41
• รถกระบะ Double Cab 473,223 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.17
• รถกระบะ PPV 127,028 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 4.62
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 58,633 คัน เท่ากับร้อยละ 45.03 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 57.49 และเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 478,828 คัน เท่ากับร้อยละ 35.69 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 13.42
รถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 36,069 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 67.25 และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 312,283 คัน เท่ากับร้อยละ 61.89 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.69
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2568 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 21,251 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 44.31 และตั้งแต่เดือนมกราค,-พฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 156,874 คัน เท่ากับร้อยละ 18.74 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.25
• รถกระบะบรรทุก 58,715 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 21.66
• รถกระบะ Double Cab 55,048 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 11.84
• รถกระบะ PPV 43,111 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 43.95
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตันขึ้นไป ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ไม่มีการผลิต
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 1,313 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 40.13 รวมเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ผลิตได้ 9,671 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 39.12
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤศจิกายน 2568 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 199,640 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 3.15 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 146,167 คัน ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 1.33 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 53,473 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 17.79
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,268,275 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 2.00 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,811,598 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 4.50 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 456,677 คัน ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 6.85
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 51,044 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 8.53 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 20.65 จากรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่ขายได้เพิ่มขึ้นเพราะราคาจับต้องได้มากขึ้น และจากรถกระบะดัดแปลง PPV ที่บางบริษัทเพิ่งขายในปีนี้ รถกระบะไฟฟ้า และรถกระบะไฟฟ้าเพิ่มระยะทางที่เริ่มขายในปีนี้ รวมทั้งหลักฐานการเงินของผู้ซื้อรถกระบะแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ยอดขายรถกระบะไม่ลดลงเป็นเดือนแรก ขอขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทยที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงซึ่งจะส่งผลลดภาระให้ผู้เช่าซื้อ และผู้มีหนี้ลง ชำระคืนเงินต้นได้มากขึ้น มีเงินเหลือไปจับจ่ายซื้อสินค้าจำเป็นอื่นๆ ได้มาตรฐาน โรงงานผลิตมากขึ้น จ้างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น เป็นการเริ่มต้นสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นเสียที
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 33,300 คัน เท่ากับร้อยละ 65.24 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 31.02
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 10,446 คัน เท่ากับร้อยละ 20.46 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 12.99
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 10,569 คัน เท่ากับร้อยละ 20.71 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 91.50
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 584 คัน เท่ากับร้อยละ 1.14 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 161.88
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) 73 คัน เท่ากับร้อยละ 0.14 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 11,628 คัน เท่ากับร้อยละ 22.78 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 53.02
รถกระบะ มีจำนวน 11,502 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 0.18 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 74 ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 4 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 3,646 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 23.43 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 1,419 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 20.15 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,099 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 18.35
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 128,430 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2567 ร้อยละ 3.95 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.00
ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 รถยนต์มียอดขาย 546,045 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 5.28 แยกเป็น
รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 352,689 คัน เท่ากับร้อยละ 64.59 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.90
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 117,043 คัน เท่ากับร้อยละ 21.43 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 9.58
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 100,553 คัน เท่ากับร้อยละ 18.41 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 63.65
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 8,020 คัน เท่ากับร้อยละ 1.47 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 281.18
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) 721 คัน เท่ากับร้อยละ 0.13 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 126,352 คัน เท่ากับร้อยละ 23.14 ของยอดขายรถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.84
รถกระบะ มีจำนวน 128,189 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.93 รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 646 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 17 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 38,456 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 18.88 รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 13,749 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 6.87 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 12,299 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 5.09
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,557,482 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.22
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งออกได้ 78,692 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 5.26 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 12.22 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในบางรุ่นเพื่อส่งออก ส่งผลให้ส่งออกรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภานในลดลงถึงร้อยละ 43.53 และส่งออกรถกระบะลดลงร้อยละ 6.39 แต่ยังคงส่งออกรถกระบะไฟฟ้า และรถยนต์นั่งไฟฟ้าต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี ตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นมีแค่เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย เท่านั้น และชิ้นส่วนรถยนต์ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.19
ประเภทรถยนต์ส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2568 แบ่งเป็น
• รถกระบะ 44,235 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 56.21 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 6.39
• รถกระบะ BEV 45 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.06 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง ICE 15,064 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 19.14 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 43.53
• รถยนต์นั่ง BEV 2,830 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 3.60 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออกรถยนต์นั่ง BEV
• รถยนต์นั่ง PHEV 89 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.11 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออกรถยนต์นั่ง PHEV
• รถยนต์นั่ง HEV 4,780 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 6.07 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 33.26
• รถ PPV 11,649 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.80 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 3.94
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 52,219.97 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 9.90 แต่เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนส่งออกเพิ่มขึ้น
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,706.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.22
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,492.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.19
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,212.92 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.34
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 72,632.02 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.52
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤศจิกายน 2568 มีจำนวนส่งออก 80,554 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 10.07 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 0.83 โดยมีมูลค่า 5,160.90 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 11.86
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 221.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.65
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 248.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 186.61
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2568 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,631.29 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 8.56
เดือนพฤศจิกายน 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 78,263.31 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 6.67
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 850,787 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 9.77 แบ่งเป็น
• รถกระบะ 519,254 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 61.03 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 2.73
• รถกระบะ BEV 287 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.03 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง ICE 149,178 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 17.53 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 37.22
