เรียกกระแสได้ดีกับการจัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับกันก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รุ่นล่าสุดจากค่ายตราเพชรคันนี้ โดยมาพร้อมกับเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่สร้างความคึกคักให้กับตลาดของเซกเมนท์นี้ได้ดีทีเดียว ด้วยความ “สด” กว่าบรรดาคู่แข่งทั้งหลายที่เริ่มโรยรากันไปตามกาลเวลา และการมาในครั้งนี้อาจส่งผลให้กลุ่มตลาดนี้มีการ “ขยับ” ตามมาอีกหลายระลอกก็เป็นได้ แล้วความ “สด” ที่ว่านี้จะเข้าตาทีมนักออกแบบของเราหรือไม่นั้น เชิญติดตามฟอร์มูลา : รถกลุ่มนี้ในบ้านเรา ได้แก่ โตโยตา ซีเอนตา ฮอนดา บีอาร์-วี/โมบิลีโอ นิสสัน ลีวีนา เชฟโรเลต์ สปิน และซูซูกิ แอร์ติกา แต่ตัวนี้ใหญ่กว่าใครเขาหมด ซึ่งคนสนใจมาก ภัทรกิติ์ : ผมคิดว่ารถรุ่นนี้ น่าจะประสบความสำเร็จ เพราะถ้าเปรียบเทียบกับรถในเซกเมนท์เดียวกันมันใหญ่ที่สุด อภิชาต : มันเป็นเซกเมนท์แพคเกจใหญ่ คำถาม คือ มันตอบโจทย์ของการใช้งานในบ้านเราหรือเปล่า ภัทรกิติ์ : จุดประทับใจรถคันนี้ คือ มิตซูบิชิ เป็นบริษัทที่ตั้งใจนำแนวคิดในการออกแบบที่ตัวเองผูกไว้ตั้งแต่แรก มาใช้กับรถให้ได้มากที่สุด อภิชาต : รถคันนี้เด่นที่การออกแบบกระจังหน้า ซึ่งดีไซจ์เนอร์เป็นชาวอิตาเลียน แต่มีข่าวว่า ดีไซจ์เนอร์คนใหม่กำลังจะมา ตอนนี้ทางค่ายเลยเงียบๆ นิ่งๆ พยายามจะไล่แนวคิดเดิมออกและเริ่มมองหาแนวทางใหม่สำหรับ มิตซูบิชิ รุ่นต่อไป ภัทรกิติ์ : คันนี้อาจเป็นเจเนอเรชันสุดท้ายของแนวทางนี้ “เอกซ์แพนเดอร์” น่าจะเป็นชื่อ หน้ากากซามูไร เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ และมิตซูบิชิ รุ่นแรกที่ใช้หน้ากากแบบนี้ คือ ปาเจโร สปอร์ท ถือว่าประสบความสำเร็จมาก แต่ในเมืองนอกมีหลายรุ่นแล้ว ที่หน้าตาแบบนี้ ซึ่งดูดี สำหรับ เอกซ์แพนเดอร์ ได้นำแนวคิดมาใช้อย่างเต็มที่ ผมมองว่าหน้าตาแบบนี้ ถ้าทางค่ายจะลองเอามาใช้กับรถกลุ่ม บี-เซกเมนท์ ก็น่าจะดีไม่น้อย อภิชาต : อย่าลืมว่าในอดีต มิตซูบิชิ เป็นบริษัทรถยนต์ที่ถือหุ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นเหมือนรัฐวิสาหกิจ และมีหัวหน้าทีมดีไซจ์เนอร์ที่เป็นชาวญี่ปุ่นมาโดยตลอด ตอนนี้เขาต้องการคนที่มีสไตล์ ที่สามารถคุมหน้าตาแบบนี้ได้ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น หน้าซามูไร หรือกันดัม แบบ ปาเจโร สปอร์ท มันลงตัวในเรื่ององค์ประกอบ แต่ เอกซ์แพนเดอร์ มันอยู่ในเซกเมนท์ รถขนาดไม่ใหญ่ เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ภัทรกิติ์ : คันนี้ฐานล้อยาว ก็เลยนั่งได้จริง ฟอร์มูลา : การออกแบบแนวทางนี้ ทำให้นึกถึง นิสสัน จูค ตอนเข้ามาทำตลาดในบ้านเราช่วงแรก อภิชาต : คันนี้ก็เหมือนกัน ทำรถแปลก ถ้าเข้าตา คุณก็ได้ลูกค้าเลยทันที แต่สำหรับลูกค้ากลางๆ ก็อาจคิดว่า จะซื้อหรือไม่ซื้อดี เพราะคนซื้อ น่าจะไม่ใช่วัยรุ่นที่ตัดสินด้วยอารมณ์ นี่แหละที่ผมมองว่ามันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ ภัทรกิติ์ : อันนี้ต้องวัดดวงแล้ว แต่ในตลาดมีรถแบบนี้เยอะแล้ว ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จเท่าไร อภิชาต : สิ่งที่จะทำให้รถคันนี้ประสบความสำเร็จ คือ ชิ้นงานโครเมียม