หากตั้งคำถามว่า ในรอบปี 2017 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป รถขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ รถอะไร ? จะได้คะแนนเต็มเลย ถ้าตอบว่า รถพิคอัพ ฟอร์ด เอฟ-ซีรีส์ (FORD F-SERIES) ซึ่งขายได้มากถึง 896,764 คัน หรือวันละ 2,457 คันโดยเฉลี่ย ถัดไป คือ รถพิคอัพ เชฟโรเลต์ ซิลเวอราโด (CHEVROLET SILVERADO) ซึ่งมียอดขาย 585,564 คัน และรถพิคอัพ แรม (RAM) ซึ่งมียอดขาย 500,723 คัน หากเปลี่ยนคำถามเป็น เมื่อตัดยอดขายของรถพิคอัพออกไป ในรอบปี 2017 รถขายดีที่สุดในเมืองมะกัน คือ รถอะไร ? คำตอบมีได้อย่างเดียว คือ รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ติดป้ายชื่อ โตโยตา รัฟโฟร์ (TOYOTA RAV4) ซึ่งขายได้มากถึง 407,594 คัน หรือวันละ 1,117 คันโดยเฉลี่ยยักษ์ใหญ่ของเมืองยุ่นเริ่มบรรจุรถ โตโยตา รัฟโฟร์ (TOYOTA RAV4) เข้าสู่สายการผลิตเมื่อปี 1994 รถรุ่นดังกล่าวเป็น COMPACT CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัด ผลิตที่โรงงานในญี่ปุ่น มีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ตัวถัง 3 ประตู กับตัวถัง 5 ประตู มีทั้งแบบขับล้อหน้าแบบขับทุกล้อ และมีการผลิตรถรุ่นพิเศษซึ่งขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ จำนวน 1,484 คัน เพื่อจำหน่าย หรือให้เช่าแก่ผู้ใช้รถในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาด้วย ความสำเร็จของรถรุ่นแรกซึ่งอยู่ในสายการผลิตยาวนานประมาณ 7 ปี นำมาซึ่งรถรุ่นที่ 2 ซึ่งยังคงผลิตในเมืองยุ่นเมื่อปี 2000 รถรุ่นที่ 3 ซึ่งมีการผลิตทั้งในญี่ปุ่นในแคนาดาและในสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 2005 และรุ่นที่ 4 ซึ่งก็มีการผลิตทั้งในเมืองยุ่นเมืองมังกรและแคนาดาเช่นกันเมื่อปลายปี 2012 ส่วนที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้เป็นรถรุ่นที่ 5 เพิ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์คครั้งล่าสุด ซึ่งมีขึ้นในเมืองมะกันเมื่อต้นเดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านพ้นไป และต้องรอจนถึงปลายปีนั่นแหละจึงจะเริ่มออกโชว์ในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2019 ส่วนในเมืองแม่ คือญี่ปุ่น ก็คงจะเหมือนกับรถรุ่นเดิม คือ เป็นรถญี่ปุ่นที่ไม่มีขายในญี่ปุ่น เช่นเดียวกับรถรุ่นปัจจุบัน รถรุ่นใหม่นี้จะมีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5 ประตู ที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน เป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานที่มี โยชิคาซุ ซาเอกิ (YOSHIKAZU SAEKI) วิศวกรชาวญี่ปุ่นเป็นผู้นำ เป็นตัวถังที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่พื้นรถจนจรดหลังคา มีโครงสร้างตัวถังแบบ UNIBODY ซึ่งเป็นตัวถังรับแรงเหมือนรถเก๋ง ที่ผู้ผลิตยืนยันว่าแข็งเกร็งกว่ารถรุ่นปัจจุบันถึงร้อยละ 57 และก็เช่นเดียวกับรถรุ่นปัจจุบัน รถรุ่นล่าสุดนี้จะมีทั้งแบบขับล้อหน้าแบบขับทุกล้อ และมีพลังขับเคลื่อนให้เลือก 2 ระบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.5 ลิตร ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดหลักจะมีรถให้เลือกรวม 5 โมเดลย่อย กับระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟซึ่งในเมืองมะกัน จะมีรถให้เลือก 3 โมเดลย่อย ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของระบบขับประเภทหลัง บอกแต่เพียงว่า เป็นระบบซึ่งมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า TOYOTA HYBRID SYSTEM II หรือ THS II ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด และเกียร์อัตโนมัติ ECVT ซึ่งเป็นเกียร์ปรับอัตราทดต่อเนื่องที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบอีเลคทรอนิค รายละเอียดมากกว่านี้ต้องติดตามกันต่อไป