• รถยนต์นั่ง BEV 6,335 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.74 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง PHEV 1,407 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 0.17 ของการส่งออกทั้งหมด ในปี 2567 ไม่มีการส่งออก
• รถยนต์นั่ง HEV 48,433 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.69 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 7.79
• รถ PPV 125,904 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 14.80 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 0.46
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 567,983.18 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 12.18 โดยมีรายละเอียด
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 34,482.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.18
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 179,851.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.03
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 24,866.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราค-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.85
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 807,183.86 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 8.27
รถจักรยานยนต์
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 815,356 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 4.92 มีมูลค่า 56,404.08 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 3.76
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,161.87 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 9.88
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,470.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 37.90
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 61,036.68 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.80
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 868,220.54 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 7.90
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤศจิกายน 2568
เดือนพฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 12,436 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 69.11 แบ่งเป็น
• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 10,621 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 95.63
o รถยนต์นั่ง จำนวน 10,351 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 267 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 1 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 2 คัน
• รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 75 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 275
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,664 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.97
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,664 คัน
• รถยนต์สามล้อ มีทั้งสิ้น 2 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 100
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 2 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 27 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 237.50
• รถบรรทุกมี ทั้งสิ้น 47 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 74.03
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 129,044 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 44.28 แบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 107,612 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 66.70
o รถยนต์นั่ง จำนวน 104,531 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 2,879 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 16 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 184 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 2 คัน
• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 556 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 2.28
• รถยนต์สามล้อ มีทั้งสิ้น 22 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 84.83
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล จำนวน 14 คัน
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 8 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 20,350 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 13.30
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 20,349 คัน
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 1 คัน
• รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 129 คัน ลดลงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 56.42
• รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 375 คัน ลดลงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.95
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพฤศจิกายน 2568
เดือนพฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 10,912 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 29.77 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 10,846 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 29.80
o รถยนต์นั่ง จำนวน 10,837 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 2 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 7 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 66 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 24.53
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 129,324 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 6.68 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 128,442 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 6.41
o รถยนต์นั่ง จำนวน 287,107 คัน
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 32 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 173 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 124 คัน
o รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 6 คัน
• รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 882 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 69.94
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 882 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนพฤศจิกายน 2568
เดือนพฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 1,072 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 39.40 แบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,072 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 39.40
o รถยนต์นั่ง จำนวน 1,072 คัน
เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสม มีจำนวน 17,547 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 98.23 แบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 17,547 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 98.23
o รถยนต์นั่ง จำนวน 17,519 คัน
o รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 20 คัน
o รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 8 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 354,480 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 60.81 แบ่งประเภทได้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 266,408 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 73.05
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 258,951 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 71.39
o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 5,417 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 137.38
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 230 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 191.14
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 275 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 85.56
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 66.67
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 1,530 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 346.06
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1,431 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 71.39
• รถยนต์สามล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,040 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 1.46
o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 128 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 5.79
o รถยนต์รับจ้างสามล้อ มีจำนวน 912 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 0.88
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 81,529 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 33.52
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 81,407 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 33.59
o รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 122 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 0.81
• อื่นๆ
o รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,884 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 6.30
o รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 1,188 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 38.62
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 596,945 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.75 แบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 586,936 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 29.19
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 585,233 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 29.10
o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 516 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 4.24
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 248 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 239.73
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 342 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 62.09
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 11 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 120
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 586 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 191.54
• รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
• รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 10,006 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 7.07
o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 10,006 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 7.07
• อื่นๆ
o รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 80,528 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.50 แบ่งประเภทได้ ดังนี้
• รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 80,528 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28.50
o รถยนต์นั่ง มีจำนวน 80,449 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 28.51
o รถยนต์โดยสารรับจ้างไม่เกิน 7 คน จำนวน 1 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 100
o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 39 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 9.30
o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 27 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 50
o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 4 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 20
o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 8 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 ร้อยละ 60












