เป็นรถขนาดเล็กกะทัดรัดในตัวถังยาว 4.355 ม. กว้าง 1.800 ม. และสูง 1.535 ม. ซึ่งวางตัวอยู่บนช่วงฐานล้อยาว 2.700 ม. เป็นตัวถังอลูมิเนียมและเหล็กกล้ากำลังสูงที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด และตั้งใจให้นั่งได้รวม 5 คน หน้าตาและรูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอกดูธรรมดาไม่มีจุดโดดเด่นสะดุดตาอะไร ที่ขาดเสียไม่ได้ คือ TIGER NOSE GRILLE หรือ "แผงกระจังหน้ารูปจมูกเสือ" ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายการค้าหรือ "ลายเซ็น" ของรถยี่ห้อนี้ไปแล้ว
ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าแบบไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,591 ซีซี 77 กิโลวัตต์/105 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 32 กิโลวัตต์/44 แรงม้า ซึ่งได้พลังไฟจากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ (LITHIUM-ION POLYMER) ขนาด 240 โวลท์ 1.56 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 จังหวะ เป็นระบบไฮบริดซึ่งให้กำลังสุทธิสูงสุด 104 กิโลวัตต์/141 แรงม้า และผู้ผลิตตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 89 กรัม/กม.
ที่น่าติดตามต่อไปก็คือ นอกจากระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟดังกล่าวแล้ว มีการคาดหมายกันว่า อีกไม่นานจนเกินรอน่าจะมีรถติดป้ายชื่อ เกีย นีโร (KIA NIRO) ซึ่งติดตั้งระบบไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี หรือ PLUG-IN HYBRID ให้เลือกใช้ด้วย เนื่องจากรถแบบนี้ใช้พแลทฟอร์มแบบใหม่ ที่ยักษ์รองเมืองโสมขาวออกแบบ/พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อใช้กับรถไฮบริดทั้ง 2 แบบ
[table]
KIA NIRO
รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กที่สุดของค่าย เกีย
ขนาดตัวถัง 4.355x1.800x1.535 ม. (5 ที่นั่ง)
ขับล้อหน้าแบบไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ
กำลังสุทธิสูงสุด 104 กิโลวัตต์/141 แรงม้า
ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 89 กรัม/กม.
[/table] 
