ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับโครงการอีโคคาร์ 2 แต่ผมก็ไม่อยากเห็นโครงการนี้หยุดชะงัก หรือค้างเติ่งแบบไม่รู้อนาคต เพราะอย่างน้อย มันก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ผู้ผลิตหลายรายให้ความสนใจความจริง โครงการมันควรจะเห็นหน้าเห็นหลังกันตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็น เส้นตาย ที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ท่านขีดไว้ โดยบรรดาผู้ผลิตที่สนใจต้องยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการภายในวันดังกล่าว แต่เนื่องจากเหตุผลสองประการ ทำให้เส้นตายดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ประการแรก ที่ทำการของ บีโอไอ ในตึกปตท. ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมการเมืองปิดยาว ช่วงใกล้จะถึงเส้นตาย บริษัทรถยนต์เลยไม่รู้จะหาตัวคณะกรรมการเพื่อยื่นเรื่องได้ที่ไหน ประการที่สอง ซึ่งสำคัญมาก คือ แม้สำนักงานจะเปิดทำการได้แล้ว แต่รัฐบาลรักษาการยังไม่ยอมแต่งตั้งบอร์ด บีโอไอ ชุดใหม่แทนชุดเก่าที่หมดวาระไป เพราะเกรงว่าหากแต่งตั้งบอร์ดไปอนุมัติโครงการลงทุนที่ส่งผลผูกพันกับรัฐบาลชุดใหม่ จะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 (3) จึงขอไปปรึกษาหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน ทั้งๆ ที่ กกต. วินิจฉัยแล้วว่า รัฐบาลรักษาการสามารถแต่งตั้งบอร์ด บีโอไอ ชุดใหม่ และบอร์ดก็มีอำนาจอนุมัติโครงการต่างๆ ได้ ผมเข้าใจว่ารัฐบาลมัวยุ่งอยู่กับการหาเงินมาโปะหนี้เน่าจากโครงการจำนำข้าวอันลือลั่น ไม่ว่างจะมาใส่ใจกับการแต่งตั้งบอร์ด บีโอไอ ซึ่งส่งผลให้มีโครงการมูลค่าสูงกว่า 200 ล้านบาท ที่ต้องให้บอร์ดอนุมัติส่งเสริมการลงทุน เข้าคิวรอการพิจารณากันเหงือกแห้งอยู่เกือบ 400 ราย มูลค่ารวม 5 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นโครงการของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะของญี่ปุ่น มูลค่าถึง 5 หมื่นล้านบาท ผมไม่ทราบแน่ชัดว่า โครงการที่รอการอนุมัติมีอะไรบ้าง แต่ที่รู้มา อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ค่อนข้างมาก และถ้า บีโอไอ ยังไปต่อไม่ได้ อีกไม่นานเราจะได้เห็นรถบางรุ่นต้องหยุดสายพานผลิต เพราะไม่มีอะไหล่ หรือชิ้นส่วนเพียงพอ สำหรับ อีโคคาร์ 2 นั้น ดูเหมือนสถานการณ์จะเคว้งคว้างกว่าโครงการที่เข้าคิวรอทั้งหลายมาก เพราะป่านนี้ยังไม่ได้ยื่นเรื่องให้ บีโอไอ พิจารณาแม้แต่รายเดียว ทำไปทำมา อุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่งของเรา อาจต้องพังเพราะพิษการเมืองอย่างน่าเสียดาย ผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่า รัฐบาลรักษาการต้องหยุดรักษาการเสียที ส่วนโครงการอีโคคาร์ 2 ก็พูดให้ชัดว่าจะเดินหน้า หรือจะหยุดไว้ขณะที่ยังไม่มีใครเสียหาย ที่แน่ๆ บีโอไอ และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ต้องไปต่อครับ
บทความแนะนำ