ปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถสปอร์ท นานาชาติ ด้วยผลงานใหม่ป้ายแดงของยักษ์ใหญ่เมืองยุ่น คือ รถติดป้ายชื่อ โตโยตา ซูพรา (TOYOTA SUPRA) ซึ่งก็เป็นรถใหม่อีกแบบหนึ่งซึ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ คือ ในช่วงเวลาประมาณ 25 ปี ระหว่างปี 1978-2002 ยักษ์ใหญ่เคยผลิตรถแบบนี้มาแล้วรวม 4 รุ่น ตามข้อมูลในสารานุกรมออนไลน์ WIKIPEDIA รถรุ่นแรกซึ่งเริ่มเข้าสู่สายผลิตเมื่อเดือนเมษายน 1978 โดยติดป้ายชื่อ โตโยตา เซลีคา เอกซ์เอกซ์ (TOYOTA CELICA XX) และ โตโย-ตา เซลีคา ซูพรา (TOYOTA CELICA SUPRA) มีการผลิตเฉพาะในญี่ปุ่น รถรุ่นที่ 2 ซึ่งติดป้ายชื่อเดิมอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1981-1985 และก็มีการผลิตเฉพาะในญี่ปุ่นเช่นกัน รถรุ่นที่ 3 ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ชื่อ โตโยตา ซูพรา (TOYOTA SUPRA) อยู่ในสายการผลิตซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอาอิชิ (AICHI) ของญี่ปุ่นระหว่างปี 1986-1993 และรถรุ่นที่ 4 ซึ่งก็มีการผลิตเฉพาะในญี่ปุ่นเช่นกันเริ่มเข้าสู่สายการผลิตเมื่อเดือนเมษายน 1993 และถูกปลดเมื่อเดือนสิงหาคม 2002 โดยไม่มีรถรุ่นใหม่แทนที่ รถรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จึงนับนิ้วได้ว่าเป็นรถรุ่นที่ 5 เป็นการกลับฟื้นคืนสติอีกครั้งหนึ่ง หลังจากรถคูเปอนุกรมนี้สลบไสลไม่รู้ตัวมายาวนานถึง 17 ปี ที่แตกต่างจากรถรุ่นก่อนๆ ซึ่งเป็นรถที่ยักษ์ใหญ่เมืองยุ่นทำขึ้นเองทั้งหมดก็คือ รถรุ่นใหม่นี้เป็นผลงานจากความร่วมมือกับค่าย บีเอมดับเบิลยู (BMW) ของเยอรมนี และเป็นคู่แฝดคนละฝากับรถ บีเอมดับเบิลยู เซด 4 โรดสเตอร์ (BMW Z4 ROADSTER) รุ่นล่าสุดซึ่งเป็นรถเปิดประทุนและชิงเปิดตัวไปก่อนแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 ที่แตกต่างจากรถรุ่นก่อนๆ ทุกรุ่นเช่นกันก็คือ เป็นรถรุ่นแรกที่จะมีการผลิตนอกญี่ปุ่น เคียงคู่กับรถเปิดประทุนของ บีเอมดับเบิลยู คือ ที่โรงงานของค่าย มักนา สไตร์ (MAGNA STEYR) ซึ่งอยู่ในประเทศออสเตรีย โตโยตา ซูพรา (TOYOTA SUPRA) รุ่นที่ 5 มีขนาดตัวถังยาว 4.380 ม. กว้าง 1.865 ม. และสูง 1.290-1.295 ม. เป็นตัวถังที่ออกแบบให้นั่งเพียง 2 คน ถ้ามากกว่านั้นต้องนั่งคันอื่น หน้าตา และรูปทรงองค์เอวของตัวถัง นักวิจารณ์บางคนบอกว่าดูดีกว่ารถของ บีเอมดับเบิลยู บางคนกลับบอกว่ารถเยอรมันดูเข้าท่ากว่า แต่อีกหลายคนก็บอกว่าคือกัน ความเห็นส่วนตัวไม่กล้าฟันธง เพราะรู้สึกรักพี่เสียดายน้อง เหมือนเพลง บัวตูมบัวบาน ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งอีกไม่นานก็จะออกโชว์รูมในฐานะรถรุ่นปี 2020 มีรถให้เลือกรวม 3 โมเดล คือ TOYOTA SUPRA 3.0 (ติดป้ายค่าตัว 49,990 เหรียญ หรือประมาณ 1.600 ล้านบาทไทย) TOYOTA SUPRA 3.0 PREMIUM (53,990 เหรียญ หรือประมาณ 1.728 ล้านบาทไทย) และ TOYOTA SUPRA LAUNCH EDITION (55,250 เหรียญ หรือประมาณ 1.768 ล้านบาทไทย) ทุกโมเดลติดตั้งเครื่องยนต์ของ บีเอมดับเบิล-ยู ซึ่งเป็นเครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 250 กิโลวัตต์/335 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่วนในญี่ปุ่นซึ่งมีกำหนดเริ่มการจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิปี 2019 จะมีรถให้เลือก 3 โมเดลเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศราคาค่าตัว คือ TOYOTA SUPRA SZ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า TOYOTA SUPRA SZ-R ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า และ TOYOTA SUPRA RZ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้ง 3 ขนาดเป็นเครื่องของ บีเอมดับเบิลยู ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง ทุกโมเดลติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่คันเกียร์มีรูปลักษณ์เหมือนเกียร์ของรถแข่ง