วิธีปฏิบัติเมื่อเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท คือ รีบหยุดรถและดับเครื่องยนต์ทันที อย่าขี้เกียจจอด คิดว่าไม่เท่าไรก็ถึงที่หมายแล้ว และห้ามนำน้ำไปราดบนเครื่องยนต์เด็ดขาด ให้ตามช่างที่ไว้ใจได้มาจัดการ แต่ถ้ามีประสบการณ์พอก็ให้จอดพักจนความร้อนลดลง และเติมน้ำกลับเข้าไปให้เพียงพอ จากนั้นขับต่อโดยพักดับเครื่องยนต์เป็นระยะๆคำว่า โอเวอร์ฮีท (OVERHEATED) หมายถึงร้อนเกินระดับใช้งานปกติ มีสาเหตุหลายประการ เช่น พัดลมไฟฟ้าไม่ทำงาน คลัทช์ความหนืดของพัดลมเสื่อมสภาพ สายพานขาด ท่อน้ำรั่ว หรือแตก ฯลฯ แต่ไม่ว่าเหตุผลใด สุดท้าย คือ เครื่องยนต์ถูกใช้งานโดยขาดของเหลว (น้ำ) ช่วยระบายความร้อน เพราะตราบใดที่ยังมีน้ำหล่อเย็น เครื่องยนต์จะยังไม่โอเวอร์ฮีท จนถึงขั้นชำรุด แต่ถ้าน้ำในระบบขาดไปเครื่องยนต์ชำรุดแน่ ส่วนใหญ่อาการประจำ คือ ฝาสูบโก่ง เติมน้ำเข้าไปใหม่แล้วรั่ว บางทีอาจมีรายการปะเก็น (GASKET) ชำรุดพ่วงด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่คนใช้รถต้องรู้ วิธีป้องกัน คือ หมั่นชำเลืองดูมาตรวัดความร้อนเป็นระยะๆ สำหรับรถรุ่นใหม่ที่ไม่มีมาตรวัดความร้อนแบบเข็ม ก็ดูไม่ให้มีไฟรูปอุณหภูมิสีแดงขึ้นโชว์ โดยเฉพาะเมื่อขับรถที่ความเร็วสูงต่อเนื่อง ต้องหมั่นตรวจสอบบ่อยๆ เพราะถ้าน้ำแห้งสัก 5 นาที รถก็พังแล้ว เมื่อเครื่องยนต์ร้อนจัด ให้รีบหยุดรถและดับเครื่องยนต์ทันที อย่าขี้เกียจจอด คิดว่าไม่เท่าไรก็ถึงที่หมายแล้ว และห้ามนำน้ำไปราดบนเครื่องยนต์เด็ดขาด ให้ตามช่างจากศูนย์บริการหรืออู่ประจำที่ไว้ใจได้มาจัดการ ถ้ามีประสบการณ์และความกล้าพอก็ให้จอดพักจนความร้อนลดลง และเติมน้ำกลับเข้าไปให้เพียงพอ และขับต่อโดยพักดับเครื่องยนต์เป็นระยะๆ และขับให้เร็วพอในเกียร์สูง อาศัยลมปะทะผ่านหม้อน้ำมาระบายความร้อน จำไว้ว่า ตราบใดที่ “เข็มความร้อน” ยังชี้ไม่สุด หรือยังไม่ถึงแถบแดง หรือยังไม่เห็นไฟรูปอุณหภูมิสีแดงปรากฏ เครื่องยนต์จะไม่มีวันชำรุดได้ครับ