ชีวิตอิสระ(4wheels)
ควบ "ทูซอน" ตะลอนเมืองประจวบ ฯ
ถ้าเอ่ยถึงสถานที่เที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เชื่อว่าหลายคน ความคิดคงหยุดเพียงแค่อำเภอหัวหิน เมืองตากอากาศสุดคลาสสิค ที่ครองใจผู้คนทุกยุคทุกสมัย แต่แท้จริงแล้ว จังหวัดที่มีรูปร่างยาวเรียวแห่งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่แอบซ่อนรอคุณไปสัมผัสฮันเด ทูซอน ลงตัวในความต่าง ผมเดินทางพร้อมคู่หู ฮันเด ทูซอน จากกรุงเทพ ฯ ในช่วงบ่าย โดยใช้เส้นทางธนบุรี-ปากท่อ แล้วตัดเข้าถนนเพชรเกษมที่แยกวังมะนาว หวังเล็กๆ ให้ถึงอำเภอเมืองประจวบ ฯ ก่อนพระอาทิตย์ตก เพื่อเก็บบรรยากาศสีทองเหนือผืนน้ำกลางด้ามขวาน คู่หูจากแดนกิมจิคันนี้ นับว่าหล่อไม่เบา แถมมีกำลังให้ผมใช้อย่างเหลือเฟือ จากเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล CRDI ขนาด 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แค่เพียงกดคันเร่งเบาๆ รถก็มีกำลังเร่งแซงโดยแทบไม่ต้องคิคดาวน์ การทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งต่อกำลังอย่างราบรื่น แม้ว่าถนนช่วงก่อนเข้า จ. ประจวบคีรีขันธ์ จะไม่ค่อยดีนัก แต่ระบบรองรับก็สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างดี ผมใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. ด้วยรอบประมาณ 2,000 รตน. วัดอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ประมาณ 14 กม./ลิตร เข้าขั้นประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ ชมอ่าวประจวบ ฯ แบบพาโนรามา หลังจากขับรถมาเกือบ 300 กม. ก็ถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมือง 3 อ่าว" เพราะพื้นที่ติดทะเลอ่าวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 อ่าว ที่ทอดตัวยาวติดกันโดยมี "อ่าวน้อย" อยู่ตอนเหนือสุด ต่อด้วย "อ่าวประจวบคีรีขันธ์" ซึ่งยาวโค้งมาจนจดกับเขาล้อมหมวก ซึ่งก็คือ "อ่าวมะนาว" เป็นอ่าวสุดท้าย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตทหาร กองบินที่ 5 การชมอ่าวที่ง่าย และสวยงามที่สุดต้องขึ้นไปบน "เขาช่องกระจก" ซึ่งเป็นเขาที่สูงตะหง่านอยู่ริมทะเล มีความสูงถึง 245 ม. จากระดับน้ำทะเล การขึ้นไปนั้นต้องเดินบันไดคอนกรีท จำนวน 396 ขั้น โดยตลอดทางอาจต้องระวังสิ่งของไว้ให้ดี เนื่องจากมีฝูงลิงแสมคอยต้อนรับอยู่ ด้านบนสุดเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง อีกทั้งยังมีองค์เจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาทรงประกอบพิธีบรรจุพร้อมทั้งทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ไว้ตั้งแต่ปี 2501 ด้านบนยอดเขาสามารถเห็นอ่าวประจวบ ฯ ที่มีความยาวของชายหาดกว่า 8 กม. ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากมาย ถ้าหันหลังไปทางแผ่นดินจะเห็นวัดธรรมิการาม ศาลากลางจังหวัด และตัวเมืองประจวบ ฯ อยู่เบื้องล่าง แนะนำให้ขึ้นมาช่วงเย็น นอกจากจะแดดร่มลมตกแล้ว ยังจะได้เห็นแสงสีทองหายไปในทะเล และหากใครอยู่ถึงพลบค่ำก็จะได้เห็นแสงสีเขียวจากเรือประมง และแสงไฟจากในเมือง เป็นภาพที่จะประทับใจไปอีกนาน ด่านสิงขร ตลาดสุดชายแดน จากตัวเมืองประจวบ ฯ ลงใต้ไปไม่ไกล ก็จะเจอกับทางไป "ด่านสิงขร" ตลาดการค้าขายชายแดน ที่แต่เดิมเป็นเพียงจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างชายแดนไทยและเมียนมาร์ ในอดีต บริเวณด่านสิงขร