เมร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสส์ ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส ที่ผ่านมา โดยการนำ อี-คลาสส์ แวกอน อเนกประสงค์ มายกสูงพร้อมลุย สามารถรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยใช้ชื่อรุ่นว่า อี-คลาสส์ ออลล์-เทอร์เรน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์แวกอน มาผสานเข้ากับเอสยูวี เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ เอาดี เอ 6 ออลล์โรด และโวลโว วี 90 ครอสส์คันทรีโดยพื้นฐานทั่วไป ก็ไม่ได้แตกต่างจาก อี-คลาสส์ แวกอน มากมายนัก ภายนอกได้รับการตกแต่งเพิ่มความสะดุดตา กระจังหน้าแบบคาด 2 ชั้น กันชนหน้า/หลัง ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เสริมการ์ดกันกระแทกเพื่อความแข็งแกร่ง บึกบึน และกันกระแทกไปในตัว ด้านข้างติดตั้งสเกิร์ท บริเวณชายล่าง โป่งซุ้มล้อตกแต่งด้วยขอบพลาสติคสีดำรับกับวงล้อที่มีให้เลือก 3 แบบ ถึง 2 ขนาดด้วยกัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 19 และ 20 นิ้ว มาพร้อมยางกึ่งสปอร์ทสำหรับการใช้งานในทุกสภาพถนน ในส่วนของยางไฮพโรไฟล์ มีผลทำให้รถสูงขึ้นจากเดิม 14 มม. และอีก 15 มม. มาจากการปรับเซทระบบรองรับแบบแอร์ซัสเปนชัน ทั้ง 2 ส่วนนี้มีผลทำให้ใต้ท้องรถสูงจากพื้นดินเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับแวกอนตัวเดิมถึง 29 มม. ภายในห้องโดยสารหรูหรา สมฐานะ วัสดุที่ใช้ตกแต่งประกอบไปด้วยลายไม้ หนังแท้ อลูมิเนียม ฯลฯ แป้นเหยียบทำจากสเตนเลสส์ อุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งมาเช่นเดียวกับ อี-คลาสส์ เอสเตท เบาะนั่งแถวหลังพับได้ในสัดส่วน 40:20:40 การทำตลาดมีเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แค่ 2 ขนาดเท่านั้น ไม่มีเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด ผู้ซื้อสามารถเลือกระหว่าง เครื่องยนต์ 4 สูบ ดีเซล เทอร์โบ 2.0 ลิตร โดยนำมาจากรุ่น อี 220 ดี ให้กำลัง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ที่ 1,600 รตน. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 8 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 20 กม./ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลอีกตัวจะมีขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบ นำมาจากรุ่น อี 350 ดี ให้กำลัง 254 แรงม้า ส่วนแรงบิด 63.2 กก.-ม. ที่ 1,600 รตน. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 6.4 วินาที รถลุยรุ่นนี้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมพอๆ กะรถสปอร์ทเลยทีเดียว ความเร็วสูงสุด 248 กม./ชม. เครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาด จะถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ แบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ ALL-WHEEL DRIVE (4MATIC) ขุมพลังดีเซลทั้ง 2 ขนาดที่ได้รับการยอมรับว่าทำงานได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถเลือกโหมด DYNAMIC SELECT ในการขับขี่ได้ถึง 5 รูปแบบด้วยกัน เป็นการเซทการทำงานของเครื่องยนต์, ระบบถ่ายทอดกำลัง, ระบบรองรับ, ระบบพวงมาลัย ตามที่ผู้ขับต้องการ การควบคุมบังคับถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าจะไม่คล่องแคล่ว แม่นยำเท่ากับแฮทช์แบคตัวแรงทั้งหลาย แต่ก็ไว้ใจได้ในการเข้าโค้ง ความนุ่มนวล สะดวกสบายในการขับขี่มีมาให้ครบครัน ส่วนในเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิงนั้นเครื่องยนต์ดีเซลรับประกันคุณภาพด้านนี้อยู่แล้ว เอสเตทยกสูงแบบ ออลล์-เทอร์เรน ของ อี-คลาสส์ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลุยแบบไม่โหดนัก เพิ่มความสามารถในการใช้งาน ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลมาเพื่อเน้นเอาแรงบิดมาใช้งานในลักษณะอเนกประสงค์ สามารถลากรถบรรทุกม้าไปทำกิจกรรมนอกเมืองได้อย่างสบายๆ ในระยะหลังหลายค่ายก็เริ่มทำรถประเภทนี้ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รักการใช้งานแบบเอสยูวี แต่ยังชื่นชอบรถในสไตล์แวกอน !