ค่าย เลกซัส (LEXUS) ซึ่งก่อตั้งกิจการขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงปลายของทศวรรษแห่งปี 1980 เริ่มการผลิต เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งเมื่อปี 1995 และจนถึงปัจจุบันค่ายนี้มีรถ เอสยูวี ให้ลูกค้าทั่วโลกเลือกใช้รวม 4 อนุกรม คือ เลกซัส เอนเอกซ์ (LEXUS NX) รถขนาดเล็กกะทัดรัดซึ่งเริ่มการจำหน่ายเมื่อปี 2014 เลกซัส อาร์เอกซ์ (LEXUS RX) รถขนาดกลางซึ่งเริ่มการจำหน่ายเมื่อปี 1998 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2003 2010 2016 เลกซัส จีเอกซ์ (LEXUS GX) รถขนาดกลางซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2002 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้วครั้งเดียวเมื่อปี 2010 เลกซัส แอลเอกซ์ (LEXUS LX) รถขนาดโตเต็มพิกัดซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 1995 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี 1998 กับ 2007 โดยที่ 2 อนุกรมแรกเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ซึ่งมีโครงสร้างตัวถังแบบรถยนต์นั่ง อย่างที่เรียกกันภาษาอังกฤษว่า CROSSOVER SUV ส่วน 2 อนุกรมหลังเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ซึ่งตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถพิคอัพส่วนรถที่กำลังจะนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังนี้ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์อนุกรมล่าสุดที่ค่ายนี้เพิ่งนำออกอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุดซึ่งมีขึ้นในเมืองนาฬิกาเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2018 และคงต้องรออีกหลายเดือนจึงจะเริ่มการจำหน่าย เป็นรถขนาดเล็กกะทัดรัดอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า COMPACT LUXURY CROSSOVER SUV ตัวถังยาว 4.495 ม. กว้าง 1.840 ม. สูง 1.520 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 2.640 ม. ออกแบบ/พัฒนาโดยมีผู้ใช้รถทั้งเพศชายเพศหญิงในวัย 30 ปีบวกๆ เป็นลูกค้าเป้าหมาย เครดิทใดๆ ที่อาจจะมีต้องยกให้แก่ทีมงานซึ่งมี ชิคะ คาโคะ (CHIKA KAKO) เป็นหัวหน้าวิศวกร และมี เทตซูโอะ มิกิ (TETSUO MIKI) เป็นหัวหน้าผู้ออกแบบ เป็นตัวถังซึ่งแข็งเกร็งและมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ หน้าตาและรูปทรงตัวถังเมื่อมองจากภายนอก มีจุดสะดุดตาอยู่จุดเดียว คือ กระจังหน้ารูปกระสวยขนาดใหญ่โตโอ้โฮเฮะ จะมีรถให้เลือกใช้ 2 โมเดลหลัก คือ เลกซัส ยูเอกซ์ 200 (LEXUS UX200) ซึ่งเป็นรถขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร กับ เลกซัส ยูเอกซ์ 250 เอช (LEXUS UX250H) ซึ่งเป็นรถขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อด้วยระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด แบทเตอรีนิคเคิล เมทัล-ไฮดไรด์ (NICKEL METAL-HYDRIDE) และเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) ได้กำลังสุทธิสูงสุด 131 กิโลวัตต์/178 แรงม้า สื่อมวลชนบางรายบอกว่า ค่าย เลกซัส จะบรรจุรถไฮบริดโมเดลนี้เข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถ เลกซัส ซีที 200 เอช (LEXUS CT200H) ไม่แน่ใจว่าสมควรเชื่อหรือเปล่า ? เพราะรถที่ว่านี้ไม่ใช่ เอสยูวี แต่เป็นรถเก๋งแฮทช์แบค