ถูกใช้เป็นเส้นทางคมนาคมผ่านแผ่นดินคาบสมุทรจากชายฝั่งทะเลด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน ที่เรียกกันว่า "เส้นทางข้ามคาบสมุทร" [table],[/table] ปัจจุบันพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด โดยด่านสิงขร ถูกเชื่อมต่อกับฝั่งเมียนมาร์ ที่หมู่บ้านมูด่อง เมืองมะริด และฝั่งไทยที่ ต. คลองวาฬ อ. เมือง จ. ประจวบคีรีขันธ์ ถ้ามาในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะในวันเสาร์ จะคึกคักเป็นพิเศษตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะจะมีชาวเมียนมาร์หอบเอาสินค้าพื้นบ้านต่างๆ มาขายในราคาถูก แต่ช่วงเวลาน่าเดินที่สุดก็คือ ประมาณ 7-8 โมงเช้า เพราะอากาศยังไม่ร้อนมาก มีลมพัดสบายๆ และยังมีสินค้าให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ไม้ เครื่องประดับ และข้าวของเครื่องใช้จากอินโดจีน และที่ขาดไม่ได้ คือ กล้วยไม้ป่า จากฝั่งเมียนมาร์ ที่สวยงามและราคาแสนถูก ทะเลบ้านกรูด ฟ้าคราม น้ำใส [table],, [/table] จากตัวเมืองประจวบ ฯ วิ่งลงใต้ไปประมาณ 60 กม. ก็จะถึง "หาดบ้านกรูด" ที่มีชายหาดสีขาวที่กว้างขวางสวยงามกว่า 12 กม. นับเป็นชายหาดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของไทย เป็นแหล่งพักผ่อนชั้นดีสำหรับคนที่ต้องการความสงบ คำว่า "บ้านกรูด" มาจากที่สมัยก่อน มีต้นมะกรูดขึ้นอยู่อย่างมากมาย จึงนิยมเขียนเหมือนต้น "มะกรูด" หาดบ้านกรูด จะมีอยู่ด้วยกัน 2 หาด คือ หาดบ้านกรูดเหนือ และหาดบ้านกรูดใต้ โดยมีเขาธงชัยคั่นอยู่ตรงกลาง หาดบ้านกรูดเหนือ เป็นหาดส่วนตัวไม่มีถนนกั้น ส่วนหาดบ้านกรูดใต้ เป็นหาดที่เลียบทะเล บริเวณรอบๆ มีรีสอร์ทเรียงรายกันอยู่มากมาย หลายระดับราคา ทะเลบ้านกรูด นอกจากจะมีทรายสีขาวละเอียดแล้ว ยังร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าว มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และยังมีชุมชนชาวประมงกระจายอยู่ทั่วไปตลอดชายหาด ตามแบบฉบับของชาวประมงดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น การทำอาชีพประมงชายฝั่ง การแปรรูปอาหารทะเลแห้ง การจับแมงกระพรุนเพื่อส่งขายต่างประเทศ ชมปูชนียสถาน ที่เขาธงชัย [table],[/table] ห่างจากบ้านกรูด เพียง 700 ม. จะพบกับ เขาธงชัย อันเป็นที่ประดิษฐานของ "พระพุทธกิติสิริชัย" หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันธาระ (ได้รับอิทธิพลจากกรีกผ่านอินเดีย) หันพระพักตร์ออกทะเล "พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ" หรือ พระมหาเจดีย์เก้ายอด พระปรางค์ จัตุรมุขสูง 3 ชั้น มีความสวยงามวิจิตรตระการตาตามแบบไทยแท้ สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 "พระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" ตั้งอยู่บนยอดเขาปักธงชัย ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นชายหาดบ้านกรูด เวิ้งอ่าว และทิวมะพร้าวสุดสายตา ทั้งยังเหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สวยงามอีกด้วย เชื่อกันว่ากรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เคยเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อพักทอดสมอเรือรบ จึงสร้างสมอเรือจำลองไว้ที่พระตำหนักซึ่งหันหน้าออกทะเล ถ้ำเขาม้าร้อง ดินแดนลี้ลับ [table],,[/table] จากบ้านกรูด วิ่งเลาะริมทะเลลงใต้ไปอีกนิดก็ถึง อ. บางสะพาน