มันทำให้ประสบความสำเร็จได้นะ ภัทรกิติ์ : ด้านหน้ารถ ทำให้ผมคิดว่า มันน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ในเมื่อมีลูกค้าที่แฮพพีกับดีไซจ์น แต่ที่เป็นปัญหาของผม คือ ด้านข้างนี่แหละมัน ฮอนดา เเจซซ์ ชัดๆ อภิชาต : เหมือนเป็นแฟชันที่ใครๆ ก็มี ภัทรกิติ์ : ท้ายกับหน้า ไม่ไปด้วยกันเลย ด้านหน้าเหมือนจัดหนัก ส่วนด้านท้ายเหมือนมึนๆ ฟอร์มูลา : ตรงช่วงท้ายที่ใช้ชิ้นส่วนเป็นสีเดียวกับตัวรถ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็น “ติ่ง” ใช่ไหมครับ อภิชาต : เรียกว่า ไม้เท้า ดีกว่า ฟอร์มูลา : ด้านหน้าถือว่าผ่าน ใช่ไหมครับ ภัทรกิติ์ : ผมชอบ อาจารย์เอ๋ไม่ชอบ อภิชาต : ผมไม่ชอบ เพราะด้านหน้าดูใหญ่มาก ทำให้องค์ประกอบอื่นๆ ของงานออกแบบที่เป็นรายละเอียด ไม่ประสบความสำเร็จ ฟอร์มูลา : ตรงไฟหน้าใช่ไหมครับ อภิชาต : คือ ทุกอย่างมันมีรายละเอียด แต่ตรงนั้นมันขาด ผมว่าช่องมันใหญ่เกินไปในเรื่องสัดส่วน รถญี่ปุ่นเขาเร่งผลิตออกมาหรือเปล่า เลยไม่มีเวลาใส่ใจรายละเอียด นี่คือ ส่วนสำคัญที่เราจะไม่เห็นในรถยุโรป มันมีจังหวะว่าจะวางอย่างไรให้ดูพรีเมียม อันนี้เหมือนวางคู่กันธรรมดามันอยู่ใกล้กันขนาดนั้น องค์ประกอบมันไปด้วยกันไม่ได้ เหมือนกับงาน 2 ชิ้นประคองมาเป็นเส้นคู่ เสร็จแล้วจะต้องใส่สปอทไลท์ ก็เจาะใส่เลย ควรต้องมีดีไซจ์น ใส่อย่างไรถึงจะดูเจ๋ง ภัทรกิติ์ : ผมดูก็แนวลุยดีนะครับ อาจารย์เอ๋ไม่ชอบ คือ บริเวณกันแครงค์ด้านล่าง ตรงที่มีไฟต่อออกมา เอาตรงนั้นออกแล้วใส่สปอทไลท์คูลๆ เข้าไป จบครับ ฟอร์มูลา : มาดูภายในกันครับ ภัทรกิติ์ : ภายในกับภายนอกไปด้วยกันไม่ได้เลย ข้างในจืดแบบอารมณ์แข็งแกร่ง ไม่ต้องคิดมาก มองแล้วเข้าใจ จับต้องได้ เหมาะกับผู้ใช้รถที่ใช้ง่ายๆ ผลัดกันหลายมือ รถยนต์ที่ดีไซจ์น พิสดาร ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ใช้ส่วนตัว แต่คันนี้ไม่มีความเป็นส่วนตัว คือ ใครก็ขับได้ ขับแล้วรู้เรื่องเลย ฟอร์มูลา : ทุกอย่างอยู่ในจุดที่คาดว่าจะอยู่ ภัทรกิติ์ : ไม่มีอะไรพิสดาร ขัดกับภายนอกอย่างสิ้นเชิง เด่นที่มีช่องแอร์ด้านบน มีที่เก็บของมากพอ เบาะแถว 2 พับได้หลายตลบ คนที่สูง 170 ซม. ไม่น่าบ่นเพราะนั่งสบาย พับกระดกสามารถเดินเข้าเเถว 3 ได้เลย เบาะแถวที่ 3 ถ้าพับราบสนิทก็มีพื้นที่มากเลยนะ สรุปเป็นรถที่ ฟังค์ชันดีคันหนึ่ง ในขณะที่ มิตซูบิชิ ไม่เคยลงตลาดนี้มาก่อน ถือว่าสู้ได้ อภิชาต : ที่มักจะเป็นแบบนี้ คือ ภายนอก กับภายใน ไม่ไปด้วยกัน ภาษาดีไซจ์นต่างกัน ภายในดูไม่ดี แต่ใช้งานได้ ไม่ซับซ้อน ช่วยความรู้สึกให้มันไปด้วยกัน แต่โดยคาแรคเตอร์มันเหมือนเป็นคนละคัน อภิชาต : การออกแบบภายในไม่มีอะไร โดดเด่น หน้าปัดยังเป็นเข็มอยู่เลยครับ ผมว่าเป็นมาตรฐานรถญี่ปุ่นปกติ ภัทรกิติ์ : มันน่าจะมีองค์ประกอบโดยรวมที่ให้ความรู้สึกสนุกสนานกว่าที่เห็น นี่มันคนละธีมเลย ภายนอกคมมาก ภายในทื่อมาก เขาแยกทีมออกแบบกันหรือเปล่าครับ อภิชาต : ถ้าคุณต้องนั่งอยู่ในรถ 2 ชม. แล้วอยู่กับการออกแบบที่น่าเบื่อ คงไม่มีความสุขเท่าไร คนที่ตัดสินใจซื้อรถจากการออกแบบภายในมีเยอะ เพราะเราไม่ได้เห็นรถภายนอกนะ ดังนั้นคุณต้องทำภายในให้ดี ภัทรกิติ์ : สำหรับรถ 1 คัน การออกแบบในห้องโดยสาร ถือเป็นพระเอกนะครับ