ปิดตัวเลขการขายครึ่งปีกันไปแล้ว ด้วยยอดขาย ที่เพิ่มขึ้น 11.2 % ขายกันทั้งตลาด 409,980 คัน ขณะที่ยอดการขายเดือนมิถุนายน เดือนเดียว ขายได้เพิ่ม 5.7 % ด้วยยอด 69,798 คัน ทำให้บรรดานักการตลาด ยังคงประเมินยอดการขายของปีนี้ ว่าจะไม่ต่ำกว่า 820,000-840,000 คัน แน่นอนถึงแม้ว่ายอดการผลิตจะไม่ได้ตามที่ประเมินเอาไว้ เพราะสภาพทางเศรษฐกิจของโลก ในหลายภูมิภาคไม่ค่อยเป็นใจ ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่ประเมินไว้เช่นกัน มาว่าด้วยภาพโดยรวมกันดีกว่า ว่ากันตั้งแต่ต้นปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเอาไว้ว่า ยอดส่งออกรถยนต์จากไทยไปยังต่างประเทศ บ่งชี้ถึงทิศทางที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่หดตัวลงมาตลอดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์ของไทยโดยรวมช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 หดตัวถึง 9.1 % หากพิจารณาเป็นรายประเภทจะพบว่ายอดส่งออกรถยนต์นั่งในช่วง 5 เดือนนี้มีการหดตัว 3.7 % ขณะที่รถพิคอัพหดตัว 8.5 % และรถอเนกประสงค์ พีพีวี หดตัว 28 % ในปีนี้ตลาดส่งออกรถพิคอัพซึ่งมีสัดส่วนสูง กว่า 50 % ของตลาดส่งออกรถยนต์โดยรวม ต้องเผชิญกับการหดตัวที่รุนแรงของตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งเคยเป็นตลาดนำเข้าพิคอัพอันดับ 1 ของไทยต่อเนื่องมาอย่างยาวนานกว่า 9 ปี ก่อนเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค ทำให้ยอดนำเข้าลดลง ทว่าท่ามกลางสถานการณ์ตลาดส่งออกรถพิคอัพโดยรวมที่ซบเซา ตลาดประเทศในกลุ่มโอเชียเนีย และบางประเทศในเอเชีย กลับยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งปัจจัยบวกหลายด้านในประเทศเหล่านี้ คาดว่าอาจช่วยกระตุ้นยอดส่งออกพิคอัพของไทยได้ในช่วงที่เหลือของปีในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา การส่งออกรถพิคอัพของไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงสำคัญ หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 และเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่งผลให้การนำเข้ารถพิคอัพของตลาดตะวันออกกลางลดลงมาก ทำให้จากอดีตที่เคยเป็นตลาดนำเข้ารถพิคอัพอันดับ 1 ของไทยต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปี 2549 ลดอันดับลงมาสู่อันดับที่ 3 ในปี 2559 และล่าสุดในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2560 ตะวันออกกลางได้กลายมาเป็นตลาดนำเข้ารถพิคอัพอันดับ 4 ของไทย จากทั้งหมด 7 ภูมิภาคหลัก ซึ่งการลดการนำเข้าลงของตลาดตะวันออกกลางดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถพิคอัพโดยรวมของไทย แม้ตลาดตะวันออกกลางจะหดตัวอย่างหนัก ทว่าการส่งออกรถพิคอัพของไทยไปโอเชียเนีย และกลุ่ม ซีแอลเอมวี (CLMV) กลับมีแนวโน้มขยายตัวดี โดยคาดว่า การส่งออกรถพิคอัพของไทยในปี 2560 มีโอกาสหดตัวน้อยลง เหลือเพียง 2-5 % หรือคิดเป็นยอดส่งออกรถพิคอัพประมาณ 550,000-565,000 คัน จากที่หดตัว 13.3 % หรือคิดเป็นยอดส่งออกรถพิคอัพ 576,585 คัน ในปี 2559 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกรถพิคอัพไปยังตลาดตะวันออกกลางรวมทั้งปี 2560 น่าจะหดตัวระหว่าง 39-41 % หรือคิดเป็นจำนวนรถพิคอัพส่งออกไปทั้งสิ้นระหว่าง 62,500-64,000 คัน จากที่เคยส่งออกได้ 105,606 คัน หรือหดตัว 44.2 % ในปี 2559 อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกรถพิคอัพไปตะวันออกกลาง ซึ่งกลายมาเป็นตลาดรองของไทย จะหดตัวรุนแรง ทว่าการส่งออกไปตลาดหลัก คือ โอเชียเนีย และบางประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่ม ซีแอลเอมวี ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่นั้น ยังมีโอกาสเติบโตได้ดี โดยการส่งออกรถพิคอัพไปตลาดโอเชียเนียในปี 2560 นี้ น่าจะขยายตัวได้ถึงราว 10-14 % หรือคิดเป็นจำนวนรถพิคอัพที่ส่งออกไปทั้งสิ้น 214,000-222,000 คัน จากที่ส่งออกได้จำนวน 194,433 คัน ขยายตัว 1.1 % ในปี 2559 ส่วนตลาดกลุ่ม ซีแอลเอมวี นั้น คาดว่าไทยจะสามารถส่งออกรถพิคอัพไปได้ระหว่าง 44,000-45,000 คัน หรือขยายตัวกว่า 7-10 % ส่งผลให้การส่งออกรถพิคอัพโดยรวมไปยังตลาดเอเชียที่กำลังเผชิญกับการหดตัวของตลาดหลักเดิม เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ให้สามารถทรงตัวที่ 0 % ถึงเติบโตได้ที่ 2 % ในปีนี้ หรือคิดเป็นรถพิคอัพ 112,000-114,500 คัน ขยายตัวจากปี 2559 ที่ส่งออกได้ 111,380 คัน หดตัวเล็กน้อยจากปี 2558 เพียง 0.2 % ก็ได้แต่คาดหวังว่า สภาวะเศรษฐกิจโลก น่าจะไม่เลวร้ายลงไปมากกว่านี้ อันจะทำให้การประเมินสภาพโดยรวมต่างๆ คลาดเคลื่อนไปจากการเติบโตตามปกติ ที่จะมากระทบกับยอดการส่งออกของบ้านเรา ก็น่าจะไม่ตกต่ำลงไปมากกว่านี้ เพราะความต้องการของตลาด ยังคงเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ แน่นอนว่า หากเศรษฐกิจดีไปทั่วโลก ยอดการส่งออกของเราก็ดีตามไปด้วย ขอให้ความหวังนี้กลายเป็นความจริงด้วยเถิด สาธุ