สู่จุดหมายที่วัดเขาถ้ำม้าร้อง วัดนี้แต่ก่อนเป็นที่พักของพระสงฆ์มาตั้งแต่โบราณ ว่ากันว่าตั้งแต่สมัยที่พระพุทธศาสนาเริ่มเข้าสู่แหลมทอง มีพระสงฆ์ชาวศรีลังกา และอินเดีย เดินทางเข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนาในไทย และเมียนมาร์ มีเรื่องเล่าว่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกปราบพวกโจรตามหัวเมืองต่างๆ ในระหว่างปี พศ. 2385-2387 เจ้าพระยาบดินทรเดชา ได้นำทัพมาพักที่หนองหัดไทย ปรากฏว่าม้าของท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาได้หายไป จึงได้สั่งให้ทหารออกตามหาแต่ก็ไม่พบ ได้ยินแต่เสียงม้าร้องภายในภูเขาลูกนี้ แม้นจะส่งทหารเข้าไปค้นหาอย่างไรก็ไม่พบ ได้ยินแต่เสียงม้าร้องเท่านั้น ภูเขาลูกนี้จึงได้ถูกขนานนามว่า "เขาถ้ำม้าร้อง" ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่งดงามมากมาย โดยเฉพาะหินที่มีลักษณะคล้ายหัวม้า รวมถึงพระพุทธรูปปางสมาธิ ที่เรียงรายอยู่มากมายตลอดแนว ภายในยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่นำไปใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ แต่ที่น่าแปลกใจ คือ น้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ไม่เคยแห้ง น้ำตกขาอ่อน ความงามสุดแดนไทย [table],,[/table] จุดหมายปลายทางสุดท้ายของเรา คือ "น้ำตกขาอ่อน" หรือ "น้ำตกทับมอญ" ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาตะนาวศรี ในพื้นที่ ต. ชัยเกษม อ. บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 15 กม. การเดินทางช่วงแรกสะดวกสบาย เป็นถนนลาดปูน เมื่อถึงปากทางเข้าหน่วยพิทักษ์น้ำตกขาอ่อน จะเป็นถนนลูกรังประมาณ 3 กม. และช่วงก่อนถึงน้ำตก 1 กม. จะเป็นทางดินที่เล็กและแคบ ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสองข้างทางซึ่งเป็นสวนมะพร้าว และจุดชมวิวบริเวณอ่างเก็บน้ำหนองบอน ทั้งกว้างใหญ่และสวยงาม การเดินทาง ต้องเดินลัดเลาะไปตามลำธาร และโขดหิน ตลอดสองข้างทางขึ้นสู่น้ำตกขาอ่อน เป็นป่าไผ่และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมผืนป่าจนร่มรื่น น้ำตกขาอ่อน มีด้วยกันถึง 9 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป ส่วนต้นน้ำนั้นไหลมาจากเทือกเขาตะนาวศรีติดชายแดนไทยเมียนมาร์ แผนที่ ที่กิน มาทะเลบ้านกรูดทั้งที ก็ต้องหาร้านอาหารเจ้าเก่า ที่อยู่คู่กับทะเลบ้านกรูดมานาน ร้าน "ปลาทู" คือ ร้านที่ผมเลือก เพราะนอกจากขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่แล้ว เรื่องรสชาติยังไม่เป็นรองใคร ร้านนี้เน้นวัตถุดิบที่สดเท่านั้น ผมสั่ง ต้มยำปลาอินทรี ไข่ปูหลน ปูม้านึ่ง และต้มส้มปลากระบอก คำแรกที่ลองขอบอกเลยว่ารสชาติจัดจ้านมาก ทุกเมนูวัตถุดิบมีความสดใหม่ ใครไปบ้านกรูดต้องห้ามพลาดร้านนี้ ที่นอน ถ้าได้มาพักที่ทะเลบ้านกรูด ขอแนะนำ "บ้านกรูดรีสอร์ท" เนื่องจากมีห้องพักให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งวิลลาปกติ วิลลาริมทะเล และห้องบนตึกวิวทะเล ที่สำคัญเจ้าของอัธยาศัยดี และเป็นกันเอง ราคาที่พักเริ่มต้นที่ 1,000-2,200 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวีแบบดิจิทอล เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น ขอขอบคุณ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะในการเดินทาง
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/112556